- 24 เม.ย. 2562
จากกรณีที่ นายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดี เมาแล้วขับ ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลสงกรานต์ และถูกศาลสั่งปรับเมาแล้วขับ เป็นเงิน 6,000 บาท แต่นายพรหมปัญญา ไม่มีเงินเสียค่าปรับเนื่องจากมีฐานะค่อนข้างยากจน จึงถูกส่งตัวมาคุมขัง ที่สถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ แทนการเสียค่าปรับ ก่อนเสียชีวิตภายในสถานที่กักขังดังกล่าว เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยพบว่า ทั่วร่างกายมีแผลฟกช้ำ ปากเจ่อ ศีรษะบวม
จากกรณีที่ นายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดี เมาแล้วขับ ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลสงกรานต์ และถูกศาลสั่งปรับเมาแล้วขับ เป็นเงิน 6,000 บาท แต่นายพรหมปัญญา ไม่มีเงินเสียค่าปรับเนื่องจากมีฐานะค่อนข้างยากจน จึงถูกส่งตัวมาคุมขัง ที่สถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ แทนการเสียค่าปรับ ก่อนเสียชีวิตภายในสถานที่กักขังดังกล่าว เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยพบว่า ทั่วร่างกายมีแผลฟกช้ำ ปากเจ่อ ศีรษะบวม
ในต่อมา พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่สถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ พร้อมหารือร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลและตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด
ล่าสุด ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร พานางสุรินทร์ เกษหอม มารดานายพรหมปัญญา เกษหอม ผู้ต้องขังที่เสียชีวิตอย่างปริศนาในเรือนจำจ.ศรีสะเกษ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนขอให้กระทรวงยุติธรรม
โดย ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ในส่วนที่กระทรวงยุติธรรมได้มีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบนั้น ไม่ได้มีการแจ้งให้ทางญาติทราบแต่อย่างใด อาจเป็นการตั้งสอบภายในหรือไม่นั้นอันนี้ไม่ทราบ แต่ทางญาติต้องการใช้สิทธิทางกฎหมายในการเรียกร้องต่อกระทรวงยุติธรรม
ให้ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย เราอยากได้มาตราฐานชีวิตที่อยู่ในเรือนจำ ไม่ใช่ตายฟรี เราขอเกี่ยวเรื่องมาตราฐานนี้ทุกปีที่ออกมาตราการเมาเเล้วขับทุกเทศกาล เพราะว่าจะมีการตายแบบแปลกๆ อย่างเช่น ลื่นล้ม แล้วเสียชีวิตในลักษณะนี้แทบตลอดจึงอยากฟังความกระจ่างในเรื่องนี้รวมถึงผู้ที่รับผิดชอบด้วย
จนถึงวันนี้แม่ของผู้ตายยังไม่ได้ดูกล้องวงจรปิดในเรือนจำเลย ถ้ากระจ่างจริงๆทำไมไม่เอากล้องวงจรปิดมาเปิดให้ญาติดู ตนคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องยากเพราะญาติเขามีสิทธิรู้ในสาเหตุการตายของลูกเขา การที่ไม่เอากล้องวงจรปิดมาให้ดูเรื่องนี้ ทางกระทรวงยุติธรรมสมควรเข้ามาตรวจสอบรวมถึงให้ความเป็นธรรมกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยทางตำรวจและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องมีความชัดเจน ซึ่งท่าเรื่องนี้ไม่มีใครร้องเรียนผ่านสื่อคงไม่มีใครสนใจเรื่องนี้
ในส่วนของข่าวที่ทางเรือนจำมีการสอบปากคำผู้ต้องขังด้วยกันที่อยู่ในเรือนจำกับทางผู้เเม่เเล้วเขาได้แจ้งอะไรกับทางญาติหรือไม่นั้น ทางเรือนจำยังไม่ได้แจ้งกับทางญาติมีแต่ทางตำรวจประสานงานมาว่ามีความคืบหน้าและยังไม่อยากให้ทางญาติพูดอะไรมาก แต่ทางญาติต้องการความชัดเจนหลายๆอย่าง โดยเฉพาะเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ซึ่งต้องการความชัดเจนเรื่องนี้ มีเจ้าหน้าที่รัฐลากลูกไปกระทืบหรือไม่ อยากให้ชัดเจน
โดยวันนี้จะมายื่นเรื่องแก่กระทรวงยุติธรรมทั้งหมด 4 เรื่องด้วยกัน
1. ขอให้มีคณะกรรมการของกระทรวจยุติธรรมเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้
2. ให้มีการเอาผิดเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกระดับชั้น
3.ให้พิจารณาเงินช่วยเหลือเยียวยาให้เร็วขึ้น
4.ให้ทางกระทรวงช่วยตั้งงบประมาณในการดำเนินคดีต่อไป เพราะทางครอบครัวไม่มีฐานะ
ทั้งนี้ นางสุรินทร์ กล่าวว่า สงสัยสาเหตุการตายของลูกชาย ซึ่งตนก็ได้พูดคุยกับทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ท่านบอกว่าจะช่วยให้ความเป็นธรรมคุณแม่ไม่ต้องห่วงจะเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ซึ่งหลักฐานที่ก็เป็นภาพถ่ายที่มีรอยฟกช้ำตามร่างกายของลูกชายตน โดยเฉพาะเเผลตรงปากที่ทำให้ไม่เชื่อถึงสาเหตุการเสียชีวิตเพราะปากของลูกชายเเตก
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ยื่นเรื่องแก่กระทรวงยุติธรรมแล้ว ทั้งกระทรวงได้รับเรื่องที่ยื่นไปทั้งหมดรวมถึงจะดำเนินการจามขั้นตอนและกระบวนการยุติธรรมต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-วิญญาณหนุ่ม ทวงขอความยุติธรรม ไม่ยอมให้เผา
-"ชาวเลราไวย์" ทวงความยุติธรรม กลับถูกข้าราชการขึ้นเสียงใส่ (คลิป)
-ลูกชาย ร้องขอความยุติธรรม พ่อถูก "รถปูน" ขับแข่งกันชนดับ ต้องเสียหัวเรือหลักของบ้าน (คลิป)
-หนุ่มร้องความยุติธรรมอยู่ตรงไหน ลุง"เมาแล้วขับ-ชนแล้วหนี" แค่ยื้นโทรศัพท์ให้คุย จบที่ขับรถกลับบ้านสบายใจ(คลิป)