“ปิยบุตร” ยังไม่เป็นนักการเมืองเต็มตัว ก็แถลงปลิ้นปล้อนแล้ว ลูกผู้ชายคิดอะไรต้องกล้ารับ

ในรายการเที่ยงตรง กับสนธิญาณ ได้นำเสนอในตอน “ปิยบุตร” ยังไม่เป็นนักการเมืองเต็มตัว ก็แถลงปลิ้นปล้อนแล้ว ลูกผู้ชายคิดอะไรต้องกล้ารับ!

เที่ยงตรง กับสนธิญาณ โดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้นำเสนอข้อมูลในตอน ปิยบุตร ยังไม่เป็นนักการเมืองเต็มตัว ก็แถลงปลิ้นปล้อนแล้ว ลูกผู้ชายคิดอะไรต้องกล้ารับ โดยระบุว่า อยากให้ได้ตั้งใจฟังแล้วพิจารณาและอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพราะเรื่องที่ผมกำลังจะพูดว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรถูกอันไหนผิดนะครับก็เยอะแยะพิจารณาก็สืบเนื่องมาจากเรื่องคุณปิยะบุตรเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ก็ได้โพสต์ข้อความบน Facebook ของตัวเองเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงตามที่มีการเผยแพร่คลิปการบรรยายของคุณปิยะบุตรพร้อมรูปและคัดข้อความมาบางประโยค

สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

จนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและนำมาซึ่งความเกลียดชังคุณปิยะบุตรก็ได้ดำเนินการชี้แจงออกมาเข้าด้วยกันสาระสำคัญคเป็นคลิปที่ถูกตัดตอนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการบรรยายที่ได้รับเชิญเป็นวิทยากรในหัวข้อการเมืองความยุติธรรมสถาบันกษัตริย์เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 ซึ่งจัดขึ้นที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลารายละเอียดนะครับ แจ้งมาก็พยายามที่ชี้แจงว่าอย่าไปตัดสินคุณปิยะบุตรด้วยถ้อยคำเพียงท่อนเดียวหรือประโยคเดียวแล้วก็คิดว่าคุณปิยะบุตรคิดอย่างงั้นแต่ผมจะชี้เห็นว่าโดยข้อเท็จจริงแล้วว่าถ้อยคำเหล่านั้นแม้จะเพียงประโยคเดียว หรือสองสามประโยคมันสะท้อนถึงวิธีคิดของคุณปิยะบุตรซึ่งไม่สอดคล้องกับวิธีคิดจากคนส่วนใหญ่ในประเทศไทยนี้ที่ผมบอกไม่สอดคล้องที่นี่นะครับอยากจะเรียนอย่างงี้


 
วันนี้อาจจะต้องพูดเรื่องภาษาอังกฤษซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยถนัด คำที่คุณปิยะบุตรชอบพูดก็คือDemocracy

หมดเมื่อกี้เลยครับแปลว่าการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ประชาธิปไตยทัศนะต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาธิปไตยของคุณปิยะบุตรนั้นมีวิธี ที่ชัดเจนคุณปิยะบุตรในฐานะนักวิชาการไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการล้มเจ้าแต่ถ้าจะพูดให้ชัดจะเรียกว่ากลุ่มที่ชังเจ้าตามที่ด็อกเตอร์เวทินที่ตั้งคำนี้ขึ้นมานะครับถ้าภาษาอังกฤษความคิดอย่างนี้นี่นะครับเพราะคุณปิยะบุตรมีความคิดทางด้านประชาธิปไตย สุดตรงไปอีกด้านหนึ่งในขณะที่สังคมไทยตามโบราณราชประเพณีวิถีชีวิตที่ดำเนินมาแบบไทยไปอีกอย่างหนึ่งพวกนักประชาธิปไตยจ๋าประชาธิปไตยแบบไทยไม่มีหรอกมันต้องประชาธิปไตยแบบจริงๆอย่ามาครึ่งครึ่งกลางกลางแม้แต่ในระบอบคอมมิวนิสต์นะครับก็ยังใช้คำว่าประชาธิปไตยเค้าไม่ใช่เผด็จการเขา ฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเพราะความเห็นเหล่านั้นนำมาสู่การพินิจพิจารณาตัดสินใจแล้วจึงดำเนินการให้เป็นไปแล้วเนี่ยนะเรียกว่าประชาธิปไตยรวมศูนย์เพราะนานนะครับไอ้ประชาธิปไตยเต็มรูปแบบตามที่กลุ่มนักวิชาการจากคุณปิยะบุตรพูดมันก็คือประชาธิปไตยจ๋าดับแบบตะวันตก ประเทศไทยมีความจำเป็นแบบนั้นหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องพิจารณาที่เรามาดูความคิดข้างในหรือแอนตี้เราอยู่ซึ่งต้องการประชาธิปไตย แบบตะวันตกวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 คุณประยุทธยืนยันว่าสภาพของสภาพกาลของสถาบันพระมหากษัตริย์ไปไม่ได้กับความยุติธรรม

