ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

ขณะที่พ่อแม่ของ ผอ.อ้อยพอใจที่ศาลให้ความยุติธรรมอย่างเต็มที่

เมื่อเวลา  11.00  น.วันที่  14  มี.ค. 62  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่บัลลังก์  4  ศาล  จ.กันทรลักษ์  อ.กันทรลักษ์  จ.ศรีสะเกษ  องค์คณะผู้พิพากษาศาล  จ.กันทรลักษ์  ได้อ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่  อ.81/2561  ระหว่างพนักงานอัยการ  จ.กันทรลักษ์  เป็นโจทก์  โดยมี  ร.อ.ศุภชัย  ภาโส  หรือผู้กองเหน่ง  เป็นจำเลยที่  1  กับพวกรวม  4  คน  โดยจำเลยที่  2  คือ  นางสุชาวดี  ปทุมอินทน์  นายวิฑูรย์  ท้าวแก้ว  จำเลยที่  3  และนายประกรรษวัต  คณะพันธ์  จำเลยที่  4  ฐานความผิดต่อชีวิต   ความผิดต่อเสรีภาพ  ความผิดต่อเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม  ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร  ความผิดเกี่ยวกับบัตรอิเลกทรอนิกส์  ลักทรัพย์  รับของโจร  โดยจำเลยที่  1  คือ  ร.อ.ศุภชัย  ภาโส  หรือผู้กองเหน่ง  ได้ถูกฟ้องว่า  ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง  ทำให้  น.ส.จุฑาภรณ์  อุ่นอ่อน  อายุ  37  ปี  ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย  และฆ่า  น.ส.จุฑาภรณ์  โดยไตร่ตรองไว้ก่อน  ลอบฝังซ่อนเร้น  ย้ายหรือทำลายศพ  หรือส่วนของศพ  เพื่อปิดบังการตาย  หรือเหตุแห่งการตาย  ทำให้เสียหาย  เคลื่อนย้ายส่วนของศพโดยไม่มีเหตุอันควร  ลักทรัพย์โทรศัพท์เคลื่อนที่  ยี่ห้อ  ไอโฟนรุ่น  5  เอส  สร้อยคอทองคำ  แหวนทองคำ  เงินสด  เข้าถึงซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น  และฟ้องจำเลยที่  2 – ที่  4  ว่า  ร่วมกันลักทรัพย์โทรศัพท์เคลื่อนที่  ยี่ห้อไอโฟน  รุ่น  5  เอส  สร้อยคอทองคำ  แหวนทองคำ  หรือร่วมกับรับของโจร  ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม 

 

ซึ่งศาลได้วิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์  โจทก์ร่วมทั้ง  4  และจำเลยที่  1  แล้ว  ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า  จำเลยที่  1  กระทำความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง  ทำให้ผู้ตายปราศจากเสรีภาพในร่างกายและฆ่าผู้ตาย  ฐานลอบฝังซ่อนเร้น  ย้ายหรือทำลายศพ  ฐานลักทรัพย์โทรศัพท์  ยี่ห้อไอโฟน  ฐานลักทรัพย์รถยนต์  สร้อยคอทองคำ  แหวนทองคำ  ฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้ใด  หรือยึดไว้ซึ่งบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่น  ฐานปลอมเอกสาร  ฐานฉ้อโกง  ฐานฆ่าผู้อื่น  ศาลพิพากษาว่า  ให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยที่  1  คือ  ร.อ.ศุภชัย  ภาโส  หรือผู้กองเหน่ง  สถานเดียว  ในส่วนคดีแพ่ง  ให้จำเลยที่  1  คือ  ร.อ.ศุภชัย  ชำระค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอื่น ๆ แก่โจทก์ร่วมทั้ง  4  เป็นเงิน  300,000  บาท  ชำระค่าขาดไร้อุปการะแก่โจทก์ร่วมที่  1  เป็นเงิน  324,000  บาท  ชำระค่าขาดไร้อุปการะแก่โจทก์ร่วมที่  2  เป็นเงิน  216,000  บาท  ชำระค่าขาดไร้อุปการะและขาดแรงงานในครัวเรือนแก่โจทก์ร่วมที่  3  เป็นเงิน  216,000  บาท  และชำระค่าขาดไร้อุปการะแก่โจทก์ร่วมที่  4  เป็นเงิน  1,320,000  บาท  รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  2,760,000  บาท  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปี  สำหรับจำเลยที่  2 – ที่  4  ศาลพิพากษายกฟ้องทุกข้อหา  เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์  และโจทก์ร่วมทั้ง  4  ฟังไม่ได้ว่า  จำเลยที่  2 – ที่  4  ไม่ได้กระทำความผิดจริงตามที่โจทก์ฟ้องแต่อย่างใด

