- 19 มี.ค. 2562
จากกรณีที่กลายเป็นประเด็นร้อนเเรงในโลกออนไลน์ชั่วข้ามคืน กับข่าวฉาวของครูพละโรงเรียนเเห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนสตรีชื่อดังในกรุงเทพมหานคร ทำอนาจารนักเรียนหญิงซึ่งเป็นลูกศิษย์ของตนเอง
จากกรณีที่กลายเป็นประเด็นร้อนเเรงในโลกออนไลน์ชั่วข้ามคืน กับข่าวฉาวของครูพละโรงเรียนเเห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนสตรีชื่อดังในกรุงเทพมหานคร ทำอนาจารนักเรียนหญิงซึ่งเป็นลูกศิษย์ของตนเอง
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพ พร้อยบรรยายข้อความประมาณว่า "เสียมือที่เคยยกไหว้จริงๆ!!!#ร่วมกันปกป้องรุ่นน้อง #ร่วมกันปกป้องสิทธิลูกผู้หญิง #คุกคามทางเพศไม่ใช่เรื่องตลก" พร้อมกับบรรยายพฤติกรรมของอาจารย์คนนี้จนหมดเปลือก แถมบอกอีกว่าถ้ารุ่นน้องคนไหนที่เคยโดนแบบนี้ให้มารวมกันตรงนี้ได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อาจารย์รร.สตรีชื่อดัง กระชากนร.ขึ้นเบนซ์ทำอนาจาร เด็กม.2 โดนขืนใจ 4 ครั้ง อัดคลิปขู่ห้ามปากโป้ง
ในเวลาต่อมามีผู้เสียหาทั้งที่เป็นศิษย์เก่าและศิษย์ใหม่ของโรงเรียนชื่อดังแห่งนี้ ออกมาแฉวีรกรรมสุดฉาวของ อาจารย์คนดังกล่าว ว่าแม้แต่ในชั่วโมงเรียนก็ยังหาโอกาสลวนลามนักเรียนหญิงได้ตลอดเวลา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศิษย์เก่า - ใหม่รร.สตรีดัง แฉเพิ่มอาจารย์จอมหื่น ลวนลามนร.หญิงแม้แต่ชั่วโมงเรียนก็ไม่เว้น
จนครูหนุ่มคนดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงเก่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยืนยัยว่าตนไม่ได้ทำอนาจารเด็กนักเรียนอย่างที่โลกออนไลน์กำลังแชร์กัน พร้อมทั้งยังแฉกลับและปักใจเชื่อว่าต้องมีบุคลากรภายในกลั่นแกล้งตน เพื่อให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อาจารย์ฉาวรร.สตรีดังโผล่แจงโดนแกล้ง ภาพกอดสาวแฉโซเชียลถูกตัดต่อ หลอกใช้นร.หญิงเป็นเหยื่อล่อ แต่งเรื่องโกหก
หลังจากนั้น นายธีร์ ภวังคนันท์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน (ฉก.ชน.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ลุยสอบปมอาจารย์ฉาวทำอนาจารนักเรียนหญิงรายนี้แล้ว พร้อมทั้งยังสั่งผู้บริหารโรงเรียนชี้แจงทุกข้อเท็จจริง ถ้าผิดจริง จะต้องลงโทษหนัก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สพฐ.ยันลุยสอบแล้วปมอาจารย์ฉาวทำอนาจารนร.หญิง สั่งผู้บริหาร รร.ชี้แจงทุกข้อเท็จจริง ถ้าผิดลงโทษหนัก
ทั้งนี้ นายธนารัช สมคเณ รอง ผอ.สมพ.เขต 1 ได้เปิดเผยว่า "กรณีโซเชียลแฉว่ามีครูพละได้กระทำอนาจารเด็กนักเรียนนั้น ล่าสุดทางสำนักงานเขตการศึกษาได้มีคำสั่งย้ายครูพละที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเรียบร้อยแล้ว โดยไปให้ประจำที่ สพม. เป็นการชั่วคราวก่อนจะมีการสอบสวนเสร็จ เพราะเกรงว่าหากปล่อยไปจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน หลักฐาน ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการคาดว่าภายในอาทิตย์นี้ จะรู้ผล เบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมสอบสวน ทั้งหมด 5 คนที่มีทั้งครูในโรงเรียนและคนนอก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โดนย้ายแล้วครูพละรร.สตรีชื่อดัง เจอแฉหลอกล่อนร.หญิงทำอนาจาร เจ้าตัวโร่แจ้งความกลับ สู้คดีถึงที่สุด (คลิป)