 

คุณปิยบุตรบอกว่าไม่ต้องดูตัวบุคคลหรอกแต่เป็นตัวสถาบันนั้นมันเป็นทรราชด้วยตัวเองทรราชแปลว่าไม่ดีครับคุณปิยะบุตรบอกว่าไม่ได้พูดเองนะยกถ้อยคำของนักวิชาการชาวฝรั่งเศสมาไม่ได้ขยายต่อไปว่าคนในสังคมนั้นตกลงให้คุณอยู่ต่อเป็นส่วนเสริมเพราะคนทั้งสังคมอนุญาตให้อยู่ต่อเพื่อจะเป็นเกียรติยศมันกลับข้างกันไหมครับกับความคิดของคนไทยคุณปิยะบุตรพยายามย้ำสถาบันพระมหากษัตริย์จะอยู่ต่อไปได้ต้องได้รับการอนุญาตจากคนส่วนใหญ่ในสังคมคนไทยคิดอย่างนั้นหรือ ไม่นี่ต้องเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาเป็นช่วงหนึ่งของประโยคนะครับเป็นบางบทบางตอนของการอภิปรายแต่มันเป็นการสรุปรวบยอดความคิดของคุณปิยะบุตรซึ่งคุณปิยะบุตรควรจะต้องยอมรับสิ่งที่ตัวเองคิดว่าเป็นแบบนี้ต้องดูกันนะครับว่าตามระบอบประชาธิปไตยตามโบราณราชประเพณีเรามาเป็นยังไง 2475 นะครับที่นายธนาธรเคยพูดว่าอยากจะสืบสานต่อ แม้แต่ท่านอาจารย์ปรีดี พนมยง ยังยอมรับภายหลังเลยครับว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่7 เตรียมการที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญอยู่แล้วนะครับแต่ไม่ได้กระจายข่าวให้เป็นที่เปิดเผย ที่สุดคณะราษฎร์จึงทำการยึดอำนาจนั่นเป็นคำพูดของอาจารย์ปีดี พนมยงวันที่เท่าไหร่บันทึกไว้ในหนังสืออะไรผมมีหลักฐานหมดนะครับหลักฐานที่ว่านะครับหนังสือเล่มนี้นะครับท่านปีดีรั รัฐบุรุษผู้อาวุโสเศรษฐกิจไทยคนแรกโดยศาสตราจารย์เดือนบุนนาคบุนนาคหนังสือเล่มนี้นะครับได้มีการบันทึกการประชุมกรรมมาลูกการพิจารณาเค้าโครงการเศรษฐกิจแห่งชาตินวังปารุจสักกะวัน

สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม และ  ปิยบุตร

เมื่อวันที่ 22 เมื่อวันที่ 12 มีนาคมพุทธศักราช2476 ผู้เข้าร่วมประชุมนะครับหลายท่านรวมทั้งสิ้น 14 ท่านทานที่สำคัญก็คือหลวงประดิษฐ์มนูธรรมหรืออาจารย์ปีดีพนมยงนะครับท่านอาจารย์ปีดีนะครับได้พูดซึ่งท่านอาจารย์เดินบุนนาคนะครับได้เอาบันทึกรายงานการประชุมในครั้งนั้นมาบันทึกไว้อย่างละเอียดในหนังสือเล่มนี้นะครับในหน้าที่ 171 เอาใจไปดีหลวงประดิษฐ์ ได้อภิปรายว่าคราวนี้ไม่ได้แสดงว่าเราจะบำรุงเศรษฐกิจไปในทางใดมีหลายคนอยากทราบเช่นพวกคณะชาติการที่จะทำอะไรพี่ผิดบางบางนั้นทำให้คนระแวงไม่อาจเกิดผลร้ายได้ดังเช่นพระเจ้าอยู่หัวทรงพระดำริจะพระราชทานรัฐธรรมนูญราษฎรส่งให้พระยาศรีวิศาล วาจาแต่ไม่ประกาศให้ประชาชนทราบจึงเกิดมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้นอย่างเดียวกัน

