- 24 เม.ย. 2562
เรื่องราวของเพื่อนร่วมชีวิต ร่วมทุกข์ร่วมสุข ของ โด่ง หนุ่มนครพนมสู้ชีวิต
จากกรณี เรื่องราวดีๆในสังคมไทย มีการเเชร์ไปอย่างมากมาก รู้สึกอบอุ่นหัวใจ ที่ยังมีบุคคลที่มีน้ำใจอันประเสริฐ เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยอดีตทหารเกณฑ์ปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายเเดนใต้ ชื่อ นายศักดิ์นรินทร์ จูมจันทา หรือโด่ง อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 196 หมู่ 11 บ้านแพงใต้ ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ปลดประจำการเมื่อปลายปี 61 ได้สู้ชีวิต มารับจ้างทำงานติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ เเต่กลับโดนนายจ้างเบี้ยวเงิน ทำให้ไม่มีเงินติดตัว กำลังจะเดินเท้ากลับบ้านที่นครพนม เเละได้พบกับบุคคลมากล้นน้ำใจ ระหว่างทางที่ จังหวัดนครราชสีมา ก็คือ พันเอกปริชญ์ สุคันธศรี รอง ผอ.รมน.จังหวัดหนองบัวลำภู ได้เข้าช่วยเหลือ เรื่องราวดีๆจึงเกิดขึ้น ให้ชีวิตใหม่ อิ่มบุญอิ่มใจ กับบุคคลทั้ง 2 ล่าสุด หนุ่มนครพนม ก็ได้ถึงบ้านดั่งใจหวัง พร้อมกับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากหลายๆฝ่าย
เรื่องราวสุดประทับใจ ได้เผยผ่านทางเฟซบุ๊ค กอ.รมน.จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู เกิดขึ้นที่ ศาลากลางจังหวัด หนองบัวลำภู.....
คนเรา มีเวลาไม่เกินสิบวินาทีในการตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับบุคคลที่สามที่เดินริมถนน เพราะสมองเราจะประมวลผลว่า เขาเป็นคนบ้าหรือเป็นมิจฉาชีพหรือไม่
.. วันนี้ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ เกิน 40 องศา เขาเดินดุ่มๆ ไม่สนใจใคร บริเวณเลย อ.จอหอ มาเล็กน้อย สภาพเหงื่อไหลท่วมตัว เลยหยุดรถสอบถาม ได้ความว่าจะไปนครพนม เราบอกให้ขึ้นรถ เขาเดินอ้อมไปขึ้นท้ายกระบะ (เรานึกในใจ สอบผ่านขั้นต้น) ขับรถต่อไปอีกประมาณ ๒๐ นาที สังเกตดูพฤติกรรมไม่มีสื่งผิดปกติ เลยแวะร้านริมถนน ซื้อไก่ย่าง ๑ ตัว ข้าวเหนียว น้ำดื่มขวดใหญ่ และบอกให้เขามานั่งในรถ บอกให้เขาทานข้าวที่ซื้อมาให้ เขาบอกทานเมื่อเช้าแล้ว แต่ก็ให้ไว้ หิวเมื่อไรก็ทานได้เลย
.. พูดคุยสอบถาม ได้ความว่า เป็นแรงงานติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ (เสาสูง 30-40 เมตร) แต่พอเสร็จงาน หัวหน้าฯหายตัวไป ไม่จ่ายค่าแรง ไม่มีเงินติดตัวสักบาท เมียบอกให้กลับบ้านก่อน ลูกสาวเรียนป.๒ กับกำลังคลาน รวม ๒ คน กำลังรอพ่อกลับบ้าน (ในสภาพข้างต้น)
ภาพด้านล่างคือ โฉมหน้าบุคคลผู้ใจบุญช่วยเหลือ คือ พันเอกปริชญ์ สุคันธศรี รอง ผอ.รมน.จังหวัดหนองบัวลำภู
.
