อนาถ 5 ชีวิต วอนช่วยเหลือหนูน้อย 4 พี่น้อง พร้อมลุงพิการ หลังพ่อแม่ติดคุกยาวกว่า 33 ปี คดีค้ามนุษย์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

พบเด็ก 4 คนและลุงพิการ 1 คน ใช้ชีวิตน่าสงสาร หลังพ่อแม่ติดคุกยาว 33 ปี 13 เดือนคดีค้ามนุษย์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีฐานะยากจน

อนาถ 5 ชีวิต!!เหลือ 5 ชีวิตพร้อมลุงพิการหลังพ่อแม่ติดคุกยาว 33 ปี 13 เดือนคดีค้ามนุษย์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์-มีฐานะยากจนมีอาชีพรับจ้างกรีดยางเก็บเงินได้ 10,000 เปิดร้านคาราโอเกะเล็ก ๆ ในหมู่บ้านเด็กเสริฟอายุ 18 ปีโดนล่อซื้อบริการทางเพศส่งชีวิตหักรับเคราะห์นอนคุกยาว

                 (25 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโลกโซเชี่ยล “เพจดัง “ประเทศคอน”ได้มีการส่งข้อความและภาพ เพื่อขอความช่วยเหลือเด็ก 4 พี่น้องรวมทั้งลุงที่พิการรวม 5 ชีวิตที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.นบพิตำ จ.นคศรีธรรมราช  หลังจากพ่อแม่ถูกจับกุมคดีคามนุษย์ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยขาดโอกาสในการต่อสู้คดี จนเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2561 ที่ผ่านมา ศาลพิพากษาจำคุกสองผัวเมียคนละ 63 ปี 11 เดือน ทิ้งลูก 4 คน อายุ 15 ปี 14 ปี 9 ขวบและ 5 ขวบ รวมทั้งลุงที่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ให้เผชิญชะตากรรมอย่าน่าสงสาร โดยพี่ชายคนโต อายุ 15 ปี ต้องรีบภาระในการเลี้ยงดูน้อง ๆ และลุงพิการด้วยความยากลำบาก  หลังข้อความและภาพถูกเปิดเผยทางโซเชี่ยลได้มีผู้คนเข้าไปชม แชร์ และแสดงความคิดเห็นด้วยความสงสารเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก และระบุถึงความอยุติธรรมและด้อยโอกาสของคนในสังคมไทยอย่างกว้างขวาง

 

                สำหรับข้อความระบุว่า “ขอความกรุณา ขอความช่วยเหลือ ผู้นำครอบครัว  ครอบครัวหนึ่ง ถูกจับในข้อหาค้ามนุษย์ เนื่องจากเปิดร้านคาราโอเกะ ซึ่งมีพนักงานอายุไม่ถึง 18 ปี และเมื่อวันที่14/2/62 ที่ผ่านมาศาลได้มีการพิพากษาจำคุก พ่อและแม่เป็นจำนวนทั้งสิ้นคนละ 63 ปี 11 เดือน  ในข้อหาค้ามนุษย์แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้เหลือคนละ 31 ปี 13 เดือน ภายใต้คำว่ารับสารภาพ ของคนที่มีการศึกษาแค่ ป 6.  คือ  ไม่ได้รู้เลยว่า คดีค้ามนุษย์คืออะไร และโทษร้ายแรงแค่ไหน เค้ารู้แค่ว่า เค้าเปิดร้านคาราโอเกะ เพียงเพราะว่าต้องการหารายให้ครอบครัวเพื่อเลี้ยงลูก 4 คน และหาเลี้ยงพี่ชายที่พิการอีก 1 คน เมื่อมีคนมาสมัครงานและบอกว่าอายุ 19 ปี เค้าก็เลยรับไว้  ซึ่งปัจจุบันหรืออดีตที่ผ่านมาครอบครัวนี้ไม่ได้ร่ำรวยหรือมีเงินทองมากมายแต่อย่างใด ไม่มีรถยนต์ป้ายแดง ไม่มีเงินเก็บในบัญชี ไม่มีที่สวนไร่นามากมาย บ้านที่อยู่ปัจจุบันก็เป็นบ้านที่ทหารสร้างให้ตอนน้ำท่วม