ดีครับเนื้อหาชัดเจนครับพี่ผมต้องย้ำเนี่ยนะครับเรื่องเหล่านี้นะครับทั้งชีวิตค้นคว้าและศึกษาเคยคิดอย่างคุณปิยะบุตรมาก่อนวันนี้เปลี่ยนความคิดเราต้องมาดูต่อนะครับแล้วที่สุดนี่นะครับที่สุดของความจริงคืออะไรคุณปิยะบุตรไม่ได้พูดวันนั้นเพียงวันเดียวมีอีกบางช่วงบางตอนที่ถูกนำมาเผยแพร่แต่มันสะท้อนภาพรวมทางความคิดของคุณปิยะบุตรคุณ บอกว่าประเทศไทยยืนยันว่าเป็นอำนาจของพระมหากษัตริย์เต็มรูปแบบและในการพูดครั้งนี้คุณปิยะบุตรยังตอกย้ำสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องปรับตัวให้เข้ากับประชาธิปไตยและยังอ้างนะครับว่าเค้าจะใช้คำพูดของเค้าว่าอย่างนี้ซึ่งเขาได้สร้างขึ้นมาใหม่ระบบการปกครองที่ถูกต้องต้องประชาธิปไตยที่อนุญาตให้กษัตริย์เป็นประมุขนี่แหละครับพื้นฐานความคิดนี้เป็นพื้นฐานของความ ประชาธิปไตยจ๋าไทยเรานี่แหละครับผมอยากให้เราไปทบทวนดูรัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทยทุกฉบับจะเขียนเอาไว้ในถ้อยคำและลักษณะแบบเดียวกัน

เอาให้ชัดชัดก็ดูแล้วธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับล่าสุดเลยครับเริ่มตั้งแต่หมวดหนึ่งบททั่วไปเลยนะครับมาตราหนึ่งประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรหนึ่งเดียว อันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกราชอาณาจักรไม่ได้เนื้อหาความหมายนะครับตรงนี้ขออนุญาตเรียนถามประชุมดังนี้คำว่าราชอาณาจักรราชคือลาชะอาณาจักรก็คืออาณาจักรที่ปกครองโดยราชาหรือพระมหากษัตริย์ตนเองมีเป็นเรื่องที่คนไทยเราเข้าใจและยอมรับในเรื่องนี้รัฐธรรมนูญทุกฉบับจึงต้องเขียนคำว่าราชอาณาจักรไว้ในมาตราหนึ่งเสมอ มาดูมาตราสองครับประเทศไทยมีการปกครองในระบอบจุ๊งที่ไปตายอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขชัดเจนไหมครับมันต่างกับสิ่งที่คุณปิยะบุตรพูดว่าประชาธิปไตยอนุญาตให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ต่อได้ซึ่งในเนื้อหานั้นอีกก็คือในสิ่งที่ก็เคยไปขยายถ้ามหากษัตริย์ต้องมาสถานะสาบานตน ต่อรัฐสภาอันนี้เป็นความคิดที่สวนทางกันนะครับมาดูมาตราสามนะครับของรัฐธรรมนูญอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นรัฐสภาตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

เนื้อหาสาระจริงระบุเอาไว้ชัดเจนนะครับว่าอำนาจเป็นของปวงชนชาวไทยแต่ถ้ามากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นผ่านทางกลไกของระบบประชาธิปไตยก็คือทางลาซารัฐมนตรีและศาลเป็นเรื่องที่ชัดเจนเป็นประเพณีของไทย งวดที่สองครับก็จะเชื่อมโยงกับหมวดหนึ่งนะครับแล้วก็ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่าคนไทยหรือรัฐธรรมนูญของไทยปัจจุบันให้ความสำคัญกับสถานะของพระมหากษัตริย์อย่างไรในบทที่สองทั้งหมดมหากษัตริย์องค์ภามากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ไปดูมาตราแปดครับพามากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทยชัดเจนซะยิ่งกว่าชัดเจนครับนี่คือ ประเพณีปฏิบัติการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ต่อเนื่องกันมา