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ 24 เม.ย.62 นางเกษแก้ว สุวรรณมาโจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 และ นายจรัส ไชยมนตรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านแพงใต้ พาไปพบนายโด่งที่นั่งรถโดยสารมาถึงอำเภอบ้านแพง ในเช้าของวันที่ 22 เม.ย. โดยนายโด่งได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ใจบุญ ให้ปลูกกระต๊อบพักอาศัยอยู่ในที่นา ใกล้กับท่อส่งน้ำชลประทาน มีนายอาคม ดงภูยาว อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 125 หมู่ 11 บ้านแพงใต้ ซึ่งเป็นเพื่อนในยามทุกข์ยากคอยช่วยเหลือตามอัตภาพ
กระต๊อบเป็นสังกะสีเก่าแปะล้อม ภายในมีเพียงที่นอนเก่าๆ และกระทะไฟฟ้าเสมือนอุปกรณ์สารพัดประโยชน์เพียงชิ้นเดียว ที่เป็นทั้งหม้อหุงข้าวและปรุงอาหาร ไม่มีห้องน้ำ พร้อมกับเปิดเผยชีวิตที่แสนจะหดหู่ว่า พื้นเพเป็นคนอำเภอบ้านแพงโดยกำเนิด มีพี่น้องด้วยกัน 3 คน เสียชีวิตไปหนึ่ง เมื่อเติบใหญ่ก็ต่างแยกย้ายไปทางใครทางมัน
ปัญหาเริ่มถาโถมเข้ามาภายหลังพ่อตายตอนตนอายุ 10 ขวบ ญาติฝ่ายพ่อก็มาขอที่ดินคืน แม่จึงหอบลูกออกจากบ้านที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำของพ่อแม่ โดยมาเช่าบ้านอยู่ในเขตเทศบาลตำบลบ้านแพง ต่อมาแม่ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานกวาดขยะของเทศบาลฯ วันหนึ่งมีการแข่งขันกีฬาเทศบาลที่อำเภอปลาปาก จ.นครพนม
ทางเทศบาลตำบลบ้านแพงจึงจัดนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน เมื่อรถวิ่งมาถึงบ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มีคนปวดฉี่จึงจอดข้างทาง แม่กระโดดลงจากรถวิ่งข้ามถนน โดยไม่ดูว่ามีรถวิ่งสวนมา จึงถูกชนเสียชีวิตคาที่ ขณะนั้นตนอายุได้ 16 ปี หลังจบงานศพแม่ตนก็มาอาศัยอยู่กับนายอาคมเพื่อนรัก ด้วยการรับจ้างทำงานทั่วไป กระทั่งถึงวัยเกณฑ์ทหาร จับได้ใบแดง ทบ.1/2556 ประจำการที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม
หลังผ่านการฝึกเป็นเวลา 3 เดือน ก็ถูกส่งไปอยู่กองร้อยสนับสนุนช่วยรบ(สชก.)อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดยะลา เป็นเวลา 1 ปี 9 เดือน เมื่อปลดประจำการก็กลับบ้านมาพบรักกับแม่หม้ายลูกติดคนหนึ่งชาวอำเภอนาทม จ.นครพนม ตนจึงไปอาศัยอยู่บ้านพ่อตาแม่ยาย และได้ไปทำงานก่อสร้างที่ กทม. 3 เดือน ได้เงินค่าจ้างตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์เมีย จึงเดินทางมาโดยไม่บอกให้เมียรู้ แต่สิ่งที่ตนพบคือเปิดประตูบ้านเข้าไปเห็นเมียพาชายชู้มานอนกกอยู่ในห้อง จึงเลิกรากันตั้งแต่บัดนั้น
ต่อมามีนายจ้างรับเหมามาชวนไปทำงานติดตั้งเสาโทรศัพท์มือถือที่อำเภอชุมพวง ค่าแรงวันละ 350 บาท แต่ทำได้เพียงสองวันก็ไม่มีงานให้ทำต่อ ตนจึงขอเงินค่าจ้างกลับบ้าน นายจ้างไม่มีเงินจ่ายเพราะยังไม่ได้เบิก จึงให้เงินค่ารถมาแค่ 200 บาท แต่มันไม่พอค่าตั๋วรถโดยสาร ตนจึงตัดสินใจเดินเท้ากลับนครพนมดังกล่าว
ด้านนางเกษแก้ว สุวรรณมาโจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านแพงใต้ และ นายจรัส ไชยมนตรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านแพงใต้ เปิดเผยว่าหมู่บ้านทั้งสองนี้ เหมือนบ้านฝาแฝด เพราะมีวัดและป่าช้าเดียวกัน การช่วยเหลือระหว่างสองหมู่บ้านจึงพึ่งพากันและกัน หลังเกิดข่าวทางสื่อโซเซียล มีแต่ทางจังหวัดนครพนมเท่านั้น ที่ติดต่อประสานมา
ส่วนหน่วยงานอื่นยังไม่มีการติดต่อแต่อย่างใด ขณะที่ทางเทศบาลตำบลบ้านแพง จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบสถานการณ์เป็นอยู่ในช่วงสายของวันนี้(24 เม.ย.) ซึ่งนายโด่งเป็นคนนิสัยดี ไม่มีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ชีวิตที่ผ่านมาน่าสงสาร ทางด้านนายอาคมเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากเผยว่า เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่น้อยจนใหญ่ ก่อนหน้า 7 วันที่แม่นายโด่งจะถูกรถชนตาย ได้สั่งเสียไว้ว่าเป็นเพื่อนกันอย่าทิ้งกัน ตนจึงเป็นเหมือนเพื่อนตาย และจะดูแลช่วยเหลือเพื่อนเท่าที่พอทำได้
.
.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-เพื่อนหวังดี ช่วย หญิงสาวอาเจียนในชักโครก สุดท้ายเรื่องดันพลิก ทำเพื่อนสร่างเมาทันที
-หนุ่มตี๋ ขัดสนเรื่องเงิน ขอยืมเพื่อนมา 4,600 บาท ผ่านมา32ปี นำเงินไปตอบแทน 46ล้านบาท
-1ภาพล้านความหมาย หนุ่มโพสต์รูปรองเท้า 2 ข้าง สะท้อนข้อคิดดีๆถึงคำว่า เพื่อน