- 18 มี.ค. 2562
จากกรณี พรรคพลังประชารัฐ แถลงเปิดนโยบายโค้งสุดท้าย โดยประกาศพันธสัญญา 3 ด้านคือ คนไทยต้องรวยด้วยความสงบ ความสุข และความหวัง นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ย้ำว่านโยบายของพรรคเน้นเรื่องคุณภาพและไม่เลื่อนลอย
จากกรณี พรรคพลังประชารัฐ แถลงเปิดนโยบายโค้งสุดท้าย โดยประกาศพันธสัญญา 3 ด้านคือ คนไทยต้องรวยด้วยความสงบ ความสุข และความหวัง นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ย้ำว่านโยบายของพรรคเน้นเรื่องคุณภาพและไม่เลื่อนลอย โดยเฉพาะจะดูแลเรื่องราคาผลผลิตทางการเกษตร เช่น ข้าวเจ้า 12,000 บาทขึ้นไปต่อตัน ยางพารา 65 บาทขึ้นไปต่อกิโลกรัม และปาล์มต้องทำให้ได้ราคาเป้าหมายที่กิโลกรัมละ 5 บาทขึ้นไป
รวมทั้งจะผลักดันค่าแรงงานขั้นต่ำ 400 ถึง 425 บาทต่อวัน ผู้ที่จบอาชีวะศึกษา ต้องได้รับเงินเดือน 18,000 บาท ส่วนปริญญาตรีจะต้องได้รับ 20,000 บาทต่อเดือน รวมทั้งจะดูแลผู้ใช้แรงงานเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และมีมาตรการลดภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับพนักงานเงินเดือน ส่วนภาพรวม จะสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และวางแผนเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ
ทั้งยังมีอีกหลายพรรคที่ถูกจับตามองเนื่องจากมีนโยบายใกล้เคียงกันในการที่จะผลักดันค่าแรงจนนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด 18 มี.ค. 2562 บนเฟสบุ๊ก "Kittitouch Chaiprasith" ได้โพสต์ต่อกรณีดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจระบุว่า
[รายละเอียดนโยบายค่าแรง พปชร.]
ดูเหมือนว่าหลังจากแรงกระเพื่อมเรื่องนโยบายค่าแรงขั้นต่ำของ พปชร.เมื่อวันก่อน จะทำให้มีการออกมาชี้แจงมาตราการที่จะใช้อย่างละเอียดขึ้นเมื่อวานนี้
โดยมีคนส่งข้อมูลมาให้ผมอ่านหลังไมค์ ว่าเป็นอย่างไร ผมอ่านแล้วก็ขอเอามาสรุปให้ง่ายๆ ด้านล่างนี้นะครับ ส่วนตัวเต็มอยู่ส่วนที่สองครับ
----------------------
สรุปรายละเอียด
----------------------
สรุปใจความที่อุตตมะ สาวนายน หัวหน้าพรรคออกมาอธิบายโดยละเอียดก็คือ "ผลักดันค่าแรงเป็น 400-425 บาทใน 3 ปี โดยมีมาตรการทยอยขึ้นเป็นขั้นๆ " ดังต่อไปนี้
1. ปรับขึ้นตามคุณภาพฝีมือแรงงาน
2. ปรับขึ้นตามพื้นที่ ไม่ได้ขึ้นเท่ากันหมด
3. มีค่าแรงกลางเป็นฐานสำหรับแต่ละอาชีพ
4. มีการกำหนดมาตรฐานกลางสำหรับอาชีพ
5. มีการทดสอบผู้ใช้แรงงานตามมาตราฐาน
6. ตั้ง "คณะกรรมการพัฒนาฝีมือแรงงานแห่งชาติ" ให้มาเป็นผู้ทดสอบและพัฒนาฝีมือให้กับแรงงาน
7. แรงงานที่ยังขาดแคลนทักษะ จะมีโครงการและ "กองทุนพัฒนาทักษะแรงงาน" เพื่อช่วยผลักดันให้เป็นแรงงานมีคุณภาพตามค่าแรง
