เอาแล้วไง โชเฟอร์รถเมล์เล่าละเอียดโดนทำร้าย สาวหัวร้อนโร่โต้เดือด จ่อแจ้งความกลับคลิปโผล่โซเชียล (คลิป)

จากกรณีที่กลายเป็นที่วิจารณ์กันสนั่นโซเชียล เมื่อเกิดเหตุการณ์รถเมล์เฉี่ยวชนกันรถเก๋งสีขาวบนสายหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ สามารถ หงษ์กลาง ได้โพสต์ทั้งคลิป และภาพ พร้อมระบุข้อความสั้นๆ ว่า "อากาศมันร้อน #เจอตัวช่วยบอกต่อ" ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเม้นต์กันอย่างไม่ขาดสาย
 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคู่กรณีของรถเมล์ได้คอมเม้นต์ตอบชาวเน็ตที่เข้ามาวิจารณ์เหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งอยู่จากอารมณ์ของตัวหนังสือแล้วน่าจะโมโหไม่น้อย 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง   -สาวขับเก๋งปรี๊ดแตก โซเฟอร์รถเมล์ขับเบียดเสียหาย ลุยบุกเอาคืนต่อยหน้ายับ ชาวเน็ตรัวเม้นต์ยาวทำเกินไป (คลิป)

ล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่ารถเมล์ดังกล่าวคือสาย 543ก. จึงไปยังอู่รถเมล์บางเขน พบนายสามารถ หงษ์ทอง เจ้าของเฟซบุ๊กและเป็นคนขับรถเมล์ที่ปรากฏถูกทำร้ายในคลิป  บอกกับทีมข่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา เวลา14.30น. ขณะที่ตนขับรถผ่านบริเวณปากซอยรัชดา 70 มีรถแท็กซี่ชนกัน ในถนนเลนซ้ายสุดจึงเบี่ยงออกมาขับอยู่เลนที่ 2 จากซ้าย 

 

 

จู่ๆ มีรถเก๋งสีขาว คู่กรณีเบี่ยงจากเลนซ้ายสุดมาแซงหน้ารถตน ทำให้บริเวณหน้ารถข้างซ้ายของตนเบียดชนกับรถคู่กรณี จึงลงมาตรวจสอบพร้อมแจ้งตำรวจสน.ประชาชื่นท้องที่มา โดยตลอดเวลาคู่กรณีได้ด่าทอและบอกว่ามีเด็กอยู่ในรถ ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เห็นว่ารถคันนี้จะเบี่ยงขวาออกมาจริงๆ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่คู่กรณีไม่ฟังยังคงด่าทอ 

 

 

ตนจึงขึ้นมารอบนรถเมล์เตรียมขยับรถออกไปจอดใต้สะพานลอย ไม่ให้กีดขวางการจราจร แต่คู่กรณีได้วิ่งขึ้นมาพร้อมกับไม้เบสบอล ก่อนตรงมาต่อยทำร้ายร่ายกายตน  โดยยืนยันไม่ตอบโต้ เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย ทั้งนี้มีอาการฟกช้ำตามใบหน้า มีใบรับรองแพทย์ และเข้าแจ้งความกับตำรวจสน.ประชาชื่น ข้อหาทำร้ายร่างกายแล้ว 

 

 

ในขณะที่ นางพนิดา ทองสุข รองผอ.ฝ่ายบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ระบุว่าในส่วนของบริษัทให้ นายสามารถ พักงาน 7 วันตามใบรับรองแพทย์ และจะดูแลค่ารักษาพยาบาลให้

 

 

ด้าน น.ส.สุกัญญา ชื่นชูเดช วัย 48 ปีเดินทางมายังสน.ประชาชื่น เพื่อให้ปากคำพนักงานสอบสวนในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นและเตรียมพิจารณาแจ้งความกลับคู่กรณี หลังนำคลิปและภาพตนไปโพสต์โซเชียล โดยเบื้องต้นยืนยันว่าขณะเกิดเหตุตนพยายามส่งสัญญาณขอทางแล้ว แต่คู่กรณีกลับไม่ให้ทาง จนเกิดการชนกันขึ้น ก่อนถูกอีกฝ่ายพูดจาไม่ดี ทั้งที่ตนพยายามบอกว่าจะพาเด็กในรถไปโรงพยาบาล เมื่อจะขึ้นไปเคลียร์บนรถยังถูกประตูรถเมล์หนีบ ทำให้บันดาลโทสะ แต่ยืนยันว่าตนไม่มีอาวุธ