- 17 ก.พ. 2562
คนดีถูกรังแก!!"นางฟ้าซาลอน"โพสต์นาทีโทรหาแม่ ร้องไห้ขอย้ายกลับโคราช กลัวคำขู่ผญบ.ข้ามหน้าช่วยลุงป่วยมะเร็ง
จากกรณีเฟซบุ๊ก นางฟ้าซาลอน ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นายฤชวีพัฒน์ หรือกอล์ฟ จิราวัฒน์มงคล ช่างตัดผมจิตอาสา ได้เข้าช่วยเหลือครอบครัวหนึ่ง ในอ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่กำลังลำบาก โดยระบุข้อความว่า "
เราไปขอทานกันเถอะจะได้มีข้าวกิน “ เป็นคำพูดที่ นายอภิเดช ชุมศรี อายุ54ปี ที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ชวนภรรยาของตนเอง ไปขอทานเพื่อให้มีอาหารประทังชีวิต #ช่วยกันแชร์ วันนี้ นางฟ้าซาลอน ได้รับข้อความขอความช่วยเหลือ จึงเดินทาง มาที่ บ้านเลขที่109 หมู่4 ต.เขาจ้าว อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบฯ อยู่หลังบริเวณโรงเรียน ตชด บ้านเขาจ้าว
ซึ่งเป็นกระท่อมที่อยู่อาศัยของ นายอภิเดช ชุมศรี ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแผลที่คอ ตอนนี้แผลมะเร็งลุกลามระเบิดมีแต่เลือดแล้วก็หนองต้องล้างแผลวันละ2ถึง3ครั้งต่อวัน ลุงลำบากมากกินก็ไม่ค่อยได้คอ ตีบและเดือดร้อนมากคือผ้าก๊อตที่จะปิดแผลก็ไม่มี เพราะครอบครัวยากจนมาก มีเพียงนางสำลี ผู้เป็นภรรยาคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง นางสำลี เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวตนเองลำบากมากๆ ตั้งแต่สามีเป็นมะเร็งก็ต้องเดินทางไปรักษา ตามโรงพยาบาลต่างๆทั้งที่หัวหิน และราชบุรี แต่การไปรักษาแต่ละครั้ง พวกตนไม่มีเงินที่จะใช้ซื้ออยู่ ซื้อกิน จึงตัดสินใจพากันกลับมาตายที่บ้าน ตามสภาพที่เห็น
อีกอย่างยังมีลูกลูกสาวอายุ 7 ขวบ ที่ป่วยด้วยเป็นถึง6โรคคือต่อม อานีนอย,ต่อมนำ้เหลือง,ต่อมทอลซิลโต,หัวใจโตและรั่ว, ไตข้างซ้ายทำงานผิดปกติด้วยต้องไปหาหมอที่ศิริราชเดือนนึงหลายครั้ง..... น้องชื่อเด็กหญิงลลิดา ชุมศรี เราเดือดร้อนเรื่องผ้าก๊อตและอุปกรณ์ล้างแผลอาทิตนึงประมาน3ถืง4ร้อยเลยค่ะถ้าซื้อ จนปัจจุบันไม่ทีเงินซื้อผ้าปิดแผล ทพได้เพียงใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดแผลไว้เท่านั้น ที่ดินที่อยู่นี้ก็ไม่มช่ของตนเอง เป็นที่ดินที่ทางวัดให้อาศัยอยู่มา24ปีแล้ว พอน้ำท่วมก็ต้องขึ้นไปอาศัยศาลาวัดอยู่ เพราะเป็นที่ลุ่มติดเขื่อนปราณบุรี
ต่อมาได้มีชายซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านดังกล่าวได้ออกมาคอมเมนต์ในเพจนางฟ้าซาลอน ระบุข้อความว่า "นักข่าวทำข่าวทำข่าวให้ดีหน่อยครับผมผู้ใหญ่หมู่บ้าน ที่ไปทำข่าวก่อนที่ไปทำข่าว มึงทำไมไม่บอกผม มันเดือดร้อนมึงเข้าใจเปล่าแน่จริงมึงมาใหม่"
ต่อมานางฟ้าซาลอนได้โพสต์ข้อความอีกว่า " ในคืนก่อนที่จะวางแผนย้ายจากหัวหินมาที่โคราช แบบกะทันหัน ...ฉันโทรหาแม่...ตอนเที่ยงคืน แม่ฉันเป็นคนพิการทางสายตา ซึ่งตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโทรหาแม่ตอนกลางคืนเลย .... ฉันทำได้แค่ร้องไห้ ให้แม่ฟัง ... แม่ถามว่า เป็นอะไรลูก ... ฉันตอบแม่ แค่ว่า หนูคิดถึงแม่ อยากกลับโคราชไปอยู่กับแม่ .... แม่ฉันยังตอบว่าบ้านเรายากจน อดทน ทำงานไปนะลูก ... ฉันก็บอก แม่อีกครั้งว่าหนูคิดถึงแม่นะ .... โดยที่ไม่ได้บอกแม่เลยว่า ตัวเองโดนคุกคามข่มขู่ใดๆ.....เพราะไม่อยากให้แม่ตกใจกลัว ... แม่ถามเราว่า มึงเมาหรือเปล่า เพราะมึงไม่เคยโทรมาร้องไห้.... เราเลยโกหกแม่ว่าเราเมา ทั้งที่เราไม่ได้ดื่ม .... ในวันนั้นเราอยากบอกรักแม่ เพราะเราไม่รู้ว่า ผู้ใหญ่บ้านคนนั้นจะส่งใครมาทำร้ายเราจนถึงแก่ชีวิตหรือไม่....เรากลัวว่าเราไม่ได้บอกรักแม่ ... แม่เราก็เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่รู้จักสื่อSocial ใดๆ ทุกวันนี้แม่เราเองก็ยังไม่รู้ว่า เหตุผลใดที่เรา ย้ายมาโคราชแบบกระทันหัน... เราสงสารแม่ ถ้าเราเป็นอะไรไป ใครจะดูแลแม่เราในชีวิต จิตอาสา นางฟ้าซาลอน เจออุปสรรคมากมาย และก็ไม่ได้เคยบอกเล่าให้ใครฟัง แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางฟ้าซาลอน ก็จะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้พิการต่อไปจนลมหายใจสุดท้าย ให้สมกับที่ได้รับดอกไม้และอุปกรณ์ตัดผมพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 10
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-"นางฟ้าซาลอน" รุดเยี่ยมครอบครัวตัวอย่าง สามีป่วยพิการภรรยาเฝ้าดูแลไม่ห่าง ขอบคุณคือข้อความแทนใจ นาน 4 ปีแล้วไม่เคยทิ้งเรา
ขอบคุณที่มาเฟซบุ๊ก นางฟ้าซาลอน