8. ผู้ประกอบการ สามารถนำค่าใช้จ่ายในการพัฒนาฝีมือแรงงาน มา "หักภาษี" ได้ถึงสองเท่า
โดยทั้งหมดนี้คือ การมุ่งเน้นเปลี่ยนโครงสร้างการแข่งขันของ SME ให้ได้แรงงานมีฝีมือ ต้นทุนต่ำลง และสินค้าคุณภาพดี ขายได้ราคาสูงขึ้นทั้งระบบ
----------------------
ความเห็นส่วนตัว
----------------------
*** ถ้าเป็นแบบนี้ผมว่าโอเคเลยครับ ถือว่าเป็นการทำตามกรอบแนวคิดแบบ #ประชารัฐ คือการมุ่งเน้นพัฒนา รัฐ เอกชน และประชาสังคมไปพร้อมกัน ดีกว่าที่ประกาศมาลอยๆ มาตอนแรก
หมายเหตุ: ผมแนบภาพค่าแรงปัจจุบันของแต่ละสาขาอาชีพที่มีการปรับขึ้นตั้งแต่ต้นปีมาให้ด้วยนะครับ เพื่อประกอบการพิจารณา
https://www.thairath.co.th/content/1456170
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2012103
----------------------
ข้อมูลตัวเต็มที่ได้มาจากหลังไมค์
----------------------
ค่าแรงพปชร
พปชร.เผยค่าแรง 425 เป้าหมายใน 3 ปี“ไม่ใช่เกิดทันที”
มุ่งยกระดับ“ฝีมือแรงงาน-พัฒนาแข่งขันในตลาดโลก”
“พปชร.” ระบุ นโยบายขึ้นค่าแรง 400-425 บาท เป้าหมายภายใน 3 ปี เน้นดู“คุณภาพฝือแรงงาน”ของแต่ละพื้นที่เป็นเกณฑ์ ไม่ใช่ปรับขึ้นเท่ากันหมดในทันที โดยจะมีค่าแรงกลางเป็นฐานสำหรับงานในแต่ละประเภทอาชีพ เป้าหมายนโยบาย หวังเพิ่มศักยภาพฝีมือแรงงาน เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศ
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำจาก 300 บาท เป็น 400-425 บาทนั้น เป็นนโยบายที่ทางพรรคจะดำเนินการจริง และทำจริง หากได้เข้าไปเป็นรัฐบาล แต่การปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำในระดับดังกล่าว ไม่ได้ดำเนินการทันที หรือไม่ได้ปรับขึ้นทันทีแน่นอน แต่เป็นแผนนโยบายในช่วง 3 ปีหลังจากนี้ไป ที่จะทยอยดำเนินการเป็นขั้นตอนตามลำดับที่พรรควางแผนเอาไว้
“ขอย้ำนะครับ ค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ปรับขึ้นทันที 400-425 บาท แต่จะค่อยดำเนินการตามขั้นตอน และตามแผนในช่วง 3 ปี”นายอุตตม กล่าวย้ำ
นายอุตตม กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญของแนวทางในการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำในระดับดังกล่าวนั้น ยังมีขบวนการในการดำเนินการอีกมาก เช่น เราจำเป็นต้องมีการกำหนดค่าแรงงานกลาง ของงานในแต่ละอาชีพ ในแต่ละประเภทของงาน ซึ่งอาชีพ หรือประเภทของงานมีความแตกต่างกัน ค่าครองชีพของแต่ละพื้นที่ก็มีความแตกต่างกัน และที่สำคัญคุณภาพ หรือศักยภาพของฝีมือแรงงานในแต่ละบุคคล ก็มีความแตกต่างกัน ซึ่งการจะดำเนินการดังกล่าวได้ จำเป็นต้องนำปัจจัยดังกล่าวเข้ามาร่วมพิจารณาด้วย
