ลูกสาวเล่านาทีกอดพ่อแน่นก่อนสิ้นใจ

จากกรณี บ้านปูนสองชั้น เลขที่ 446/4 ถ.เพชรเกษม ขาล่องใต้ หมู่ 4 บ้านบึง ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถล่มลงมาทั้งหลังทับคนในครอบครัวทั้งหมด 5 คน โดยบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นร้านซ่อมไดนาโมและจำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์ อาสากู้ภัยสว่างประจวบธรรมสถาน สามารช่วยลูกสาวออกมาได้ก่อน 2 คน คือ น.ส.ธันย์นิชา ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 29 ปี และ ด.ญ.ริญญรัตน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 14 ปี 

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จนสามารถช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างในออกมาได้อีก 3 คน คือ นายไชยโรจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 54 ปี บิดา นางศิริกาญจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 52 ปี มารดา และ น.ส.ธัญญกาญจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 31 ปี บุตรสาวคนโต ต่อมามีรายงานว่านายไชยโรจน์เสียชีวิต ขณะที่น.ส.ธัญญกาญจน์ส่งรักษาตัวที่ห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉินโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ 5 ชีวิต หลังเกิดเหตุอาคารพาณิชย์ถล่ม

 

โดย น.ส.ธัญญกาญจน์​ เล่าว่า วันเกิดเหตุสมาชิกทุกคนอยู่ในบ้าน โดยขณะที่กำลังเตรียมรับประทานอาหารเย็น และในตอนนั้นตนตักข้าวเข้าปากได้แค่คำเดียว ขณะที่คนอื่น ๆ ยังเดินมาไม่ถึงโต๊ะกินข้าวได้ยินเสียงดังคล้ายว่าฟ้าร้องฟ้าฝ่าดังมาก ก่อนที่ทั้งตนและพ่อกำลังจะเดินไปดูที่หลังบ้าน ซึ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวบ้านทั้งหลังก็พังถล่มลงมา ตนจึงรีบคว้าตัวพ่อมากอดไว้เพื่อจะให้หลบแผ่นพื้นปูนชั้นสองที่ถล่มลงมาแต่ก็ไม่ทัน ตนล้มลงกระแทกพื้นตัวของตนอยู่ด้านล่างแต่กอดพ่อไว้ด้านบนตัวพยายามจะเรียกแต่พ่อไม่ขานตอบ ไม่กี่นาทีต่อมาพ่อมีอาการกระตุกและนิ่งไป นาทีนั้นนึกรู้ว่าพ่อไม่อยู่กับตนแล้วจึงบอกพ่อว่า "ไม่ต้องกลัวหนูยังอยู่เป็นเพื่อน หากหนูทนไม่ไหวจะตามไปอยู่กับป๊าด้วย" และกอดร่างพ่อเอาไว้ตลอดเวลา

 

น.ส.ธัญญกาญจน์ เปิดเผยอีกว่า จากนี้คงต้องเดินทางหน้าก่อสร้างบ้านใหม่ ตนไม่อยากพูดถึงเรื่องบ้านแล้วทั้งเรื่องโครงสร้างที่มีปัญหาซึ่งครอบครัวรู้มาตลอดเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว

 

ด้าน นางศิริกาญจน์ ล่าสุดหายใจแล้วรู้สึกเจ็บที่กระดูกซี่โครง และเท้าชา คาดว่าจะเกิดจากการถูกแผ่นปูนกดทับเป็นเวลานาน มีอาการเจ็บที่สันจมูกและโครงหน้าซึ่งถูกแรงกระแทก ทั้งนี้ แพทย์รอดูอาการใกล้ชิด ส่วนน.ส.ธัญญกาญจน์ มีอาการชาที่เท้าซ้ายเพียงอย่างเดียว ตามร่างกายมีบาดแผลจากการกระแทกบ้าง แต่ไม่เป็นเแผลฉกรรจ์ ส่วนของศพนายไชยโรจน์ ทางครอบครัวผู้ประสบภัยได้ฝากไว้ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์เป็นการชั่วคราว โดยรอให้อาการบาดเจ็บของนางศิริกาญจน์ ผู้เป็นแม่ดีขึ้นเสียก่อน ครอบครัวจึงจะหารือกันอีก เกี่ยวกับการประกอบพิธีทางศาสนา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : จากปาก ลูกสาวคนโต เล่า คุณพ่อใช้ร่างบัง ช่วยชีวิตลูก

 

ขณะที่ นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้นำความช่วยเหลือเบื้องต้นมามอบให้กับทางญาติ ทั้งเงินและสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปก่อน ส่วนหลังจากนี้จะหารือร่วมกับ พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.กอ.รมน.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อวางแผนเข้าช่วยเหลือในการสร้างบ้านหลังใหม่ โดยมีกำลังทหารช่างเป็นกำลังหลักในการสร้างบ้านให้ใช้เงินจากที่ได้รับสนับสนุนจากภาคเอกชนต่าง ๆ ที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ และเงินเยียวยาตามระเบียบราชการ จากทุกหน่วยงาน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยด้วย

 

 

ขอบคุณภาพ : เสกสม แจ้งจิต, สื่อสารดับเพลิงกู้ภัย