 

                ซึ่งเมื่อญาติ ๆ ได้อ่านสำเนาคดีหลังจากที่จบเรื่องแล้วปรากฎว่า มีทั้งข้อหาที่เป็นจริงและไม่เป็นจริง ซึ่งผู้ที่ทางจำเลยขอให้ช่วยแก้ไขหรือเคลียร์ปัญหาเรื่องนี้ก็ไม่ได้ช่วยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไม่ถูกต้องแต่อย่างใด ซึ่งตั้งแต่วันที่ 14/2 เป็นต้นมาพ่อ-แม่ ของเด็กทั้ง 4 คน ก็ได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว ทำให้ตอนนี้ภาระหนักที่สุดตกไปอยู่ที่พี่ชายคนโต อายุ 15 ปี เค้าต้องหาเลี้ยงน้อง3คน และลุงที่พิการอีก 1 คน   น้องอายุ 5​ ปี ที่เรียกหาแม่ตลอด น้องอายุ 9​ ปี​ ที่กำลังหัดบวกเลข น้องอายุ 14 ​ปี​ ที่กำลังจะอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จึงขอวอนท่านที่มีความรู้เรื่องนี้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว  ขอความกรุณาสอบสวนเรื่องดังกล่าวใหม่อีกครั้ง หรือทำอย่างไรได้บ้างคะ  ทางครอบครัวและผู้ที่เกี่ยวข้องขอน้อมรับทุกความคิดเห็นและข้อเสนอแนะค่ะ เหตุเกิดที่อำเภอนบพิตำ​ ​จังหวัดนครศรีธรรมราชค่ะ ติดต่อ​ 089-2117212 คนละ ​1 แชร์เพื่อเด็ก ๆ นะค่ะ

 

บ้านน่าสงสาร

 

ผู้น่าสงสาร

 

ต่อมาได้ น.ส.สร้อยเพชร  ชัยพนัส อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 7 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ญาติของแม่เด็กได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช โดยกล่าวว่า เดิมพ่อแม่ของเด็กมีฐานะยากจนมีอาชีพรับจ้างกรีดยางพารา และแม่ของเด็กพิการตาบอด 1 ข้าง ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำแม่เด็กได้รับคำแนะนำจากเพื่อนบ้านว่าให้เปิดร้านคาราโอเกะเล็ก ๆ  ใช้เงินลงทุนแค่  10,000 บาทเศษ แม่ของเด็กจึงไปขออนุญาตเปิดร้านคาราโอเกะเล็ก ๆ ในหมู่บ้าน ในระห่างที่รอใบอนุญาตก็ได้เปิดให้บริการไปก่อน และมีสาววัยรุ่นอายุมาสมัครเป็นเด็กเสริฟในร้านระบุว่าอายุ 19 ปี แม่เด็กก็รับไว้ทำงาน แต่เพิ่งมาทราบภายหลังจกโดนจับกุมว่าเด็กสาวคนหนึ่งอายุ 18 ปี อีกคนอายุ 19 ปี โดยพ่อของเด็กก็ประกอบอาชีพรับจ้างกรีดยางพาราเหมือนเดิม

 

