สั่งเด้งเข้ากรุ พ.ต.ท.โชคชัย

สั่งเด้งเข้ากรุ พ.ต.ท.โชคชัย

จากกรณีเมื่อวันที่ 4 พ.ค.62 พบผู้เสียชีวิตที่ห้องเลขที่ 207 ภายในอาคารพักอาศัยแห่งหนึ่งในพื้นที่สมุทรปราการ เป็นชาย 1 รายทราบชื่อ นายไพวัลย์ แซ่ลี้ ในสภาพนอนตะแคงขวา สวมเสื้อโปรโลแขนสั้น สีดำ กางเกงยืนขายาว เสียชีวิตมาแล้วไม่ตำกว่า 3 วัน เบื้องต้นจากการตรวจสอบภายในห้องพบสมุดเขียนจดหมายลาตาย รวม 2 ฉบับ

 


อ่านข่าว  : ข้อความจากหนุ่มช้ำใจ ถึงบิ๊กตู่และบิ๊กแป๊ะ หลังถูกสารวัตเอาเงินไป

สั่งเด้งเข้ากรุ พ.ต.ท.โชคชัย

โดยฉบับแรกมีข้อความว่า "กราบถึง พล.อ.ประยุทธ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ข้าพเจ้าได้นำรถกระบะมาสด้า บีที 50 โปร ทะเบียน 6723 ร้อยเอ็ด สีบรอนเทา ไปจำนำไว้ตั้งแต่ 15 ม.ค. 61 - 23 ม.ค. 61 แต่ไม่สามารถติดต่อไถ่ถอนคืนกลับมาได้ จึงแจ้งความไว้ที่ สน.โชคชัย และ พ.ต.ท.ประทวน แมลงทับ สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย ได้เรียกเงิน 3,000 กับค่าสืบอีก 2,000 บาท ผ่านมา 7 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้าใดๆ 

สั่งเด้งเข้ากรุ พ.ต.ท.โชคชัย

ส่วนฉบับที่สองมีข้อความว่า "ข้าพเจ้าได้กระทำการฆ่าตัวตายด้วยตนเอง ข้าพเจ้าไม่มีญาติ ไม่มีบ้าน ข้าพเจ้ามีแต่ความล้มเหลว และผิดหวัง ขอความกรุณา เจ้าหน้าที่มูลนิธิช่วยเผาศพให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เงินจำนวนนี้ + โทรศัพท์ 2 เครื่อง และของในห้องทุกๆ อย่าง ขอมอบให้แก่เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ที่ช่วยเผาศพของข้าพเจ้า" ลงชื่อท้าข้อความ "ไพวัลย์ แซ่ลี้"


อ่านข่าว  :  พ.ต.อ.กฤษณะ ชี้แจงเหตุ พ.ต.ท.ประทวน เอาเงินหนุ่มใหญ่ไป 

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 7 เม.ย. เวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 ว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กับพนักงานสอบสวนรายดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวอ้าง และเรื่องของสำนวนการสอบสวนที่พบว่า สำนวนมีความล่าช้าในการสอบสวน ที่ทางผู้ตายมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และพบด้วยว่าคดีดังกล่าวไม่เสนอผู้บังคับบัญชาให้รับทราบ 

ส่วนเรื่องที่ถูกกล่างอ้าวว่าเสียเงินในการทำสำนวนนั้น ตนได้สั่งการให้ทาง บก.น.4 เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดกับผู้ตายมาทำการสอบปากคำ โดยขณะนี้ ผบก.น.4 มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนรายดังกล่าวไปปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (ศปก.น.4) 

ถามว่า ได้มีการสอบถามพนักงานสอบสวนรายดังกล่าวถึงข้อเท็จหรือไม่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้สอบถามแต่ทราบว่า ขณะนี้ บก.น.4 ได้ดำเนินการในเบื้องต้นแล้ว 

ถามว่า เบื้องต้นสำนวนคดีมีความคืบหน้าหรือไม่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว ข้อเท็จจริงแจ้งความไว้ตั้งแต่ปี 2561 ก็ต้องมาดูหลักการและเหตุผลว่า ขณะนี้เข้าปีที่ 2562 แล้ว ตนมองว่าคดีมีความล่าช้า แต่พนักงานสอบสวนรายดังกล่าวได้แจ้งข้อกล่าวหา กับกลุ่มผู้ถูกกล่าวอ้างไปแล้วบางคนและบางคนก็มีหมายจับอยู่ เหตุที่ตนมองว่าล่าช้าเพราะคดีตั้งแต่ปี 2561 น่าจะมีการแจ้งให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ หรือสำนวนจริงๆ แล้วน่าจะออกไปตั้งแต่เมื่อไร ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบ 

"ตนมองว่า ปี 2561 - 2562 น่าจะเสร็จแล้ว หรือมีการออกหมายจับ หรือสรุปสำนวนส่งไปแล้ว ตนได้รับแจ้งจาก บก.น.4 ว่ากำลังเร่งสรุปดำเนินการที่จะส่ง แต่มีการแจ้งข้อหาบางคนไปแล้ว บางคนมีหมายจับแล้วเราก็กำลังเร่งจับกุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง" ผบช.น. กล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ช่วงบ่าย พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ ได้มีการเรียกพนักสอบสวนในสังกัด บช.น. เพื่อกำชับในการปฏิบัติหน้าที่และการยกระดับบนโรงพัก ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ให้นโยบายไว้ ในการดูแลผู้ที่มาร้องทุกข์ก็จะมีการพูดคุยกันในภาพรวม.