- 04 มี.ค. 2562
เข้าหน้า นอกเหนือจากการชูนโยบายจะช่วยโน่น ช่วยนี่ ของแต่ละพรรคแล้ว พรรคการเมืองที่อ้างตัวว่าเป็นประชาธิปไตยหลายพรรคยังชูนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร นำนโยบายนี้ไปใช้ในการหาเสียง บอกว่าไม่จำเป็นต้องมีการเกณฑ์ทหารบ้างละ บอกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าการบังคับเกณฑ์ทหารส่งผลกระทบต่อความสามารถในการผลิตของประเทศและการบังคับเอาคนที่ไม่เต็มใจมาเป็นทหารย่อมทำลายประสิทธิภาพในการทำงานให้กองทัพบ้างละ หรือแม้กระทั่งที่บอกว่าประเทศไทยเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเกณฑ์ทหาร เพราะในบางพื้นที่มีคนสมัครมากกว่าจำนวนที่เกณฑ์ และที่สำคัญก็คือว่าขณะนี้เรามิได้มีศึกสงคราม ก็ว่ากันไปสุดแท้แต่ใครจะชูนโยบายนะคะซึ่งสุดท้ายแล้วนโยบายการยกเลิกเกณฑ์ทหารจะโดนใจคุณผู้ชมมากน้อยขนาดไหน 24 มี.ค.นี้ รู้กัน
นโยบายการยกเลิกเกณฑ์ทหารส่วนใหญ่จะเป็นพรรคตระกูลเพื่อที่ชูนโยบายอย่างร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุถึงการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารกล่าวว่า... "จากข้อมูลของซีไอเอ ระบุว่า ขณะนี้มี 88 ประเทศในโลกที่ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารไปแล้ว ไม่ใช่แค่ 13 หรือ 29 ประเทศอย่างที่โฆษกกระทรวงกลาโหมอ้าง ไม่ทราบว่าท่านอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งไหน ส่วนที่อ้างว่าฝรั่งเศสมีความคิดจะกลับมารื้อฟื้นการเกณฑ์นั้น ท่านไม่เห็นหรือว่า ช่วงนี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศสโดนต่อต้านรุนแรงขนาดไหน แม้ว่าสาเหตุหลักของการจลาจลเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา จะพุ่งเป้าไปที่เรื่องการขึ้นภาษีน้ำมัน แต่ในช่วงหลังได้ลุกลามไปเป็นนโยบายด้านอื่นๆ ด้วย แล้วท่านคิดว่าคนฝรั่งเศสจะยอมถูกบังคับเกณฑ์ทหารงั้นหรือ เพราะฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกๆ ที่ยกเลิกการเกณฑ์ทหารหลังเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศส นอกจากนี้ ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าการบังคับเกณฑ์ทหารส่งผลกระทบต่อความสามารถในการผลิตของประเทศและการบังคับเอาคนที่ไม่เต็มใจมาเป็นทหารย่อมทำลายประสิทธิภาพในการทำงานให้กองทัพ ดังนั้น ข้ออ้างของโฆษกกระทรวงกลาโหมจึงไม่มี
น้ำหนัก ที่สำคัญ ต้องเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร แต่เปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครใจ และกองทัพอย่าอ้างว่าทำไม่ได้ เพราะเคยเลิกบังคับเกณฑ์ทหารแล้วใช้ระบบรับสมัครมาแล้ว 2 ครั้งในอดีต และมีคนสมัครจนล้นทั้ง 2 ครั้ง แต่ตอนหลังก็เลิกทำไปเฉยๆ หลังจากเข้ามามีอำนาจทางการเมือง ซึ่งโฆษกกระทรวงกลาโหมก็ยอมรับเองว่า ทุกวันนี้ มีคนสมัครเป็นพลทหารฯเยอะตั้งเกือบ 50% ดังนั้น ถ้ากองทัพลดปริมาณทหารเกณฑ์ที่จะเรียกใช้งานลงได้ครึ่งหนึ่ง ข้อเสนอให้ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร แล้วใช้ระบบสมัครใจ 100% ย่อมเป็นไปได้ ไม่ใช่การขายฝัน