                “หลังจากเปิดร้านมาได้ประมาณ 2 เดือนได้มีตำรวจและเจ้าหน้าที่ปราบปรามการค้ามนุษย์ทำการล่อซื้อบริการทางเพศเด็กเสริฟในร้าน ซึ่งเด็กคนที่อายุ 19 ปีเป็นคนรับเงินล่อซื้อโดยที่ทางร้านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายบริการทางเพศเลย แม่ของเด็ก ๆ ก็โดนจับไปพร้อมกับเด็กเสริฟ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าให้รับสารภาพไปก่อนแล้วเขาจะช่วยเหลือเอง โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ว่าคดีค้ามนุษย์จะมีโทษรุนแรงประกอบกับมีความรู้แค่  ป.4 จึงให้การรับสารภาพ และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาจับกุมพ่อของเด็กไปด้วย โดยระบุว่ารู้เห็นและสนับสนุนในการค่ามนุษย์ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เขารับสารภาพว่าเป็นสามีของแม่เด็ก ซึ่งเป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะที่ถูกจับกุมจริง โดยสองผัวเมียไม่ได้มีโอกาสต่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรมเลย จนกระทั้งเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2562 ศาลพิพากษาจำคุกสองผัวเมียคนละ 63 ปี 11 เดือน  แต่เนื่องจากให้การรับสารภาพจึงลดโทษเหลือคนละ 31 ปี 13 เดือน ตอนนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช

 

โพสต์

 

อนาถ 5 ชีวิต วอนช่วยเหลือหนูน้อย 4 พี่น้อง พร้อมลุงพิการ หลังพ่อแม่ติดคุกยาวกว่า 33 ปี คดีค้ามนุษย์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

 

“ขนาดคดีฆ่าคนตายยังติดคุกไม่เท่านี้เลย หลังพ่อแม่เด็กถูกจำคุกทำให้ลุกทั้ง 4 คนต้องเผชิญชะตากรรม มีเพียงพี่ชายที่ต้องออกจากโรงเรียนไปชกมวยหาเงินเลี้ยงน้อง ๆและลุงที่พิการตาบอด มือกุดช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้ เด็ก ๆ อยู่กันอย่างอยากลำบากต้องออกจากโรงเรียนกลางคันกันทั้งหมด ญาติ ๆ และซึ่งมีฐานะยากจนเช่นกันก็ช่วยเหลือไปตามยถากรรม ซื้อข้าวสารครั้งละ 1 -2 กก. ไข่ไก่ และปลากระป๋องไปให้  และตั้งตารอคอยพ่อแม่พ้นโทษออกมา แต่ติดคุก 33 ปี 13 เดือนไม่นานมากก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตในวันข้างหน้าของเด็ก ๆ ทั้ง 4 คนจะเป็นอย่างไร อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในทางคดีกับพ่อแม่ของเด็ก ๆ รวมทั้งช่วยเหลือเด็ก ๆ และลุงที่พิการด้วยเถิด สำหรับการช่วยเหลือในทางคดีคงไม่ขอให้พ้นผิด พ้นโทษไปเสียทีเดียว อย่างน้อยแม่เด็กก็มีความผิดที่เปิดรานคาราโอเกะ และรับเด็กเสริฟอายุไม่ถึงตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ขอเพียงแค่ให้ลดโทษเหลือเพียง 5-10 ปีก็น่าจะเพียงพอ ซึ่งในขณะนี้เด็ก ๆ และลุงพิการอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ 7 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช น.ส.สร้อยเพชร กล่าว.

 

นักมวย

 

บ้านเก่าๆ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฝันเป็นจริง เปิดภาพล่าสุด 2 เด็กน้อยยากจน สวมชุดนักกีฬาวิ่งครบเหมือนคนอื่นๆ รู้เลยมีความสุขมากแค่ไหน

วอนผู้ใจบุญทั้งหลาย มอบโอกาสในการใช้ชีวิตใหม่แก่ เด็กน้อยผู้เป็นอนาคตของชาติ ป่วยเป็นมะเร็ง-ลิ้นหัวใจรั่ว-กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

สุดปลื้มใจ เด็กน้อยไร้เดียงสา ก้มลงไหว้อย่างนอบน้อม ในวันที่แม่กำลังเข้ารับปริญญา ทั้งที่ไม่มีใครบอกให้ทำ

ภาพ/เพจ "ประเทศคอน"

ข่าว  ยุทธนะ  เตมะศิริ สำนักข่าวทีนิวส์นครศรีธรมราช