ศรีสุวรรณแฉกลางศาล! ผลักเงินเดือนพนง.มาขึ้นค่ารถ ผู้ประกอบการบอกหากศาลคุ้มครองฯรถจะหายไปมาก

จากกรณีสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้ร่วมกันยื่นฟ้องคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ 19 เมษายน 62 ที่ผ่านมา ฐานกระทำการสั่งขึ้นค่ารถเมล์ทั้งระบบโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการสร้างภาระให้เกิดขึ้นกับประชาชนเกินสมควร ตาม ม.9(1) แห่ง พรบ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 โดยในวันนี้ศาลได้ไต่สวนคำขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวเพื่อทุเลาการบังคับคดีไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด พร้อมกับสั่งให้คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางทำคำชี้แจงข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง

 

ขณะที่ นายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานชมรมรถร่วมขสมก. เปิดเผยว่า การขอขึ้นราคาดังกล่าวไม่ใช่ข้ออ้างแต่อย่างใดแต่เนื่องจากรถร่วม อยู่ระหว่างการปรับปรุงทั้งเรื่องของการปรับเปลี่ยนมาใช้ก๊าซ NGV และเตรียมที่จะปรับปรุงเป็นรถแอร์และรถไฟฟ้าในอนาคตจำเป็นที่จะต้องใช้ต้นทุนในการดำเนินการค่อนข้างสูงซึ่งทางผู้ประกอบการเองได้ยื่นชี้แจงต่อศาลปกครองแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามขอให้นายศรีสุวรรณเห็นใจ ถ้าหากต้องการแก้ปัญหาการขึ้นราคาควรให้รัฐบาลเป็นผู้ออกเงินค่าโดยสารให้กับประชาชนโดยตรง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของทั้งสองฝ่าย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รถเมล์ขสมก.และเอกชน ปรับขึ้นราคาแล้ววันแรก

 

 

 

ด้าน นางภัทราวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง เปิดเผยด้วยว่า วันพุธที่จะถึงนี้หากศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ก็จะทำให้รถร่วมหายไปจากท้องถนนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผู้ประกอบการไม่อาจที่จะแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ แต่ถ้าหากได้รับการพิจารณาให้ขึ้นค่าโดยสาร ผู้ประกอบการยืนยันว่าภายใน 1-2 เดือน จะได้เห็นรถร่วมคันใหม่ที่สะดวกสบายขึ้นมาให้บริการกับประชาชนอย่างแน่นอน

 

 

ล่าสุดนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ในการไต่สวนคู่กรณีทั้งสองฝ่ายต่างงัดข้อมูล ข้อเท็จจริงมาต่อสู้คัดค้านกันอย่างดุเดือด ไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะต้นทุนค่าพลังงานในเรื่องราคาน้ำมันดีเชลกับราคาก๊าซ LNG ที่ยังไม่มีการผกผันในทิศทางที่สูงขึ้นแต่อย่างใด แต่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นเรื่องของค่าเงินเดือนและสวัสดิการของพนักงานลูกจ้างเกือบ 50% การจะผลักภาระมาให้คนยากคนจนจึงไม่เป็นธรรม ถือได้ว่าเป็นการสร้างภาระให้กับประชาชนมากเกินสมควร ฯลฯ

 

 

“เมื่อไต่สวนเสร็จแล้วสุดท้ายศาลปกครองกลาง จะมีคำสั่งเรียก ขสมก.และ บขส.เข้ามาเป็นผู้ถูกฟ้องในคดีนี้ด้วย และให้ผู้ประกอบการเอกชนสามารถยื่นคำร้องเข้ามาเป็นผู้ร้องสอดได้ หลังจากนั้นศาลกำหนดว่าจะมีคำสั่งตามคำขอของผู้ฟ้องคดีหรือไม่ในวันพุธที่ 24 เมษายน 2562 นี้” นายศรีสุวรรณ กล่าว

        

อย่างไรก็ตามภายหลังการไต่สวนเสร็จ นายศรีสุวรรณ ยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีสั่งให้เรียกคืนสัมปทานการเดินรถของเอกชนที่หมดอายุทั้งหมดมาดำเนินการเอง โดยเฉพาะรถร่วม ขสมก. เพื่อที่จะได้นำไปสู่การปฏิรูประบบขนส่งสาธารณะทั้งระบบได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็วได้ เช่น การใช้ตั๋วร่วมใบเดียวใช้บริการรถสาธารณะได้ทั้งระบบ