- 28 ก.พ. 2562
ตั้ง 10 ข้อหาหนัก บุกทลายผับกลางเมืองสระบุรี พบเด็ก เหล้า ยา อาวุธ การพนัน นักเที่ยวอัพยา ฉี่สีม่วง 53 คน ยาเสพติดเกลื่อนร้าน
ผู้ปกครองเด็กสุดทน ร้องเรียน ว่าลูกสาวไปเที่ยวผับ กลับมาบ้าน เจอยาเคในกระเป๋า ผับย่านสระบุรี ปล่อยให้เด็กเข้าใช้บริการ มั่วสุมเสพยา ทุกคืน
วันที่ 28 ก.พ.62 เวลา 01.40 น. ศูนย์อำนวยการประสานกำกับติดตามการปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558(ศอ.กต.) โดยกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นำโดยนายแสงประทีป โกมลบุตร ผู้ตรวจราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง
นำโดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับ สืบสวนและปราบปราม สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง นายนฤนาท เมืองแสน ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองสระบุรี ทหารกองทัพภาคที่ 1 กรมควบคุมโรค กรมสรรพสามิต และสำนักงาน ปปส. นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุม ร้านย่านสระบุรี ตั้งอยู่ถนนมิตรภาพ ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี พบเป็นสถานบริการ ที่ตั้งอยู่นอก zoning มีนาย กมล อรุณสันติโรจน์ อายุ 74 ปี เป็นผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่าร้านย่านสระบุรี ตั้งอยู่ อำเภอเมืองสระบุรี มีการอนุญาตหรือยินยอมให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ ซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น ปล่อยปละละเลยให้ผู้เข้าใช้บริการเสพสารเสพติดภายในร้าน โดยมีเอเย่นต์ค้ายาเสพติดแฝงตัวอยู่ภายในร้าน และเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งถือว่าเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง หน.คสช.ที่ 22/2558 นอกจากนี้ มีผู้ปกครองเด็ก ร้องเรียนผ่านเพจปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองด้วย ว่าลูกสาวไปเที่ยวผับ กลับมาบ้าน เจอยาเคในกระเป๋ากางเกง ผับย่านสระบุรี ปล่อยให้เด็กเข้าใช้บริการ มั่วสุมเสพยา ทุกคืน
จากการสืบสวนพบว่า สถานบริการ มักเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดเป็นประจำ ปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ และมีการปล่อยปละละเลยให้มีการซื้อ ขาย เสพยาเสพติดภายในสถานบริการ เช่น ในห้องน้ำภายในสถานบริการ โดยเมื่อผู้ใช้บริการเสพยาเสร็จเรียบร้อย พนักงานทำความสะอาดจะรีบทำความสะอาดและกำจัดอุปกรณ์การเสพที่ตกอยู่ตามพื้นทิ้งทันที เพื่อไม่ให้เป็นหลักฐานว่าสถานบริการรู้เห็นกับผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ ก่อนเข้าจับกุม เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง (ชุดสายลับ) ได้แฝงตัวเป็นนักเที่ยวเข้าทำการสืบสวน เมื่อเกินเวลาตี 1 ซึ่งเลยเวลาเปิดทำการตามกฎหมายของสถานบริการดังกล่าวไปแล้วครึ่งชั่วโมง ก็พบว่าสถานบริการยังคงไม่มีทีท่าที่จะเช็คบิลปิดทำการแต่อย่างใด นักเที่ยวยังคงดื่มกินและเต้นกันอย่างเมามันตามจังหวะดนตรีของทางร้าน นอกจากนี้ยังพบว่าร้านยังคงจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปกติ แม้ว่าจะเลยเวลาเปิดทำการตามกฎหมายไปแล้วก็ตามสายลับจึงให้สัญญาณแก่ชุดจับกุมเข้าดำเนินการตรวจสอบจับกุม เมื่อกำลังของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางมาถึง พบว่าสถานบริการ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน ดื่มกิน อยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงแสดงตัวขอตรวจสอบ โดยให้ปิดเสียงดนตรี และเปิดไฟภายในร้าน ทำให้นักเที่ยวต่างแตกตื่น นักเที่ยวที่พกยาเสพติด ต่างก็โยนยาเสพติด และอุปกรณ์การเสพ ลงพื้นเกลื่อนกลาด มีทั้ง ยาไอซ์ และยาเคตามีน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ตรวจค้นตัว นักเที่ยวและพนักงานร้าน พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด สิ่งเทียมอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 2 นัด ยาเสพติด ยาไอซ์ และยาเค เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนักเที่ยวแยกชายหญิง เพื่อตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ ผลการตรวจสอบพบว่า นักเที่ยวที่มีปัสสาวะเป็นสีม่วง จำนวน 53 คน เป็นชาย 29 คน เป็นหญิง 24 คน พบเยาวชน อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน 35 คน เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 14 คน โดยมีอายุต่ำสุดเพียง 16 ปี เท่านั้น และพบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 23 คน
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้แจ้งข้อหาแก่ผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ ดังนี้ คือ 1.เปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด3.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ 4.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ 5.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร 6.ไม่จัดทำบัตรประวัติพนักงานให้เป็นไปตามกฎกระทรวง 7.ยินยอม หรือปล่อยปละละเลยให้มีการนำอาวุธปืนเข้าไปในสถานบริการ 8.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้ไม่มีเอกสารราชการซึ่งมีภาพถ่ายและระบุอายุเข้าไปในสถานบริการ 9.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี 10. จำหน่ายสุราให้กับเด็ก
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม กรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครองจะกวดขัน จับกุม ปราบปราม สถานบริการที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง พร้อมฝากถึงผู้ประกอบการสถานบริการว่า ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมีหน้าที่ต้องระมัดระวังไม่ให้มีเด็กเข้าไปใช้บริการ เปิดทำการในเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่จำหน่ายสุราเกินเวลา และเรื่องยาเสพติด ซึ่งหลังจากนี้ นายอำเภอเมืองสระบุรี จะได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตสถานบริการแห่งนี้ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สันดานชั่วเป็นหางว่าว!! เปิดประวัติ "กฤษณะ" โชเฟอร์บัสมรณะ พัวพันยาเสพติดตั้งแต่ปี 45 อ่านดูชัดๆ ยังมีอึ้ง...ปล่อยมาได้ถึงขนาดนี้!??
- จนท. บุกทลายผับดัง กลางเมืองสระบุรี พบนักเที่ยวอัพยาฉี่สีม่วง 53 คนยาเกลื่อนพื้น
- ชุดปฎิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจผับ 56 ARENA พบยาเสพติดตกเกลื่อนพื้นกว่า 200 รายการ(คลิป)
ภาพ/ข่าว ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสระบุรี