เจอแล้วศพ "น้องดีน" หายตัวกว่า 10 วันถูกทิ้งในป่าแปดริ้ว มีรอยต่อสู้ถูกทำร้าย

จากรณีการหายตัวไปของ นายหัสดีน ไชยเพ็งจันทร์ หรือน้องดีน อายุ 18 ปี ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา เหตุเกิดขึ้นที่บ้านแล้ง ตำบลหนองยาว อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยนายคำพัน ไชยเพ็งจันทร์ พ่อของน้องดีน เปิดเผยว่า ไม่รู้ว่าลูกเป็นตายร้ายดียังไงยังมีชีวิตอยู่ไหม พร้อมทั้งบอกอีกว่า เมื่อปี 2560 ลูกชายเคยถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่อ้างตัวเป็นตำรวจจับกุมไป ในวันที่หายตัวไปลูกใส่เสื้อแขนยาว สวมหมวกกันน็อก และขับรถจักรยานยนต์ของเพื่อน ซึ่งผิดปกติ คล้ายกับการพยายามให้ลูกชายแต่งตัวให้เหมือนม่อนที่เป็นเพื่อน 

 

 

ขณะที่ พระรูปหนึ่ง ได้เปิดเผยว่า พบเจอรถต้องสงสัย 2 คัน จอดรออยู่ในวัด และเมื่อนายดีนขับรถผ่านไป รถทั้ง 2 คัน ก็ขับตามออกไป แสดงว่า รถทั้ง 2 คันต้องรู้ทะเบียนรถจักรยานยนต์ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้ว่า ลูกชายจะโชคร้าย และถูกอุ้มไปผิดตัว 

 

 

ล่าสุด เพจ "ที่นี่แปดริ้ว" รายงานว่า พบศพชายบริเวณสำนักสงฆ์เขาหินด่าง เขตติดต่อหินซ้อน สนามชัย เบื้องต้น มีมอเตอร์ไซค์ สีดำแดง เวฟ 125 สภาพศพ ขึ้นอืด สวมเสื้อคลุมพิชซ่า พร้อมทั้งได้รับการยืนยันเบื้องต้นว่า เป็นศพของน้องดีนจริง เนื่องจากรูปพรรณสัณฐานและเสื้อผ้าที่สวมใส่ พร้อมกับ รถจยย.ที่หายไปพร้อมกับตัวน้อง ตรงกับคำให้การของน้องม่อนและเพื่อนที่อยู่ในวันก่อนเกิดเหตุ ทั้งนี้รอการยืนยันจากแพทย์อีกครั้งในผลชันสูตร

 

#ด่วน #พบศพชายบริเวณวัดหินด่าง เขตติดต่อหินซ้อน สนามชัย เบื้องต้น มีมอเตอร์ไซค์ สีดำแดง เวฟ 125 สภาพศพ ขึ้นอืด ยังไม่ยืนยันว่าเป็นใคร

 

 

ขณะที่ ทางด้าน เพจ "รถตระเวนข่าว V.2" รายงานว่า รถตระเวนข่าว V.2 #มีร่องรอยถูกทำร้ายและต่อสู้ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

 

 

อย่างไรก็ตาม เพจ "รถตระเวนข่าว V.2" ยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนหน้านั้น คุณคำพัน ไชยเพ็งจันทร์ ยอมรับหนักแน่น แบบไม่ปิดกับ แอดมินว่า #น้องดีน #หัสดีน ไชยเพ็งจันทร์ อาชีวะปี 3 วิทยาลัยการอาชีพพนมสารคาม ที่ตกเป็นผู้ถูกจับกุมฐานร่วมกันครอบครองยาเสพติด ในเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อปี 2560

 

คุณพ่อบอกว่า ตอนนั้น น้องดีน ไปกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง แล้วถูกชาย 3-4 คน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ล็อกตัว แล้วพาไปอาคารแห่งหนึ่งใกล้ที่ทำการส่วนราชการ อ.เมืองฉะเชิงเทรา กระทั่งลูกชายติดต่อกลับมาหาบอกว่า ถูกจับกุม ตนจึงรีบเดินทางไปหาลูก

 

แต่ท้ายที่สุดชายกลุ่มนั้น เรียกขอเงิน 50,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าประกันตัว ตนจึงไปเบิกเงินจากธนาคารและนำทองไปขายเพื่อให้พอกับเงินก่อนมอบให้ชายกลุ่มนี้ไป กระทั่งมาทราบภายหลังว่า อาคารที่ไปติดต่อแห่งนั้น แท้จริงมิใช่ที่ทำการของเจ้าหน้าที่ จึงเชื่อว่า #อาจเป็นกลุ่มปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่

 

ขอบคุณ : รถตระเวนข่าว V.2, ที่นี่แปดริ้ว