สาวเล่าอุทาหรณ์ ใช้นาฬิกาสมาร์ทวอช แบตระเบิดคามือเป็นแผลลึก

ถือเป็นอุทาหรณ์สำคัญอีกหนึ่งเคส ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยพบเจอ เกี่ยวกับนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ โดยสาวรายหนึ่ง ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเอง หลังนาฬิกาเกิดระเบิด และบาดเข้าไปลึกที่ข้อมือ จนเลือดไหลไม่หยุด 
 

โดยเรื่องราวดังกล่าว ได้รับการเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊ก Par Rawdneam ระบุว่า "เตือนภัย ผู้ใช้ Smart Watch ทุกชนิด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเราโดยตรงค่ะ

 

เราเป็นผู้ใช้ Smart Watch-> Apple Watch Gen2 (ปลายปี 2017) มีลักษณะการใช้งานปกติ ใช้ที่ชาร์ตแบตเตอรี่ที่มากับตัวเครื่องโดยไม่เคยเปลี่ยนไปใช้ที่ชาร์ตอื่น ที่ผ่านมาใช้งานแบบไม่มีปัญหาใดๆ ไม่เคยตกหล่น ใช้งานตามที่โฆษณา คือ ออกกำลังกาย วัดการเต้นของหัวใจ ใช้ในชีวิตประจำวันโดยใส่ไว้ที่ข้อมือซ้ายเป็นประจำ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - กองปราบฯ"เตือนภัย ถ่ายรูป"บัตรปชช."ลงโซเชี่ยล ตามกระเเสเลือกตั้ง62
 

ในวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 16.45 น. เราได้ขับรถเดินทางไปย่านลาดพร้าว 48 พร้อมลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 7 ปี (ผ้า) และคนเล็กอายุ 4 ปี (พิม) เพื่อส่งลูกสาวคนเล็กเรียนพิเศษ ขณะขับรถ รู้สึกว่านาฬิกาที่ใส่เกิดเสียงดังกรึ๊ก แต่ไม่ได้เอะใจใดใด เมื่อถึงทางเลี้ยว เราหมุนพวงมาลัยเพื่อเลี้ยว ทำให้ทางข้อมือซ้ายที่ใส่นาฬิกาไขว้มาโดนข้อมือขวา ตอนนี้เรารู้สึกเจ็บแปลบๆ แต่ก็ขับรถต่อไป จนลูกสาวคนโต (ผ้า) บอกว่า “แม่ๆ แม่เลือดไหลอ้ะ!” เราจึงยกมือข้างขวาขึ้นมาดู ก็เห็นเลือดจริงอย่างลูกว่า ด้วยความขับรถอยู่จึงเอาแผลเช็ดไปกับกางเกง จังหวะนั้น เราจึงได้เห็นว่า สิ่งที่บาดข้อมือขวา คือนาฬิกาของเราเอง ซึ่งกระจกมันเผยอหลุดออกมา (ตามภาพ)

 

ความโกลาหลในรถจึงเกิดขึ้น (จุดนี้อันตรายจริงๆ) ลูกๆ รีบหยิบทิชชู่มาซับเลือดให้ เรารีบจอดรถข้างทางซับเลือด ปกติกลัวเลือด เห็นแล้วใจหวิวๆ ซับกดเลือดแล้วพาลูกไปส่งที่เรียน ขอพาสเตอร์ที่บ้านคุณครู นั่งพัก รอลูกเรียนเสร็จ แล้วจึงรีบขับรถกลับมาที่บ้าน ระหว่างนั้นเลือดไหลก็ยังไหลออกมาเรื่อยๆ ไม่หยุดเสียทีเยอะมากค่ะ (แม่จะเป็นลม สงสารลูกจริงๆ ต้องมาคอยดูแลแม่ 555)

 

รถติดมาก พาลูกกลับมาถึงบ้าน ก็ทุ่มกว่าไปแล้ว ตัดสินใจไปโรงพยาบาลกับน้องชาย ไปถึงตรงห้องฉุกเฉิน คุณหมอก็ถามว่าโดนอะไรมาเนี่ย เราก็เลยเอาซาก Apple watch ให้หมอดู หมอตกใจมาก บอกเราว่า “ดีนะ เขาไม่มีสารอะไรในนาฬิกา ไม่งั้นอาจจะติดเชื้อนะเนี่ย” และ “ดีนะ หมอไม่ได้ใช้” ขอบคุณค่ะหมอ ดีจริงๆ ค่ะ

