เจ้าหน้าที่เข้าบ้านไม่มีเลขที่ ในอ.ยะหา

จากกรณีที่กองกำลังเจ้าที่ 3 ฝ่าย จ.ยะลา ประกอบด้วยทหารพรานร้อย ทพ 4712 กรมทหารพรานที่ 47 อ.ยะหา ตำรวจ นปพ.ชุดแกะดำ ภาค 9 กำลังเจ้าที่ อส.อ.ยะหา ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมบ้านไม่มีเลขที่ บ้านตันหยง หมู่ 4 ต.กาตอง อ.ยะหา เนื่องจากสืบทราบว่า นายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ อายุ 35 ปี กับพวกไม่ต่ำกว่า 3 คน แอบมาหลบซ่อนตัววางแผนก่อเหตุร้ายในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน 

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญโต๊ะอิหม่าม ผู้นำศาสนามาช่วยเจรจาให้คนร้ายมอบตัว แต่ร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กำลังเจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้ ส.ต.อนุชิต ทิพย์จันทรา อายุ 30 ปี สังกัดร้อย ทพ.4712 ถูกกระสุนปืนคนร้ายที่ต้นขาขวา บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลพระยุพราชยะหา ก่อนส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์ยะลา

 

หลังจากนั้นจึงเกิดการปะทะกันขึ้น โดยสถานการณ์เป็นไปอย่างดุเดือด มีการยิงปะทะกันเป็นระลอกๆ และคนร้ายได้นำเศษวัสดุมาจุดไฟให้เกิดควันเพื่อกำบังตัวหลบหนี ปรากฏว่าไฟที่พวกคนร้ายจุดได้ลุกลามไหม้บ้านหลังดังกล่าว ทำให้เกิดไฟไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่จึงขอรถดับเพลิงท้องถิ่นมาฉีดสกัด ส่วนคนร้ายทางเจ้าหน้าที่คาดว่ายังหลบอยู่ในห้องใต้ดินหรือที่ที่สร้างไว้เพื่อหลบซ่อนตัว เจ้าหน้าที่ยังคงตรึงกำลังปิดล้อมไว้ตลอดเวลา
 

จนกระทั่งเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.พรหมพัฒน์ สนิทศรี ผกก.ปพ.จชต.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภาค 9 หน.ชุดแกะดำ ได้นำกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ ได้ใช้โล่โลหะกำบังนำเข้าไป ปรากฏว่าคนร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่ ได้ใช้อาวุธปืนยิงสวนออกมา เป็นเหตุให้กระสุนถูก พ.ต.อ.พรหมพัฒน์ ที่มือขวาส่วนที่โผล่พ้นโล่ออกมา ได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหาโดยด่วน 

ขณะเดียวกันกองกำลังที่ปิดล้อมบ้านที่เกิดเหตุ ได้ใช้อาวุธปืนนานาชนิดระดมยิงเข้าไปอย่างดุเดือดเพื่อทำการกดดันคนร้าย แต่กลับถูกคนร้ายยิงสวนออกมา เป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันอีกรอบ นานร่วมชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 18.00 น. เสียงปืนจากฝ่ายคนร้ายก็ได้สงบลง

 

ต่อมา พ.ต.อ.นรินทร์ บูสะมัญ รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา ได้ประสาน ร.ต.อ.ประมวล ผลพฤกษา อัยการจังหวัด สนง.อัยการสูงสุด ผู้กลั่นกรองงานประจำ สนง.อัยการจังหวัดยะลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุ พบศพนายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ อายุ 35 ปี ถูกกระสุนตามร่างกายจนพรุน นอนตายข้างอ่างน้ำขนาดใหญ่บริเวณหลังบ้าน ในมือกำอาวุธปืนขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก ส่วนคนร้ายที่เหลือหลบหนีไปได้ และหลังจากนั้น 20.20 น. ทหารสนธิกำลัง คลุมพื้นที่ปิดล้อมป่าอยู่ กลุ่มคนร้ายที่และเจ้าหน้าที่ยังคงต่อสู้กันอยู่ในป่า

 

 

สำหรับนายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ เป็นคนร้ายระดับสั่งการ มีแนวร่วมอาร์เคเค ในสังกัดหลายคน มีหมายจับคดีความมั่นคงไม่ต่ำกว่า 4 คดี ทั้งลอบวางระเบิดและซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ อ.ยะหา ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่การข่าวได้ติดตามตัวมาโดยตลอด จนกระทั่งสืบทราบว่า นายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ เดินทางออกจากแหล่งกบดานในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา เพื่อกลับบ้านที่บ้านเจาะตาแม หมู่ 4 ต.กาตอง

