- 10 มิ.ย. 2562
ศูนย์วิทยุ 191 สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุเด็กทารกหายตัวไปไป เหตุเกิดบนถนนชนเกษมขาออกเมือง ใกล้ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี
จากกรณีที่ศูนย์วิทยุ 191 สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกวางยาแล้วลักตัวเด็กทารกไป เหตุเกิดบนถนนชนเกษมขาออกเมือง ใกล้ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และผู้เสียหายรอพบเจ้าหน้าที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุที่บริเวณปากซอยเสม็ดเรียง 22 ไป ประมาณ 1 กิโลเมตร จึงแจ้งให้ ร.ต.อ.อรรถพล สุวรรณมณี ร้อยเวรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบน.ส.ศศิธร ชูจิต อายุ 30 ปี นั่งอยู่ในรถยนต์เก๋งฮอนด้า สภาพสะลึมสะลือ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาพูดคุยเป็นเวลานานและต่อมาได้มีนายณัฐวุฒิ ภูเขาทอง อายุ 32 ปี สามี เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่
โดยน.ส.ศศิธร ชูจิต เปิดเผยว่าเมื่อช่วงเช้า ตนได้เข้ารับอบรมงาน ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ริมถนนบายพาส โดยได้พาลูกชายไปด้วย และหลังจากเลิกงานอบรม ได้ฝากลูกชาย อายุ 1 เดือน 8 วัน ไว้กับหัวหน้างาน เพื่อออกไปเอารถยนต์จากสามีซึ่งทำงานเป็นพนักงานขายโทรศัพท์มือถือในตัวเมือง โดยมีเพื่อนร่วมงานขับรถจักรยานยนต์มาส่ง ภายหลังจากรับรถจากสามีแล้ว
หัวหน้างาน ได้โทรมาบอกว่า จะ ออกไปทำธุระข้างนอกโดยพาลูกของตนไปด้วยและได้นัดให้ตนมารับลูกที่ริมถนนชนเกษม บริเวณหน้าห้างแม็คโคร หลังจากที่ตนรับลูกมาแล้ว และกำลังเอาไปวางที่เบาะนั่งด้านหน้า ก็ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างท้วมมาขออุ้มลูก ซึ่งตนก็ให้อุ้ม โดยระหว่างนั้นรู้สึกว่าผู้หญิงคนดังกล่าวมาแตะที่ตัว ก่อนส่งตัวบุตรชายให้คืน
ตนเองจำได้ว่า ได้รับตัวลูกชายเอาเข้ามาไว้ที่เบาะรถแล้ว และยังไลน์ไปบอกสามีว่ามีคนมาขออุ้มลูก และรู้สึกวูบวาบตามตัว จนกระทั่งมาถึงหน้าปากซอยชนเกษม 22 ตนได้ยินเสียงโทรศัพท์จากเครื่องของออฟฟิต ก็พบว่าสามีเป็นคนโทรเข้ามา และบอกว่าติดต่อมือถือส่วนตัวของตนไม่ได้ และเมื่อตนหันไปมองกลับไม่พบตัวบุตรชาย นอกจากนั้นยังพบว่าโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และกระเป๋าสะพายภายในมีเงิน 4,000 บาท ได้หายไปด้วย จึงได้รีบแจ้งให้สามีทราบ ก่อนจะแจ้งให้ตำรวจทราบดังกล่าว
ต่อมาได้มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาหาสามีของน.ส.ศศิธรตามเบอร์ที่โพสต์ลงไปในเฟซบุ๊ก โดยบอกว่ามาแจ้งความทำไมในเมื่อตกลงกันแล้วและเด็กก็เป็นลูกของตนที่นำมาฝากเลี้ยงไว้ ขณะนี้ได้นำกลับมาถึงจังหวัดตรังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีและสืบสวนสถานีตำรวจเมืองสุราษฎร์ธานียังคงร่วมกันสอบหาข้อเท็จจริงเพื่อคลี่คลายคดีต่อไป รวมไปถึงประสานขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกด้วย