“สำหรับงานในแต่ละอาชีพ แต่ละประเภท แต่ละระดับ จะสนับสนุนให้มีการทดสอบผู้ใช้แรงงาน เทียบกับมาตราฐานกลางที่กำหนดไว้ หลังการทดสอบ ก็จะมีการประเมินว่า จะมีอะไรที่จำเป็นต้องเพิ่มเติมทักษะความสามารถไหม ถ้าจำเป็นต้องเพิ่มเติมทักษะ ก็จะต้องมีกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานเข้าไปให้การสนับสนุน เพื่อช่วยทำการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพ และให้ได้มาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น”
นายอุตตม กล่าวต่อว่า โดยเราจะมีคณะกรรมการพัฒนาฝีมือแรงงานแห่งชาติ มาเป็นผู้ทดสอบและพัฒนาฝีมือให้ ส่วนคนที่มีฝีมือได้มาตรฐานอยู่แล้ว ก็ได้รับเงินตามมาตราฐานฝีมือแรงงานตามราคากลางที่ได้กำหนดไว้ เมื่อพัฒนาฝีมือแล้ว ประสิทธิภาพการผลิตบริการของไทยจะสูงขึ้น และเป็นที่ยอมรับของตลาดในประเทศ และตลาดโลกอีกด้วย
“ดังนั้น การขึ้นค่าแรง 400-425 บาท ผมขอย้ำว่า เราจะดูแลเป็นขั้นตอนและตามขบวนการ ไม่ใช่เกิดทันที เพราะเราจะต้องลงทุนในคน เพื่อให้เศรษฐกิจไทยก้าวทันโลก คนงานก็จะต้องมีประสิทธิภาพ เราต้องให้ความสำคัญเรื่องคนเป็นหลัก และเป็นงานหลักที่พรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน”
ทั้งนี้ การปรับค่าแรงครั้งนี้ คือการเปลี่ยนโครงสร้างของความสามารถในการแข่งขันทั้งหมด ทั้งยังเป็นการยกระดับ SMEs เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ให้เดินก้าวข้ามไปสู่ทิศทางที่แข่งขันได้ เป็นการลงทุนร่วมกันของรัฐและผู้ประกอบการ แต่ไม่ใช่ขึ้นทันที และเป็นการยกระดับความสามารถแรงงานให้สูงขึ้นกว่าประเทศเพื่อนบ้านด้วย”
นายอุตตม กล่าวต่อว่า การแข่งขันในปัจจุบัน เรามีความจำเป็นจะต้องแข่งขันกับประเทศอื่นด้วยแรงงานที่มีฝีมือ (skill labor) เพื่อจะทำให้ SMEs แข็งแรงขึ้น และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ต้นทุนการผลิตต่ำลง ทำให้สินค้ามีคุณภาพดีและราคาจับต้องได้ หรือเป็นราคาที่ผู้บริโภคสามารถรับได้
“เป้าหมายของเรา คือการเอานโยบายแรงงานมาเปลี่ยนโครงสร้างทั้งระบบ จะทำให้เศรษฐกิจไทยมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ดังนั้นค่าแรง 400-425 บาท ไม่ได้ขึ้นทันทีแต่ต้องผ่านการฝึกทักษะ และพัฒนาฝีมือก่อน”
นายอุตตม กล่าวย้ำด้วยว่า ผู้ประกอบการ สามารถนำค่าใช้จ่ายในการพัฒนาฝีมือแรงงาน มาหักภาษีได้ถึงสองเท่า ซึ่งจะมีกระบวนการในการขับเคลื่อน ยกระดับแรงงานที่ได้รับการพัฒนาฝีมือไปสู่การเป็นแรงงานคุณภาพที่ได้รับรายได้ที่สูงขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "อุตตม" แจงยิบ หลังกระแสดันค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท จ่อชูนโยบายการศึกษาควบคู่ไปด้วย!!
- นักวิชาการ แนะ "หลักการพัฒนาค่าแรงขั้นต่ำ" เป็นทางออก..หลังพรรคใหญ่ชูธงจ่อดันขึ้น 400 บาท !!