สำหรับประเทศไทยและในมาตราแปดนะครับผมย้ำนะครับถ้าทรงเป็นจอมทัพไทยความหมายเวลาเราพูดถึงกองทัพนะครับถ้าพระมหากษัตริย์ยังเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดแน่นอนครับจะต้องเป็นไปตามกลไกทางกฎหมายทางกฎหมายด้วยกระบวนการเหล่านี้นะครับโดยวิธีคิดนะงบกองทัพจะจัดการกับกองทัพให้เป็นประชาธิปไตยอย่างโน้นอย่างนี้ก็อยู่ในกระบวนการของพรรคอนาคตใหม่ที่ได้ดำเนิน การแล้วก็โฆษณามาโดยตลอดแต่เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์อนาคตใหม่ไม่ว่าจะเป็นคุณปิยะบุตรหรือคุณธนาธรไม่หยิบเอาเรื่องนี้มาพูดซ่อนเร้นอยู่การซ่อนเร้นและมีความคิดอีกอย่างหนึ่งเค้าเรียกพวกปิ่นป้อนคุณเป็นพวกปิ้งป้อนผมแปลให้ฟังว่าคำว่าปินป้อนแปลว่าอะไรดูตามพจนานุกรมนะครับปินป้อนแปลว่าใช้อุบายล่อลวงเพื่อให้สำเร็จประโยชน์ตนวันนี้คุณกำลังใช้อุบายล่อลวงคนไทยเพื่อที่จะทำให้ที่ขี้คุณมีอำนาจในทางการเมือง

การเลือกตั้งคุณไม่กล้าพูดความจริงที่คุณคิดภาษาไทยของคอมมิวนิสต์ในสมัยก่อนก็คืออำพรางเป้าหมายเอาไว้เพื่อแสวงหาแนวร่วมหวัดดีเข้มแข็งมั่นคงตลอดไปแล้วก็ประกาศอุดมการณ์ให้ชัดเจนเพื่อดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมายดังนั้นนะครับผมเรียนไปถึงคุณปิยะบุตรแล้วคุณธนาธรว่าเป็นลูกผู้ชายนอกเหนือจากการเป็นนักประชาธิปไตยจะต้องเคารพความคิดตัวเองจะต้องมั่นคงต่อตัวเองว่าตัวเองคิดอย่างไรผมเคยคิดแบบคุณนี่แหละครับเมื่อปีพ.ศ. 2524 ผมยังอยู่ภายใต้ จัดตั้งคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยผมเจอกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นเราโย่ลิทเป็นพูดนั่นก็คือเป็นผู้ที่ความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์พระบิดาเป็นองคมนตรีแต่ท่านเป็นคนดีดูแลช่วยเหลือชาวไร่ชาวนาผมได้ไปพบท่านแล้วผมก็กลับเปลี่ยนท่านผมเนี่ยเคารพท่านมากแต่ผมไม่เคารพพ่อท่านพ่อรับใช้สถาบันกษัตริย์ท่านยิ้ม

 เรามีความคิดที่แตกต่างกันคบหากันทำงานร่วมกันหลังจากนั้นนะครับอีกห้าปีผมก็ไปกลับเรียนท่านว่าสิ่งที่ผมเคยพูดเอาไว้เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ผมขอถอนคำพูดว่าวันนี้ผมได้กลับไปศึกษารายละเอียดทั้งสิ้นทั้งปวงแล้วผมคิดว่าสถาบันพระมหากษัตริย์จำเป็นสำหรับสังคมไทยและเป็นแบบเทศไทยด้วยไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบประชาธิปไตยจ๋าอย่างตะวันตกคุณปิยะบุตรเป็นผู้ชายคิดอะไรพูดอะไรไว้ต้องทำการรับการเปิดเผยความคิดให้คนส่วนใหญ่เค้าตัดสินใจว่าคุณคิดแบบนี้ถ้าคุณตัดสินถ้าคนส่วนใหญ่เค้าตัดสินใจก็จะยอมรับการตัดสินใจของประชาชนย้ำนะครับอย่าเปลี่ยนตอน

 


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีสัจจะ-จุดยืน!! "ทยา" ซัดหงาย "ธนาธร-ปิยบุตร" พลิกลิ้น!!   
อุ๊ หฤทัย ประกาศท้าปิยบุตร​ ดีเบต ลั่น ยุทธศาสตร์ของมันคือ ทำให้เรากลัว    
ชูวิทย์ ตอบตรง 6 ข้อที่ปิยบุตรชี้แจง แย็บเบาๆ อาจารย์จะฝันไปหรือเปล่า        
ดร.สุวินัย ให้ปิยบุตร ออกมาเคลียร์6ปมคาใจสังคม ถามคนเลือกรู้ไหมเขาคิดแบบนี้???