ลูกชาย ร้องขอความยุติธรรม พ่อถูก "รถปูน" ขับแข่งกันชนดับ ต้องเสียหัวเรือหลักของบ้าน (คลิป)

วานนี้ 4 มี.ค.2562 เวลา 05.50 ร.ต.อ.นราธิป  ศรีษะนาราช รอง.สว.สอบสวน สน.คันนายาว ได้รับแจ้งเหตุรถปูนเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป ที่บริเวณ ถนนสุขาภิบาล 5 มุ่งหน้าวัชรพล เขตคันนายาว กรุงเทพฯ  จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย อาสาสมัครตำรวจบ้าน สน.คันนายาว และ แพทย์นิติเวช

ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 ก่อนถึง 5 แยกวัชรพลประมาณ 200 เมตร พบศพ นายสัมพันธ์ มุสิกมาศ ถัดไปพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นสกู้ปปี้ โอ สีน้ำเงิน ทะเบียน ษมร 280 กรุงเทพ สภาพด้านข้างพังเสียหาย  ที่บังเท้าหลุดออกมา จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่า รถโม่ปูน (ไม่ทราบทะเบียน เนื่องจากภาพตัดมุมกล้องพอดี ) ขับมาตามทางก่อนถูกรถปูนชนเข้าด้านข้างเสียหลักล้มลงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที
 

นาย มนตรี มุสิกมาศ บุตรชายผู้เสียชีวิต  พ่อของตนเองทำงานเป็นคนขับรถให้กับนายจ้างชาวญี่ปุ่น โดยวันจันทร์ถึงวันศุกร์จะออกจากบ้านตั้งแต่ตี5 ทุกวันโดยใช้รถมอเตอร์ไซค์   และในวันที่ 4 มี.ค.2562 พ่อของตนเองก็ออกจากบ้านตามปกติโดยใช้รถมอเตอร์ไซค์  จนมาถึงช่วงเวลา 09.00 น.ทาง โรงพยาบาลติดต่อมาหาตนเอง และบอกว่าพ่อของตนเองเสียชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลในเวลานี้ ตนเองจึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล  จากนั้นตนเองได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณ ถนนสุขาภิบาล 5 มุ่งหน้าวัชรพล เขตคันนายาว กรุงเทพฯ  และขอดูกล้องวงจรปิดตามห้างร้านต่างๆ ที่อยู่บริเวณนั้น จนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านสะดวกซื้อที่อยู่บริเวณนั้น ปรากฏว่า ช่วงเวลา05.55 น.มีรถบรรทุกปูน 2 คัน ขับแข่งกันมาด้วยความเร็ว บริเวณถนนสุขาภิบาล 5 มุ่งหน้าวัชรพล พอใกล้จะถึงไฟแดงห้าแยกวัชรพล มีรถเก๋งคันหน้า ชะลอความเร็ว ทำให้รถปูนเบรคไม่ทันเบี่ยงรถหลบไหล่ทางซ้าย ทำให้ช่วงล้อหลังของรถปูนชนกับรถมอเตอร์ไซต์ของพ่อตนเอง ที่วิ่งอยู่ไหล่ทางด้านซ้าย ทำให้ตัวพ่อของตนเองกระเด็นมากองอยู่ข้างถนน

 

ส่วนรถมอเตอร์ไซค์กระเด็นขึ้นฟุตบาทไปหลายเมตรแต่โชคดีที่รถปูนที่ขับแข่งตามมาติดๆอีกคันไม่ทับร่างพ่อตนเอง จากนั้นรถปูนคันดังกล่าวก็หลบหนีไปโดยที่ไม่จอดลงมาดูเลย ซึ่งตอนนั้นพ่อของตนเองก็ยังรู้สึกตัวอยู่และมีรถมูลนิธินำส่งโรงพยาบาล แต่ก็มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว  

 

นาย มนตรี กล่าวต่ออีกว่า ตัวของคุณพ่อเองถึงจะอายุมากแล้วแต่ก็ยังเป็นหัวเรือหลักของที่บ้านอยู่ เพราะเมื่อห้าปีที่แล้วก็พึ่งเสียคุณแม่ไป ทำให้เราอยู่กันแค่ 3 คนพ่อลูก ตนเองกับน้องชายจึงรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  อยากวอนให้ผู้ที่ขับรถปูนในวันนั้น เข้ามอบตัวกับเจ้าที่ตำรวจเถอะเพราะรถ อย่าหลบหนีต่อไปเลย เพราะคิดว่าหลักฐานจากกล้องวงจรปิดคงตามตัวมาดำเนินคดีไม่ยาก

ด้าน พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผู้กำกับสน.คันนายาว กล่าวว่า ขณะนี้ตนเองได้สั่งการไปยังฝ่ายสืบสวน ให้ออกสืบตามหารถปูนในคลิป ซึ่งพอทราบเบาะแสเบื้องต้นแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการจับกุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.คันนายาว และ กำลังตรวจสอบเจ้าของบริษัทรถปูนให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบในด้านมนุษยธรรม