ล่ามญี่ปุ่นแฉ แม่วัยใสมัวหลงแฟนใหม่ ทิ้ง 2 ลูกน้อย โดนน้ำร้อนลวกหวิดดับ

กลายเป็นเรื่องที่ทำเอาชาวโซเชียลสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ธนากร ใจสุขสกุลดี" (ล่ามภาษาญี่ปุ่น) ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวความจริงที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับแม่ชาวญี่ปุ่น วัย 22 ปีรายหนึ่ง โดยเล่าไว้ว่า...นางสาว Hashimoto Kaho วัย 22 ปี และนาย Tanaka Satoshi คนรักหนุ่มคนใหม่ที่เธอโพสต์ลง IG แบบคลั่งไคล้หลงใหลเหลือเกินจนถึงกับทิ้งลูกน้อยสองคนไว้ในอพาร์ตเมนต์แล้วออกไปเที่ยวคลับเที่ยวบาร์กลางคืนและเล่นปาจิงโกะอย่างสนุกสนาน 

ข่าวบอกว่าเธอน่าจะทิ้งลูกน้อยทั้งสองให้เผชิญชะตากรรมอยู่ในห้องตามลำพังถึงสองวันเต็มๆ นี่ถ้าหากเด็กชายวัยห้าขวบไม่เดินออกไปขอความช่วยเหลือ ไม่แน่ว่าหนูน้อยน้องสาววัยสามขวบอาจจะไม่รอดชีวิตก็เป็นได้ ข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คุณแม่รายนี้ตั้งท้องและคลอดลูกชายคนโตตั้งแต่เรียนอยู่มอ 5 โรงเรียนมัธยมปลาย โอมิยะ จังหวัดไซตามะ พอเรียนจบชั้นมอปลายเธอได้ แต่งงานกับพ่อของเด็ก และได้ย้ายตามสามีวัยหนุ่มไปใช้ชีวิตที่นครโอซากะหลายปี หลังจากคลอดลูกสาว 

 

 

เธอมีปัญหากับครอบครัวอย่างรุนแรง ถูกสามีวัยรุ่นทำร้ายร่างกายจนต้องหย่าขาดจากกัน หลังจากนั้นเธอก็หอบลูกเล็กๆสองคนกลับมาหาพ่อแม่ที่บ้านเกิดอำเภอโซกะ จังหวัดไซตามะ วัยรุ่นแต่งงานกันสุดท้ายก็ลงเอยแบบนี้ล่ะ เดือนสิงหาคมปีที่แล้วเธอพบรักกับไอ้หนุ่มคนขับรถวัย 21 ปีคนปัจจุบันนี่แหละ เธอจึงหอบลูกสองคนย้ายมาอยู่กับแฟนใหม่ ข่าวบอกว่าเมื่อก่อนเธอก็รักลูกดีอยู่บ้าง แต่หลังจากที่มีแฟนใหม่เป็นไอ้หนุ่มวัยรุ่นรูปหล่อ เธอก็เริ่มทำร้ายลูกชายและลูกสาว ทั้งทิ้งลูกให้อยู่กันตามลำพังแล้วออกไปเที่ยวคลับกลางคืนถึงรุ่งเช้า เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พ่อแม่ของเธอเคยเข้าไปปรึกษาศูนย์คุ้มครองเด็กมาแล้วล่ะว่า สงสัยว่าเธอได้ทำร้ายร่างกายลูก แต่ตำรวจก็ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนมากพอ เธอเลยรอดตัวไป

 

 

จนวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมาเธอบอกว่าพลั้งมือทำน้ำร้อนลวกตัวลูกสาวครึ่งตัวแล้วใช้พลาสติกคลุมอาหารพันตัวลูกสาวไว้แบบลวกๆแล้วออกไปเที่ยวตั้งแต่วันที่ 4 จนถึงเวลาสามทุ่มของวันที่ 5 เลยล่ะ ตอนสายๆของวันที่ 5 ท่ามกลางสายฝนพรำ เด็กชายวัยห้าขวบสวมแค่ชุดนอนได้เดินออกจากบ้านไปขอความช่วยเหลือจากลุงเจ้าของร้านซ่อมจักรยานคนหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์มากนัก เด็กน้อยร้องหาแม่และบอกว่าน้องสาวแย่แล้วล่ะ ผิวหนังเริ่มหลุดลอกออกมา ลุงช่วยด้วย ลุงวัย 49 ปีจึงพาเด็กชายไปส่งที่ห้องและเด็กชายร้องไห้อย่างน่าสงสาร ลุงจึงฉุกคิดได้ว่าต้องมีอะไรไม่ดีอย่างแน่นอน จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงอย่างรวดเร็วและพบหนูน้อยเด็กหญิงนอนในสภาพนุ่งแพมเพิร์สตัวเดียว ผิวหนังหลุดลอกออกจนหมดสติ หนูน้อยคงเจ็บมากจนหมดสติไป เคราะห์ดีมากที่พี่ชายกล้าหาญเดินออกไปขอความช่วยเหลือ และโชคดีมากที่ลุงเจ้าของร้านซ่อมจักรยานฉลาดและมีน้ำใจรีบไปดูให้

 

 

ขณะนี้หนูน้อยอยู่ในการดูแลของแพทย์ อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนเด็กชายถูกส่งไปอยู่ที่ศูนย์คุ้มครองเด็กแล้ว 
คุณแม่ยังสาวกับแฟนหนุ่มถูกตำรวจตั้งข้อหาหนักและ นอนคุกรอส่งฟ้องศาลต่อไป คดีนี้รู้สึกสลดใจสงสารทุกคนที่เกี่ยวข้องมากๆ และคดีแบบนี้ผมไม่อยากเปรียบเทียบกับสังคมไทย เพราะมันเปรียบเทียบกันไม่ได้และไม่ควรเอาไปเปรียบเทียบ

 

 

ญี่ปุ่นมีสวัสดิการเพื่อเด็กสุดแสนดีเลิศในระดับหนึ่ง เพียงแต่พ่อแม่คนหนุ่มสาวสมัยนี้ ขี้เกียจไปขอความช่วยเหลือจากอำเภอหรือศูนย์คุ้มครองเด็กเพียงเพราะว่ากลัวจะโดนข้อหาทำร้ายเด็กแค่นั้นแหละ ข่าวนี้ทำเอาผมจิตตกและเศร้าใจสุดๆเป็นวัน แย่จริงๆ ส่วนตัวผมและคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่คิดว่าเธอตั้งใจทำให้ลูกตายไปทีละคน ทีละคน เพื่อจะได้ไปเสวยสุขกับผัวใหม่แบบไม่มีพันธะ ภาระผูกพัน ซึ่งมันเลวร้ายมากมายเกินกว่าจะให้อภัย ช่างน่าอนาถใจกับสังคมคนรุ่นใหม่เสียจริง.

 

 

ขอบคุณ : ธนากร ใจสุขสกุลดี