 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

 

 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

 

 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

 

 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

 

นายพายัพ  สนองไทย  ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล  จ.กันทรลักษ์  กล่าวว่า  คดีนี้มีอัตราโทษสูง  ดังนั้น  จึงต้องส่งไปให้ศาลอุธรณ์ได้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง  เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  โดยคดีนี้องค์คณะศาล  จ.กันทรลักษ์  ได้ผลัดกันอ่านคำพิพากษา  ตั้งแต่เวลา  09.00  น.ถึงเวลาประมาณ  10.30  น.ทั้งนี้เนื่องจากว่า  ได้มีการพิจารณาพยานหลักฐานทุกฝ่ายอย่างละเอียดรอบคอบ 

 

นายบุญเลิศ  อุ่นอ่อน  อายุ  63  ปี  พ่อของ  ผอ.อ้อย  กล่าวว่า  ตนพอใจคำพิพากษาของศาลที่ให้ความเป็นธรรมกับตนและครอบครัว  ญาติพี่น้อง  ซึ่งตนต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  พล.ต.ต.สุรเดช  เด่นธรรม  ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ  และคณะ  เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน  ตำรวจภูธรภาค  3  เจ้าหน้าที่ตำรวจ  สภ.กันทรลักษ์  เจ้าหน้าที่ตำรวจ  สภ.บึงมะลู  และญาติพี่น้องทุกคน  ที่ได้เข้ามาช่วยในการติดตามหาร่างของ  ผอ.อ้อย  ลูกสาวของตน  จนกระทั่งสามารถนำตัวฆาตกรโหดรายนี้มาลงโทษตามกฎหมายได้

 

นางแหลม  อุ่นอ่อน  อายุ  61  ปี  แม่ของ  ผอ.อ้อย  กล่าวว่า  ตนขอขอบคุณศาล  จ.กันทรลักษ์  และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ให้ความเป็นธรรมในคดีนี้ให้กับตนและครอบครัว  ซึ่งถึงแม้ว่า  ศาลจะตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งไปแล้ว  แต่ว่าชีวิตลูกสาวของตนคงไม่สามารถเอากลับคืนมาได้  สงสารแต่หลานสาวตัวเล็ก ๆ ที่ต้องกำพร้าแม่  แต่อย่างไรก็ตาม  ตนก็ถือว่าผู้กองเหน่งได้รับโทษอย่างสาสมกับความผิดที่ก่อขึ้นแล้ว

 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

 

ทางด้าน  พล.ต.ต.สุรเดช  เด่นธรรม  ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  คดีนี้ตนได้รับมอบหมายจากหน่วยเหนือให้ติดตามคลี่คลายคดีอย่างเร่งด่วน  ซึ่งปรากฏว่าต้องใช้ระยะเวลานานนับเดือน  จึงสามารถที่จะรวบรวมพยานหลักฐานจนถึงการจับกุมผู้ต้องหามาลงโทษตามกฎหมายได้  ซึ่งคดีนี้  ตนและพนักงานสอบสวน  รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ

 

น.ส.ภัทรพร  ทองสุทธิ์  รองประธานสภาทนายความ  จ.กันทรลักษ์  ซึ่งเป็นทนายความของโจทก์ร่วมคดีนี้  กล่าวว่า  คดีนี้  นายประสิทธิศักดิ์  ฝอยทอง  ประธานสภาทนายความ  จ.กันทรลักษ์  และตน  ได้ช่วยกันว่าความในฐานะทนายความของโจทก์ร่วม  ซึ่งคำพิพากษาของศาลออกมา  ทำให้ตนและครอบครัวของผู้เสียหายพอใจ  แต่ว่าอย่างไรก็ตาม  ในส่วนของคดีแพ่งนี้  คงจะต้องมีการอุธรณ์  เนื่องจากว่าได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายต่าง  ๆ จากจำเลยให้กับโจทก์ร่วม  เป็นจำนวนเงินประมาณ  4  ล้านบาทเศษ  แต่ศาลพิพากษาให้จำเลยที่  1  ชำระค่าเสียหายเพียง  2  ล้านบาทเศษเท่านั้น  ซึ่งจะได้หารือเรื่องนี้กับนายประสิทธิศักดิ์  และพ่อแม่  ญาติพี่น้องของ  ผอ.อ้อย  เพื่อยื่นอุธรณ์ในทางแพ่งต่อไป

 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

 

ชยงค์  มณีพันธุ์เจริญ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.ศรีสะเกษ