จากนั้นไม่นานนัก พันตำรวจเอกมนัส รุ่งนาค ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อย เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีโซเชียลแฉว่า มีครูพละในโรงเรียนหญิงล้วนแห่งหนึ่งย่านฝั่งธน ทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิง ว่ากรณีดังกล่าว แบ่งเป็น 2 คดี คดีแรก เป็นคดีที่ครูสอนภาษาจีนก่อเหตุข่มขืน เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ คดีที่ครูพละถูกใส่ร้ายว่าการกระทำชำเราเด็กนักเรียนหญิง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผกก.บางกอกน้อยสรุปคดีอาจารย์รร.สตรีชื่อดังขืนใจลูกศิษย์สอบแล้วเป็นเรื่องจริง แต่ไม่เกี่ยวครูพละถูกปรักปรำ
ต่อมา ครูสอนภาษาจีนในโรงเรียนดัง ย่านบางกอกน้อย ได้เดินทางเข้ามามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน บางกอกน้อย เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยครูสอนภาษาจีนรับสารภาพทั้งหมดว่าได้ก่อเหตุจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน บางกอกน้อย ได้แจ้งข้อกล่าวหากับครูสอนภาษาจีน 2 ข้อหา คือพรากผู้เยาว์ และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน พรุ่งนี้เวลา 10 โมงเช้า ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ค.2561ที่ผ่านมา
ส่วนผู้ปกครองที่อยู่ในระแวกบางกอกน้อย กล่าวว่าเมื่อมีข่าวในลักษณะนี้เกิดขึ้นลูกสาวเพื่อนๆและลูกสาวของตนเองก็ไม่กล้าที่จะเลือกเรียนโรงเรียนดังกล่าวเพราะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ตนเองเป็นคนที่นี่ตั้งแต่เกิดก็อยากให้ลูกได้เรียนเพราะโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่เก่าแก่ มีชื่อเสียง แต่ก็ส่งผลกระทบกับเลือกเรียนของเด็ก หลังจากนี้ก็เป็นห่วงทุกโรงเรียนเพราะเรื่องแบบนี้มันไว้ใจไม่ได้ ว่าจะเกิดเหตุการขึ้นตอนไหนโดยเฉพาะ นักเรียนหญิง
ล่าสุด ร.ต.อ.ทวีสิน ศรีสุริยชัย รอง สว.(สอบสวน) สน.บางกอกน้อย ได้นัด นายบุญฤทธิ์ จันทร์เขียว อายุ 28 ปี ครูสอนภาษาจีน โรงเรียนสตรีชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้ดูแล เพื่อการอนาจารฯ เหตุเกิดที่ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2561 เวลาประมาณ 15.00 น. ไปพบกันที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน เพื่อทำเรื่องยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม และรอผลตรวจพิมพ์มือผู้ต้องหา
โดยศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้ว ไม่อนุญาตให้ฝากขังได้ ซึ่งญาติของนายบุญฤทธิ์ ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาอาศัยความไว้วางใจที่เป็นครูสอนภาษาจีนให้แก่ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้เยาว์ และกระทำผิดตามคำร้อง กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว หากปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี จึงส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษธนบุรีทันที
ด้าน พ.ต.อ.มนัส รุ่งนาค ผกก.สน.บางกอกน้อย กล่าวว่า สำหรับคดีข่มขืนฯ และพรากผู้เยาว์ ได้จบไปในเบื้องต้นแล้ว ผู้ต้องหาถูกส่งตัวเข้าเรือนจำไปแล้ว แต่หากใครที่เคยถูกผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุ ก็สามารถมาแจ้งความเพิ่มเติมได้ และยังคงเหลือคดีหมิ่นประมาทที่ นายราวี กลิ่นหอม ครูพละ ที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนและกระทำอนาจารกับนักเรียนหญิงหลายคนนั้น ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเลย คาดว่าน่าจะเป็นการกลั่นแกล้งใส่ร้ายกัน
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) ตนจะให้พนักงานสอบสวนเชิญคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนที่เกิดเหตุมาสอบในฐานะพยาน เนื่องจากคณะกรรมการชุดนี้ได้สอบสวนพฤติกรรมของ นายราวี และคู่กรณี ที่เป็นครูเพื่อนกันเอาไว้หมดแล้ว หลังจากนั้นจะได้ทำการออกหมายเรียกคู่กรณีของนายราวี มาสอบสวนต่อไป