 

สรุปแผลมีความลึกพอสมควร แต่ไม่ถึงกระดูก และไม่โดนเส้นเลือดใหญ่ จึงไม่ต้องเย็บแผล แต่จะต้องมาล้างแผลดูอาการที่โรงพยาบาลทุกวัน แล้วก็กลับบ้าน รอรุ่งขึ้น ไป Apple care สาขาใกล้บ้านคือ The Mall บางกะปิ

 

เสาร์ 23 มีนาคม 2562 ตื่นเช้าโทรไปที่ icare รอสายนานมากกว่าจะได้คุย ให้เราอธิบายเหตุการณ์ เขาสันนิษฐาน 2 แบบ คือ แบตบวม กับหน้าจอแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วบาด ซึ่งเราบอกว่าไม่ใช่เสี่ยงๆ ค่ะ เขาขอให้เราส่งเมลรูปภาพเหตุการณ์ และใบรับรองแพทย์ไป เมื่อเห็นภาพที่เราส่งให้แล้ว ทางผู้รับเรื่องจึงส่งเรื่องของเราให้ทาง Senior เป็นผู้ดูแลแทน

จากนั้นเราจึงเดินทางไป Apple care แต่เช้า ช่างที่นั่นแจ้งว่าเบื้องต้นที่เห็นตอนแรก คือไม่เห็นอาการบวมของแบต แต่อาจหน้าจอแตก แต่ก็ไม่เห็นว่าแตก แล้วก็ขอเวลาไปพิจารณาก่อน เราจึงกลับบ้าน ประมาณ 15.00 น. ทาง Apple ติดต่อมา บอกว่าแบตบวม แต่บวมเพียงเล็กน้อย ไม่น่าจะดันให้กระจกหน้าปัดของนาฬิกาเผยอออกมาแบบนี้ได้ “แต่ทาง Apple จะดูแลให้เป็นกรณีพิเศษ แต่ยังไม่ทราบ Solution ที่แน่นอน” และ “ไม่ได้นำเครื่องเก่ามาใช้แน่นอน” “วันอังคารช่วงเช้า จะแจ้งผล” เขาว่าอย่างนี้นะคะ

เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะดูแลเรายังไง ส่งเครื่องใหม่มาให้เหรอ หรือให้ค่ารักษา (ค่ารักษาเราก็มีประกันอุบัติเหตุจ่ายไปแล้ว) เพื่อนๆ หลายคนบอกว่า ต้องได้ค่าทำขวัญ ก็ไม่รู้ว่ามันจะได้จริงเหรอ

 

ทีนี้ที่มาเขียนสรุปเหตุการณ์วันนี้เนื่องจาก

1. บันทึกไว้ในชีวิตตัวเอง

2. เตือนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ใช้ Smart watch ทุกท่าน ใช้กันอย่างระมัดระวังค่ะ คงไม่ใช่ทุกคนเจอแบบนี้ แต่ก็ไม่อยากให้มีอีกเลยจะดีกว่า

3. อันนี้สำคัญมาก ** อย่าให้บุตรหลาน เด็กน้อยใช้ Smart watch เลยค่ะ เหตุการณ์นี้เกิดกับผู้ใหญ่ ยังแบบนี้ ถ้าเป็นเด็กๆ เจอ ไม่กล้าคิดค่ะ ขอบคุณที่อ่าน ถ้ารู้เรื่องว่ายังไงต่อจะเอามาเล่าให้ฟังค่ะ"

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่โพสต์ดังกล่าว ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีชาวโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ว่าถือเป็นเคสแรกๆ ที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งต้องระมัดระวัง เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด บางคนก็บอกว่า แบบนี้ไม่ควรให้ลูกหลานใส่ พร้อมทั้งรอคำชี้แจงจากบริษัทว่าเคสนี้ จะสามารถเกิดขึ้นได้อีกหรือไม่ เพราะเมื่อซื้อสินค้าราคาแพงแล้ว ก็ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้ 

 

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Par Rawdneam