ทางฝ่ายคุณจตุพร พรหมพันธ์ บอกว่าตนเองก็เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเกณฑ์ทหารในสภาผู้แทนราษฎร จึงมีความเข้าใจในเรื่องการเกณฑ์ทหารเป็นอย่างดี ตนได้เคยมีโอกาสพูดคุยกับอดีตผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในประเด็นเกี่ยวกับการสร้างทหารอาสา หมายความว่าเราจะได้บุคคลที่มีความเต็มใจ ที่จะเป็นทหารรับใช้ชาติ และใช้หลักคิดว่า ทุกอาชีพต่างก็รับใช้ชาติได้ มิใช่ว่าจะต้องไปเป็นทหารแค่อย่างเดียว ในวัย 21 ปีตนเองก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องไปเกณฑ์ทหาร ตนเห็นว่าในวันนี้ประเทศไทยเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเกณฑ์ทหาร เพราะในบางพื้นที่มีคนสมัครมากกว่าจำนวนที่เกณฑ์ และที่สำคัญก็คือว่าขณะนี้เรามิได้มีศึกสงคราม" คุณจตุพร บอกว่า การจะเป็นนักรบต้องมีความเต็มใจและมีความหมายมุ่ง การจะจับคนที่มีความถนัดอีกสาขาหนึ่ง ไปเป็นทหารมันไม่สอดคล้องกัน เพราะชาติจะต้องประกอบด้วยประชาชนทุกฝ่าย ทหารต้องทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติ เวลานี้เมื่อทหารมาบริหารชาติเห็นหรือไม่ เศรษฐกิจก็ทรุด ทหารถ้าไปอยู่ตามแนวชายแดนเป็นรั้วก็จะทำหน้าที่เป็นอย่างดีเพราะตรงกับอาชีพ แต่ทันทีที่ย้ายรั้วมาไว้ที่ห้องรับแขก เศรษฐกิจพังพินาศหมด เพราะการทำงานที่ผิดหน้าที่ ซึ่งเป็นการชัดเจนแล้วว่า 5 ปีนี้ งานที่ทหารไม่ถนัดก็คือการบริหารประเทศ ทหารฝึกเอาไว้รบ ไม่ใช่มาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และตนยังเชื่อว่าหากมีการบริหารจัดการ จัดระบบ จำนวนทหารอาสาที่กองทัพมีความต้องการ ก็จะเพียงพอกับปริมาณ จะไม่ตกหล่น ไม่จำเป็นต้องเกณฑ์ทหารอีกต่อไป นี่คือคุณจตุพรนะคะ
ประเด็นนี้เองค่ะสร้างความเป็นห่วงเป็นใยต่อกระทรวงกลาโหมเป็นอย่างมากโดย พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ออกมาบอกว่า "ไม่อยากให้พรรคการเมืองนำเรื่องการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ไปเป็นนโยบายในการหาเสียงพร้อมถามว่า หากยกเลิกแล้วจะรับมือกับสถานการณ์ภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ซึ่งวันนี้ต้องศึกษาทำความเข้าใจ พลทหารทุกคนเป็นรั้วของชาติ จึงอยากขอให้คำนึงจิตใจของทหารเกณฑ์ และการไปริดรอนสิทธิเหล่านี้ แล้วต่อไปจะมีใครมาสมัครใจเป็นทหารต่อไป พร้อมขอให้กลับมาทบทวนเรื่องนี้ เพื่อให้เกียรติกันและให้กำลังใจกันในการทำงานและเชื่อว่าชายไทยทุกคน
จะมีความภาคภูมิใจ และมาสมัครเป็นทหาร โดยแต่ละปีคนที่สมัครมาเป็นทหารมีเปอร์เซ็นต์ที่แตกต่างกัน พล.ท.คงชีพ ได้ชี้แจงประเด็นการเกณฑ์ทหาร เพราะมีการนำเรื่องนี้ไปหาเสียง จึงต้องมีการทำความเข้าใจต่อสังคม เพราะเรื่องนี้เป็นมิติของความมั่นคงที่มีผลกระทบรอบด้าน โดยย้ำว่ารัฐธรรมนูญไทย ทุกฉบับ โดยเฉพาะฉบับล่าสุดปี 2560 กำหนดหน้าที่ของรัฐในการพิทักษ์รักษาซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การรักษาเอกราช อธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติและความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งนี้ ภาพรวมของทหารมีการใช้กำลัง 1 ใน 3 ไปปฏิบัติภารกิจการป้องกันชายแดน รวมถึงพื้นที่ภาคใต้ อีก 2 ใน 3 จะฝึกตามวงรอบ
