- 19 ก.พ. 2562
โผล่มอบตัวเเล้ว ลุงโชเฟอร์รถเเดงหัวร้อน ควักมีดดาบยาวเฟื้อย ข่มขูกลางถนนเชียงใหม่
จากกรณีเหตุการณ์ของรถเเดง บริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนมณีรัตน์ เมื่อวันที่ 11ก.พ. ที่ผ่านมาได้มีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเอาไว้ได้ ขณะที่ทาง คนขับรถเเดงคันหนึ่งได้ชักมีดยาวออกมาจากกระจกฝั่งคนขับ เหมือนจะเป็นการโชว์กร่าง ข่มขู่ ใส่รถเก๋งฮอนด้าสีขาว ที่ขับอยู่ข้างหน้ารถเเดง ซึ่งอาจจะมีการกระทบกระทั่งกันมาก่อน จนทำให้คนขับรถเเดงพยายามจะควักมีดออกมาข่มขู่เก๋งขาว เเต่ก็ไม่ได้มีเรื่องราวบานปลาย (คลิป)
โดยได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมบอกเล่าเหตุการณ์ว่าระหว่างขับรถยนต์ตามเส้นทางถนนด้านนอกคูเมืองเชียงใหม่ ผ่านหน้าโรงพยาบาลเชียงใหม่ แล้วเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทางประตูช้างเผือก ระหว่างนั้นมีรถสี่ล้อแดงรับจ้างขับปาดหน้า จึงบีบแตรเพื่อส่งสัญญาณเตือนไป1 ครั้ง และขับรถแซงไปตามปกติ แต่ปรากฏว่าทำให้คนขับรถสี่ล้อแดงรับจ้างคันดังกล่าวโมโหแล้วขับรถเร่งตาม พร้อมกับนำมีดยาวที่อยู่ในรถถือชูออกมากวัดแกว่งนอกตัวรถด้วย ลักษณะคล้ายการข่มขู่ อย่างไรก็ตามพบว่าต่อมาโพสต์ดังกล่าวได้มีการลบออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง คนขับรถเเดง ถือว่ามีอารมณ์ร้อน เพราะเเค่โดนบีบเเตรใส่ ถึงขั้นควักมีดออกมาขู่เลยทีเดียว
.
รายงานข่าวแจ้งว่าจากการตรวจสอบพบเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครเชียงใหม่ที่ติดตั้งอยู่บริเวณริมถนนมณีนพรัตน์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ บันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.40 น. วันที่ 11 ก.พ.62 พบรถสี่ล้อแดงรับจ้างคันหนึ่งขับจี้ท้ายรถยนต์เก๋งสีขาวอย่างกระชั้นชิดโดยจากการสังเกตที่กระจกด้านคนขับของรถสี่ล้อแดงรับจ้าง พบว่าคนขับรถสี่ล้อแดงได้ถือมีดขนาดยาวไว้ในมือแล้วชูออกมานอกตัวรถ พร้อมกับกวัดแกว่งท่าทางคล้ายเรียกให้คนขับรถยนต์จอด อย่างไรก็ตามรถยนต์สีขาวได้ขับต่อไปตามทางตรง ส่วนรถสี่แดงเลี้ยวขวาเข้าไปด้านในคูเมือง
ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นั้น ในวันนี้ 19 ก.พ. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ นายสน นิยมรัตน์ อายุ 69 ปี ชาวอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ คนขับรถสี่ล้อแดงรับจ้างที่ก่อเหตุดังกล่าว เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและถูกแจ้งข้อกล่าวหา
ซึ่งเจ้าตัว ยอมรับว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยในวันเกิดเหตุมีผู้โดยสารอยู่ในรถจำนวน 1 คน กำลังจะขับไปส่งที่โรงพยาบาลสวนดอก ในช่วงก่อนเกิดเหตุถูกขับรถปาดหน้าและถูกบีบแตรใส่ด้วยความโมโหและโกรธ จึงขับตามไปและก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยเชื่อมั่นว่าคนที่ขับรถยนต์เก๋งคู่กรณีนั้น เป็นผู้ชายอย่างแน่นอน ไม่ใช่ผู้หญิง เพราะหากเป็นผู้หญิงคงจะไม่ขับรถและกระทำลักษณะดังกล่าวกับตัวเอง และตัวเองคงไม่ก่อเหตุเช่นนั้น อย่างไรก็ตามยอมรับผิดและขอโทษกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมถูกดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมาย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุสมควร โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาทและศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธนั้น และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ หากสอบสวนพบว่ามีการขับรถปาดหน้าคู่กรณีจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกฐานความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522
ขอบคุณ
chiangmainews