- 26 เม.ย. 2562
หรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย?? เกมการเมือง "ธนาธร-ทักษิณ" หากคิดการใหญ่หมายปลุกระดมมวลชน ท้ายสุดไม่พ้นหนังม้วนเดิม!!
ยังต้องเกาะติดกันอย่างต่อเนื่อง โดยที่ยังไม่รู้ว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร หรือประวัติศาสตร์การเมืองไทยจะซ้ำรอยจนต้องมีผู้ระเห็จเร่ร่อนห่างไกลแดนเกิด หรือจะปรากฏภาพบุรุษกราบพื้นอีกหรือไม่
จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ได้แถลงผลการประชุมเมื่อวันที่23เมษายนที่ผ่านว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา98 (3) ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งกรรมการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานสอบแล้วฟังได้ว่า
นายธนาธรถือหุ้นบริษัทวีลัคฯซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์จริง ดังนั้นมติกกต.จึงแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายธนาธร โดยพยานหลักฐานฟังได้และจากนี้ให้ไต่สวนให้แล้วเสร็จโดยแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายธนาธร และให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน7วัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : มรสุมกระหน่ำ!! ศรีสุวรรณ ร้อง กกต. รอบ 3 ปมหุ้น "ธนาธร" - ข้อพิรุธ "ปิยบุตร" แจงไม่เคลียร์!!
พลันที่สถานการณ์เริ่มไม่สู้ดีประหนึ่งรู้ถึงชะตากรรมตน นายธนาธรได้โพสต์ข้อความพร้อมวีดีโอของตนเองผ่านเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมีการกล่าวถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า "เพื่อนๆครับไม่ต้องห่วงผม ผมและพรรคอนาคตใหม่ยังมีกำลังใจที่แข็งแรงดี เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ เชื่อว่าเรื่องคดีนี้เป็นความมุ่งหวังเพื่อทำลายทางการเมือง ผมจะเดินทางกลับประเทศไทยไปชี้แจงกับกกต.ด้วยตนเองในวันที่ 25 เมษายนนี้ครับ"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ธนาธรส่งคลิปจากอังกฤษ แจ้งวันกลับ ท่อง!คดีทำลายทางการเมือง
ล่าสุด นายธนาธรได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีมวลชนจำนวนหนึ่งมาร่วมให้กำลังใจ ซึ่งทางเจ้าตัวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนบางช่วงมีเนื้อหาระบุว่า ไม่กังวลกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่สามารถเอาผิดได้ รวมทั้งอ้างว่าขณะนี้มีแรงกดดันเข้าไปที่กกต. จนอนุกรรมการบางคนต้องลาออก
และยังไม่วายทิ้งท้ายถ้อยคล้ายประสงค์ปลุกระดมว่าตนนั้นเป็นผู้กอบกู้อวดอ้างประชาธิปไตยเป็นสรณะอย่างที่ประพฤติตลอดมา ความว่า "ผมไม่อยากทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องธนาธร แต่คนที่มาให้กำลังใจ เขาให้กำลังใจประชาธิปไตย คนที่มาที่นี่ ไม่ได้มาเพื่อรักษาธนาธร แต่มาเพื่อรักษาประชาธิปไตย” นายธนาธร กล่าว พร้อมระบุอีกว่า การคำนวณจำนวนส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อยากให้กกต.คำนึงถึงความต้องการของประชาชน เพราะจะส่งผลต่ออนาคตของประเทศ กกต.ต้องทำตามกฎหมาย"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ธนาธรฟุ้งสนามบิน!ไม่อยากทำให้คดีเป็นเรื่องธนาธร แต่เป็นเรื่องปชต.
ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้าปรากฏมีความย้อนแย้งระหว่างความดันทุรังของนายธนาธร และความคลับคล้ายอาการปลงตกของนางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ คล้ายจะรู้ชะตากรรมว่าจะลงเอยอย่างไร จากการที่ออกมาระบุต่อสาธารณะว่า
"แต่ก็มีการพูดคุยกันไปถึงว่าจะได้ใบส้ม หากได้ใบส้มจริงๆ ก็ไม่มีเป็นไร นายธนาธร ยินดีทำหน้าที่อยู่นอกสภา ซึ่งเชื่อว่ามีงานอื่นให้ทำอีกมาก แต่ตอนนี้ต้องต่อสู้เพื่อยืนยันเสียงของประชาชนที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ให้ดีที่สุด”โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าว และว่าพรรคอนาคตใหม่จะจัดประชุมใหญ่สามัญ ระหว่างวันที่ 26-27 เมษายนนี้ และจะมีการอบรมว่าที่ ส.ส. ครั้งที่2 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสภา"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โฆษกอนาคตใหม่ เผย ธนาธร ยินดีทำหน้าที่นอกสภา เชื่อมีงานอื่นให้ทำอีกมาก
จากเหตุการณ์ดังกล่าว นำมาซึ่งการตั้งข้อสังเกตต่อไปว่า จะเกิดการฉายภาพซ้ำในแบบที่มีผู้มีต้องมีอันเป็นไปทางการเมือง ในแบบย่ำรอยก้าวต่อก้าวเช่นเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้แปรสภาพมาเป็นนักโทษหนีคดีหรือไม่
