- 08 มี.ค. 2562
สภาพศพมีการงอขา ตะแคงศีรษะ ชิ้นส่วนร่างกายอยู่ครบตามปกติ คาดเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน
วันนี้ (8 มี.ค.62)ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ศูนย์วิทยุสื่อสาร 191 สภ.ศีขรภูมิ ได้รับการประสานจาก สภ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ว่า นายสมเดช แก้วสว่าง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302หมู่ 4 ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้ไปขอมอบตัว พร้อมกับบอกสาเหตุอย่างละเอียดว่า ได้ฆ่านางเมา หรือปิ่ม พร้อมสันเที๊ยะ อายุ 42 ปี ภรรยาแล้วฝังดินไว้ที่สระน้ำ ในที่นาของน้องสาว ที่กำลังจะแห้ง ท้ายหมู่บ้านทุ่งรูง ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ หลังจากรับแจ้งเรื่องแล้ว พ.ต.อ.สมชาย คมพยัคฆ์ ผกก.สภ.ศีขรภูมิ พ.ต.ต.วิทวัฒน์ แก้วเหลา พนักงานสอบสวนฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ศีขรภูมิ พร้อมด้วย อาสาสมัครสมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุดอ.ศรีณรงค์ อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ จุด อ.ศีขรภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 50 นาย รุดไปที่เกิดเหตุ ตามพิกัดที่ได้รับแจ้งมา จนกระทั่งพบสระน้ำขนาดใหญ่ ความลึกถึงก้นสระน้ำประสาน 3 เมตร และน้ำกำลังแห้ง ท้ายหมู่บ้านทุ่งรูง ห่างจากหมู่บ้านราว 700 เมตร ก้นสระน้ำพบหน้าดินคล้ายๆกับมีการเพิ่งขุดและฝังกลบสิ่งของอะไรสักอย่าง
จากนั้นอาสาสมัครสมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุดอ.ศรีณรงค์ อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ จุด อ.ศีขรภูมิ ได้ทำการค่อยๆ ขุด จนกระทั่งพบศพถูกฝังลึก ประมาณ 1 เมตร จากนั้น ได้ นำศพขึ้นมา ทราบชื่อผู้ตายคือ นางเมา แก้วสว่าง อายุ 42 ปี เป็นคนบ้านขนาดมอญ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ โดยแพทย์เวรโรงพยาบาลศีขรภูมิ ตรวจพลิกศพในที่เกิดเหตุเบื้องต้นขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสุรินทร์ เข้าเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่ นำ ถุงห่อศพ นำศพ ส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ เพื่อหาสาเหตุ ของการฆาตกรรมในครั้งนี้ ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าขุดค้นหาศพ บริเวณใต้ก้นสระน้ำ ปรากฏว่าได้มีประชาชน จำนวนมาก ที่ทราบข่าว ต่างพากันเดินทางมายืนมุงดูการค้นหาศพเป็นจำนวนมาก ต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงความโหดร้ายใจเย็นของคนร้าย ซึ่งเป็นสามีของผู้เสียชีวิต เป็นที่สะเทือนขวัญของประชาชนในพื้นที่
จากการสอบถาม นายสุรินทร์ แก้วสว่าง อายุ 52 ปี น้องชายผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เวลาประมาณ สองทุ่มเศษ ก็มีพี่ชาย พี่เปี๊ยก ชื่อเล่น ได้ขับรถยนต์กระบะมาหาน้องสาว แต่ไม่ใช่บ้านหลังนี้ อยู่ที่ข้างในหมู่บ้าน ก็เลยบอกกับน้องสาวว่า “เอ้ย!กูฆ่าเมียกูตายแล้วเด้อ “ เมื่อน้องสาวได้ยินก็ตกใจ จนไม่กล้าไปดูที่รถว่ามีอะไร ที่รถพี่ชายจอดหลบอยู่ข้างทาง เป็นรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน ตอนเดียว สีน้ำเงิน สักพักก็ขับรถออกไป น้องสาวก็รีบโทรศัพท์มาแจ้งตน ว่า รถพี่ชายฆ่าเมียตายแล้ววิ่งไปทางโน้น ตนก็สงสัยว่าจะวิ่งออกไปดู แต่ก็ไม่กล้าไป ก็เลยรีบโทรศัพท์ไปหากำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจดู ก็หาศพไม่เจอ สงสัยว่าเขาจะทิ้งลงหนองหรือฝังดิน หายังไงก็ไม่เจอจน ตี2 ก็เลยแยกย้ายกันกลับ รุ่งเช้าเอาควายออกไปเลี้ยงผูกไว้ก็เดินตามหาอีก พอเวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้ประสานมายัง สภ.ศีขรภูมิ พี่ชายได้ไปมอบตัว พร้อมกับรับสารภาพว่า ฆ่าภรรยาจริง โดยเอาศพไปฝังกลบไว้ภายในสระน้ำ ในที่นาของน้องสาว พอไปยังที่เกิดเหตุสักพักประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจ เต็มสระน้ำไปหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่กล้าขุดกล้าอะไร ได้แต่ยืนดู และกันพื้นที่ เพื่อรอเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย มาถึงก็ทำการขุดดิน สักพักก็เจอศพทันที สภาพศพมีการงอขา ตะแคงศีรษะ ชิ้นส่วนร่างกายอยู่ครบตามปกติ คาดเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน
ด้าน นางคำรุน แก้วสว่าง อายุ 48ปี น้องสาวผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนคิดว่าพี่ชายน่าจะหึงหวงภรรยา ขนาดน้องสาวและลูกสาวบอกให้แกเลิก แกยังไม่ยอมเลิก ยังมาโกรธกับลูกสาวอีก เนื่องจากผู้ตาย ติดเหล้า มีพฤติกรรม คบชู้นอกใจสามีมาต่อเนื่อง จึงไม่อยากให้คบกับผู้หญิงคนนี้ เขาอยู่หมู่บ้านเดียวกัน บ้นขนาดมอญ พี่ชายมาเล่าให้ตนฟังว่า แกจับได้ว่าเมียมีชู้ แต่ตนไม่ได้เห็นก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จขนาดไหน มาเล่าว่า เมียแกมีชู้แหละ แกถึงได้เป็นโรคหนองใน แกก็ตีเมีย แกก็ไม่ใช่ผู้ชายส่ำสอน เค้นถามจากเมียสารภาพว่า 7 คน ในระยะเวลาแค่ 15 วัน ไปเอาหลานกับมาเลี้ยง
ภาพ/ข่าว ทีมข่าวสุรินทร์นิวส์
เรียบเรียง ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์