โฆษกประชาธิปัตย์ ยันไร้ข้อผูกมัดพลังประชารัฐ ไม่มีเหตุผลจะต้องตาม เลขาฯพรรค

28พ.ค.62  พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการเคลื่อนไหวโดยมี นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคมาแถลงถึงทิศทาง เพื่อให้รู้ว่าความชัดเจนว่าพรรคจะไปในทิศทางใด และในช่วงเย็นเวลา 17.00 น. กรรมการบริหารพรรคจะมีการประชุมใหญ่อีกครั้ง

 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการหารือกับพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวานนี้ โดยยืนยัน ไม่มีพูดคุยประเด็นร่วม หรือ ไม่ร่วม รัฐบาล แต่มีเพียงการหารือและชี้แจงถึงแนวทางในการทำงาน พรรคประชาธิปัตย์ มีแนวทางอะไรบ้างในการยึดประโยชน์ของประชาชน และการทำงานก็ต้องยึดนโยบายของประชาชนตามที่หาเสียงไว้ ตามรูปแบบ แก้จน สร้างคน สร้างชาติ

 

นายราเมศเผยว่า วาระการประชุมคือ การพิจารณาการประสานงานทางการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น โดยการประชุมจะแบ่งเป็นสองช่วง คือ การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หรือ กก.บห ในช่วงเวลา 17.00 น. และ การประชุมกรรมการบริหารพรรคพร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ในช่วงเวลา 17.30 น. เกี่ยวกับการประสานงานภายในพรรค หลังจากที่มีการพปปะกันระหว่าง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ซึ่งไม่มีการพูดคุยในประเด็นร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล พูดคุยแค่แนวทางการทำงานเท่านั้น เพื่อให้พลังประชารัฐได้รับรู้แนวทางของพรรคว่า ยึดประโยชน์ของประชาชน ภายใต้การปกครองระบอบกษัตริย์

เพราะหลักการทำงานของพรรค ต้องยึดนโยบายที่หาเสียงกับประชาชน ดูแลเรื่องปากท้อง และการขับเคลื่อนประเทศ ตามนโยบาย

 

 

 

 

ทั้งนี้ในการประชุมจะมีการกล่าวถึงประเด็นสำคัญจากที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค แถลงจุดยืนจะไม่สนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ตอนนี้ความชัดเจน จะขึ้นอยุ่กับการประชุม ตนยังไม่อยากกำหนดว่า ร่วม หรือไม่ร่วม ถ้าร่วม ต้องมาดูใครเป็นนายกฯ ใครเป็นรัฐมนตรี ทุกอย่างต้องเข้าสู่การประชุมทุกกรณี ต่อให้พรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมร้ฐบาล ประชาธิปัตย์ก็ไม่มีเหตุผลจะต้องตาม นายเฉลิมชัย ไม่ใช่คนเดียวที่จะตัดสินใจ ต่อให้เข้าร่วมรัฐบาล แต่ไม่โหวต พลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ นั้น ตนยังไม่ขอกล่าวถึง เพราะยังไม่พูดคุย แต่ตนยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไร้ข้อผูกมัดใดๆ กับพรรคพลังประชารัฐ

 

 

นายราเมศ ยังย้ำอีกว่า พรรคไม่ใช่เพียงของคนเพียงคนเดียว ทุกคนในพรรคมีสิทธิในการลงมติ จะนำไปพูดคุยและปรึกษากันจนตกผลึก และอยากให้ประชาชนมั่นใจว่าการกระทำของพรรค มีความชัดเจน

 

ส่วนในกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าวหาว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค เป็นการได้คืบจะเอาศอก นายราเมศกล่าวว่า นายธนาธร ควรศึกษารัฐธรรมนูญให้ชัดเจน การเลือกฝ่ายนิติบัญญัติของพรรคมีความชัดเจน ตั้งแต่ก่อนการลงประชามติ คือ ไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมีการประกาศใช้แล้ว สิ่งที่ทำได้ก็คือ การปฏิบัติตามกฎ และนำมาพิจารณาจากนี้ว่าจะสามารถแก้ไขประเด็นใดที่เป็นปัญหากับประชาชนบ้าง ซึ่งแนวทางแก้ไขนี้ไม่ใช่เรื่องของการต่อรองร่วมรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การบิดเบือนข้อมูลที่มีการกล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีการต่อรองในการร่วมรัฐบาล โดยอาศัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ขอให้ทุกฝ่ายแยกให้ออกว่า กระบวนการเลือกประธาน และ รองประธานรัฐสภา เป็นคนละประเด็นกับการตัดสินใจร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

- รู้จัก คำสั่ง 66/23 พล.อ.เปรม “การเมืองนำการทหาร” สลาย คอมมิวนิสต์ ในไทย

- เปิดหมดทุกสถานะคดีพันคอ พ่อจ๋า... ฟ้าห่วงจัง!!

- เพจดังแฉ "ธนาธร" เหตุอ้าง "รัฐสภาอาเซียน"ออกแถลงป้อง "อนาคตใหม่" แท้จริงพวก NGO หากินกับเงินบริจาค??

- "ช่อ พรรณิการ์" "มงคลกิตติ์" โชว์ของ หาเสียงแทนผู้ชิงเก้าอี้รองประธาน โกลาหลบังเกิด!!