 

แหล่งข่าวได้แจ้งเบาะแสมาว่า นายอับดุลเลาะ ได้แอบไปพักที่บ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านญาติ โดยนัดหมายสมาชิกแนวร่วมไปพบปะวางแผนเพื่อก่อเหตุร้ายในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ทำให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายจึงได้ระดมกำลังเข้าปิดล้อมกดดันให้ยอมมอบตัว แต่นายอับดุลเลาะกลับพวกยิงต่อสู้ จึงได้เกิดปะทะกันขึ้นนาน 5 ชั่วโมง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตในที่สุด

 

ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กชื่อ พลังใจถึงชายแดนใต้ ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว ระบุข้อความว่า "ตัวการใหญ่ ค่าหัวหลักแสน #เคสปะทะยะหา ชื่อ "นายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ" อายุ 38 ปี หัวหน้าชุดปฏิบัติการ กลุ่มแนวร่วม ผู้ก่อการร้าย มี 7 หมายจับ ป.วิอาญา จากเคสเมื่อช่วงบ่ายนี้ ที่ถูก จนท.ทหารพราน (ทพ. 47) วิสามัญ..กลายเป็นศพ..หลังจาก จนท.สนธิกำลังกัน เข้าปิดล้อมตรวจค้น พื้นที่ บ้านเจาะตาแม ม.4 ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา และมีการยิงต่อสู้ จนเกิดการปะทะกันขึ้น ส่งผลให้ จนท.บาดเจ็บ 2 นาย และ นายอับดุลเลาะฯ ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ปล.ยังมีคนร้าย หลบหนีเข้าป่าไปได้ 1-2 คน คืนนี้ จนท.ยังปิดล้อมพื้นที่รอบๆป่าอยู่ รอเข้าเคลียร์พรุ่งนี้เช้าครับ.."

 

ต่อมายังได้บอกต่อที่ใต้คอมเม้นต์อีกว่า "ทหารตามล่า ตัวนี้มากว่า 7 ปี มันรอดตลอด...มันเป็นหัวหน้า ตัวการใหญ่ ในพื้นที่กาบัง-ยะหา (เค้าว่าค่าหัวมัน 4-5 แสน) มันเป็นมือประกอบระเบิดด้วย ชาวบ้านและ จนท.ตาย เพราะฝีมือ มันเยอะมาก ...ทหารชุดปะทะ บอกแอดว่า  มันสู้จนวินาทีสุดท้าย ทหารก็สู้ไม่ถอย...ดีแล้วมันตาย เพื่อนผมจะได้นอนตายตาหลับซักที"

 

 

และยังบอกอีกว่า พ.ต.อ.พรหมพัฒน สนิทศรี ผกก.ปพ.ภ.9 เข้าปิดล้อมตรวจค้น พื้นที่ยะหา ปะทะกับคนร้าย บาดเจ็บ นำส่งทาง ฮ. ถึง รพ.มอ.หาดใหญ่ เรียบร้อย ปลอดภัย

 

 

หลังจากเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียลทำเอาชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งบ้างก็บอกว่า โล่งอกที่ทหารแค่ได้รับบาดเจ็บ ลุ้นทั้งวัน ได้แต่ส่งแรงใจและสวดมนต์ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองทหารกล้า ขอให้เจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกท่านที่ปฏิบัติงานค่ะ  ขอให้กำจัดพวกมันได้อย่างสิ้นซาก บ้านเมืองจะได้สงบเสียที
ต้องยิงหัวกระบาล ไอ้ตัวใหญ่ ที่มันสั่งการ ด้วย กวาดให้เรียบ อย่าให้เหลือ

บ้างก็บอกว่า จัดการขั้นเด็ดขาดให้หมดครับคนพวกนี้  มันไม่มีความปราณีกับคนอื่นที่มันฆ่าเขาเลยครับ ไม่ต้องจับเป็นครับจับตายให้หมดจะได้ไม่ต้องเอามาเปลืองภาษีของพวกผมครับ จับเป็นได้เค้นเอาตัวผู้ร่วมขบวนการได้แล้วก็จัดการเก็บเลยครับ เอาแต่ศพพวกมันมาออกข่าวพอ ไม่ต้องเอาตัวเป็นๆมาออกข่าวครับ ตายอย่างหม-มึงคงคิดว่ามึงจะได้ขึ้นสวรรค์แหละนะไอ้หม-หนักแผ่นดิน

 

 

ขอบคุณ พลังใจถึงชายแดนใต้