เหตุผลที่กองทัพต้องมีการเกณฑ์ทหารคือ ในกฎหมายรัฐธรรมนูญทุกฉบับได้บัญญัติไว้ และ มีพ.ร.บ.การรับราชการทหาร พ.ศ.2497 เนื่องจากมิติความมั่นคง ต้องรักษาดุลยภาพ เป็นพลังอำนาจ หน้าที่ทหารทำตามนโยบายรัฐบาล โดยใช้กำลังทหาร ในการป้องกันประเทศพัฒนาประเทศ และเตรียมกำลังในการดูแลชายแดน ช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติ รวมทั้งภัยคุกคามรูปแบบใหม่ และที่ผ่านมาปรับแก้หลายครั้ง
ยืนยันว่า ประเทศไทยมีทั้งการเกณฑ์ทหารและสมัครใจ โดยแต่ละปี มีคนสมัครใจมากขึ้นจนถึงปัจจุบันมีถึงร้อยละ 45 หรือมีทหารเกณฑ์ ประมาณปีละ 70,000 นาย และการเกณฑ์ทหารในแต่ละปีจะดูตามภารกิจ สำหรับสิทธิของทหารกองประจำการได้แก่ -เงินเดือน + เบี้้ยเลี้ยง 10,000 บาท -เบี้ยเลี้ยงราชการนอกพื้นที่ตั้ง วันละ 120 บาท -ปฏิบัติราชการพิเศษ วันละ 200 บาท -สิทธิการรักษาพยาบาลฟรี -การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สมัครรับราชการต่อได้จนถึงอายุ 25 ปี -สิทธิพิเศษในการสอบคัดเลือก เพื่อเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ -การฝึกและส่งเสริมวิชาชีพก่อนปลดประจำการ
ทหารยังมีความจำเป็นแก่สังคมไทยหรือไม่ ถ้าไม่มีการเกณฑ์ทหารแล้วคนที่จะไปสมัครจะเพียงพอต่อความต้องการของกองทัพหรือไม่ แล้วถ้าไม่เพียงพอเมื่อเกิดศึกสงครามประเทศไทยจะทำยังไง ใครจะเป็นคนช่วยเหลือปกป้องประเทศไทยเราคะ พวกนักการเมืองที่ออกมาต่อต้านการเกณฑ์ทหารเหล่านั้นหรอ จริงอยู่ว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่การขัดแย้งกันเองในบ้านเมืองของเราก็เกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง และเกือบทุกครั้งใครเป็นคนยุติปัญหานั้น ทหาร ใช่มั๊ยคะ?? ถ้าอย่างนั้นเราไปฟังความคิดเห็นของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กันหน่อยดีกว่าได้พูดถึงเรื่องการยกเลิกเกณฑ์ทหาร เมื่อครั้งที่ได้ไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คุณผู้ชมทราบมั๊ยคะว่า สหรัฐฯ ใช้ระบบทหารเน้นสร้างทหารอาชีพ รัสเซีย ใช้ระบบเกณฑ์ทหารตั้งแต่ปี 1967-ปัจจุบัน ชายรัสเซียทุกคนต้องเป็นทหารคนละ 1 ปี เกาหลีใต้ ชายทุกคนต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร คนละ 1 ปี 8 เดือน สิงคโปร์ ชายทุกคนเมื่ออายุครบ 18 ปี ต้องเกณฑ์ทหารไม่มีข้อยกเว้น แต่เอาให้ชัดค่ะ ดูที่ประเทศไทยของเราใช้ทั้งวิธีการเกณฑ์ทหาร และสมัครใจ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ได้กล่าวมาเมื่อพูดตามหลักความเป็นจริงแล้วเห็นชัดเจนเลยว่า ประเทศไทยยังจำเป็นต้องเกณฑ์ทหารเพื่อความมั่นคงของประเทศและช่วยเหลือด้านภัยพิบัติที่นับวันจะมีมากขึ้น แล้วคุณผู้ชมละคะ คิดว่าการยกเลิกเกณฑ์ทหารสมควร หรือไม่??
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "บิ๊กป๊อก" ปราม "นักการเมือง" อย่าดีแต่พูด! ต้องเป็นนโยบายทำได้จริง ปัดตอบเรื่อง "ดีเบต" ชี้ เป็นสิทธิของคนที่จะไป
- สุชาติ ชวางกูร ชำแหละเศรษฐีนักการเมือง! ความจริง2475 รัชกาลที่7รักษาชีวิตคนไทย
คุณผู้ชมสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมและย้อนหลังได้ที่เพจ เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก และทางยูทูปช่องทีนิวส์ ออนไลน์นะคะ