คำถามดังกล่าว ได้รับความกระจ่างที่นำมาสู่ประเด็นที่ชวนขบคิด พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) และ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้แสดงความคิดเห็นและวิเคราะห์ได้อย่างน่าสนใจ โดยระบุว่า..เส้นทาง ธนาธร เส้นทาง ทักษิณ
กติกาการเลือกตั้งครั้งนี้ บังคับใช้กับผู้สมัคร ส.ส. ทุกคน ดังนั้นทุกพรรค จะต้องปฎิบัติ เหมือนๆกัน ไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบกัน ถ้าใครทำผิดกติกา กกต.ก็ต้องเข้ามาดูแล
เรื่องหุ้นสื่อมวลชน ของคุณธนาธร ก็เหมือนกัน คุณธนาธรรู้ไหมว่าผิด รัฐธรรมนูญ ม.98(3) ... คุณธนาธรรู้แน่นอนเพราะไปโอนหุ้นออกจาก มติชนมาเสร็จแล้ว และยังมีลูกพรรค อีกคนหนึ่งท่ีโดนศาลฎีกา สั่งให้เป็นบุคคลต้องห้ามในฐานะที่มีหุ้นสื่อฯ อีกด้วย กติกาการเลือกตั้งครั้งนี้ บังคับใช้กับผู้สมัคร ส.ส. ทุกคน ดังนั้นทุกพรรค จะต้องปฎิบัติ เหมือนๆกัน ไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบกัน ถ้าใครทำผิดกติกา กกต.ก็ต้องเข้ามาดูแล
เรื่องหุ้นสื่อมวลชน ของคุณธนาธร ก็เหมือนกัน คุณธนาธรรู้ไหมว่าผิด รัฐธรรมนูญ ม.98(3) ... คุณธนาธรรู้แน่นอนเพราะไปโอนหุ้นออกจาก มติชนมาเสร็จแล้ว และยังมีลูกพรรค อีกคนหนึ่งท่ีโดนศาลฎีกา สั่งให้เป็นบุคคลต้องห้าม ในฐานะที่มีหุ้นสื่อฯ อีกด้วย เรื่องหุ้นสื่อฯนี้ ตอนแรก คุณธนาธร เริ่มต่อสู้ทางกฏหมาย แต่ก็โดนแฉ ว่าข้อกฏหมายนั้นผิดพลาดไปหลายๆเรื่อง รวมถึงเรื่องรถตู้ด่วน ที่กลับมาจากบุรีรัมย์ด้วย ฯลฯ
พออีก3วันต่อมา แนวทางของพรรคอนาคตใหม่ ก็เริ่มเปลี่ยนไป เหมือนกับจะไม่สนใจเรื่อง กฏหมายอีกต่อไป หันกลับมาปลุกมวลชน ว่าเรื่องนี้ถูกแกล้งจากทหาร และไปต่างประเทศ โดยพูด และ ทำเหมือนคุณทักษิณ เข้าไปทุกทีแล้ว คนที่มารับพ่อฟ้า ส่วนหนึ่งพอจำได้ว่าเคยอยู่ในเครือข่าย ทักษิณ มาก่อน
ยิ่งดิ้นรนมาก ก็ยิ่งรัดตัวมากขึ้น จากผิดแค่ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ก็อาจจะผิดในเรื่องหลักฐานเท็จ เข้าไปอีก ผมก็ภาวนา ให้หลักฐานของคุณธนาธร ถูกต้อง เรื่องจะได้ยุติเสียที แต่มาคิดอีกที คงยุติลำบาก ถ้าคุณธนาธรยังคิดถึง เรื่องการรื้อฟื้นคดีคุณทักษิณ และ พยายามเลียนแบบคณะราษฎรอยู่ ยังมีเวลาจะเดินทางใหม่ไหม ! ก็อยู่ที่ตัวเองเท่านั้น ครับ
เพื่อความชัดเจนต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ที่นำมาสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง กับพฤติการณ์การแสดงออกเชิงปลุกระดม เมื่อทำการโพสต์เฟซบุ๊คพร้อมภาพชู3นิ้ว โดยเนื้อหาระบุว่า "วันนี้การที่คสช.จำต้องปลดล็อกไม่ใช่เขามีความกรุณาต่อเรา แต่เป็นการเอาสิทธิขั้นพื้นฐานของเราที่เขาช่วงชิงจากเราไปเป็นระยะเวลาเกือบ 5 ปี
คืนกลับมาให้บางส่วนต่างหาก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวไทยด้วย นะครับ ที่วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความหวังที่เราจะได้รับสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคกลับคืนมา ถึงแม้ว่าอาจไม่เหมือนเดิมเหมือนเมื่อครั้งได้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 เพราะรัฐธรรมนูญนี้ตั้งใจควบคุมและจำกัดสิทธิของประชาชนตามมาตรฐานสากล
ดังนั้นเราต้องร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญฉบับถ่วงความเจริญของประเทศฉบับนี้โดยเริ่มต้นก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ด้วยความรัก ความสามัคคีของ คนไทยที่หัวใจเป็นไทอย่างแท้จริง และจุดมุ่งหมายที่วางไว้ คงไม่ไกลเกินมือของพวกเรา ขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนและผมจะขอทำหน้าที่ในฐานะที่เคยรับใช้ประเทศไทยมาและใจก็ยังไม่ได้จากไปไหนครับ.."
ทั้งพฤติการณ์ของนายธนาธร และนายทักษิณแม้จะต่างวาระและกรณี แต่ความเหมือนที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือประจักษ์แจ้งอย่างชัดเจนว่ามีเจตนาแฝงเร้นเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง หรือเป็นไปได้กี่มากน้อยที่ต้องการจุดชนวนให้ประชาชนที่สนับสนุนตนถึงขั้นลุกฮือถึงขั้นบานปลายเป็นเหตุของความรุนแรง ดังที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
และหากเป็นเช่นว่านี้จริงคงมิต้องสงสัยอีกต่อไปว่าบทสรุปสุดท้ายสำหรับอนาคตทางการเมืองของนายธนาธร หากคิดการใหญ่เช่นเดียวกับนายทักษิณ จะเป็นอย่างไรต่อไป!?