รองโฆษก สตช.แจ้งคืบหน้า ปมคลิปตร.มุกดาหารเรียกตรวจฉี่ม่วง รีดเงิน 2 หมื่น

กลายเป็นเรื่องราวที่เป็นประเด็นถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปอย่างกว้างขวาง กรณีหนุ่มคนหนึ่งได้ออกมาอัดคลิปเล่าเรื่องระหว่างที่เจ้าตัวขับรถจะเดินทางไปที่ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร และได้เจอด่านตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตามปกติ โดยเจ้าตัวก็ถูกเรียกจอดเพื่อตรวจสารเสพติด ปรากฏว่า ฉี่เป็นสีม่วง ทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเลย นอกจากนี้ตำรวจยังยื่นข้อเสนอจะให้จ่ายประกัน 20,000 ไม่ก็ติดคุก 

 

แต่หนุ่มคนดังกล่าวไม่ยอมและขอตำรวจจะไปตรวจด้วยตัวเองที่โรงพยาบาล แต่ตำรวจไม่ให้ไปและได้กักตัวหนุ่มรายนี้เป็นชั่วโมงๆ ก่อนที่จะปล่อยตัวหนุ่มรายนี้ไป ขณะเดียวกันหนุ่มคนดังกล่าวด้วยความสงสัย เพราะว่าตนไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเลย จึงเดินทางไปตรวจหาสารเสพติดด้วยตัวเองที่โรงพยาบาล และเมื่อผลตรวจที่โรงพยาบาล ปรากฏว่าไม่เจอสารเสพติด จึงได้โพสต์คลิปดังกล่าวเพื่อเป็นวิทยาทานว่า หากเจอเหตุการณ์แบบนี้ อย่าไปยอมเจ้าหน้าที่และไม่ต้องกลัวหากตัวเองมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วเราต้องไปด้วยอย่าให้ตำรวจเอาผลตรวจไปเอง โดยหนุ่มคนดังกล่าวได้โพสต์คลิป ดังกล่าวระบุข้อความว่า "ว่าด้วยเรื่องด่านตรวจ"

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กชื่อ "ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร." ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ระบุข้อความว่า "พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่มีการโพสในโลกโซเชียลเกี่ยวกับการตรวจปัจสาวะของชายจำนวน 1 ราย จากเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันอาชญากรรม ยาเสพติด อาวุธ ในพื้นที่ของ สภ.ดอนตาล ภ.จว.มุกดาหาร ว่าได้รับรายงานจาก สภ.ดอนตาล ภ.จว.มุกดาหาร ว่าในเบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2562 เวลาประมาณ 10.00 - 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งจุดตรวจบริเวณ ถนนมุกดาหาร - ดอนตาล หน้าตู้ยามนาคำน้อย ต.บ้านแก้ง อ.ดอนตาล จว.มุกดาหาร"

 

"จนเวลาประมาณ 11.40 น. ได้มีนายเจษฏาฯหรือพิศิษฐ์ศักดิ์ฯ(ผู้โพสเฟชบุ๊ค) ได้ขับรถยนต์กระบะมาตามถนนดังกล่าวเส้นทางจาก จว.มุกดาหาร มุ่งหน้า อ.ดอนตาล เมื่อมาถึงจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ ได้ขอทำการตรวจปัสสาวะนายเจษฏาฯ และนายเจษฎาฯได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจ ผลการตรวจเบื้องต้น ปรากฏว่า มีสีม่วงลักษณะจาง (ผลเป็นบวก) จนท.จึงได้สอบถาม แต่นายเจษฏาฯยืนยันว่าไม่ได้เสพสารเสพติด จนท.จึงขอตรวจซ้ำ โดยผลการตรวจมีลักษณะที่ขึ้นมาจางๆเหมือนครั้งแรก"

 

"ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้คำแนะนำนายเจษฎาฯ ว่าในคดีนี้นั้นจะเข้าข่ายในฐานความผิด เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฏหมาย และเป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน)โดยฝ่าฝืนกฏหมาย ซึ่งโดยปกติเมื่อถูกจับกุมตัวดำเนิน หากจะประกันตัวในชั้นสอบสวน จะมีอัตราเบื้องต้นเป็นจำนวนประมาณ 20,000 บาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์แห่งคดีและการพิจารณาของผู้มีอำนาจในการให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป"

 

 

"ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบผลการตรวจปัสสาวะครั้งที่ 2 ซึ่งปรากฎผลที่ยังไม่แน่ชัด(มีลักษณะจาง) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปล่อยตัวนายเจษฏาฯไป โดยขณะนี้ พ.ต.อ.อลงกรณ์ เสนีย์รณฤทธิ์ ผกก.สภ.ดอนตาล ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยให้รีบรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปผลให้ทราบโดยเร็ว เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ ตอบคำถามสังคมได้โดยหากผลการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ตั้งจุดตรวจมีความบกพร่องหรือกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการทั้งในทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดต่อไป"

"พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากพบว่าข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องมีความบกพร่องจริงก็จะดำเนินการในทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดต่อไป ซึ่งคงต้องรอผลจากคณะกรรมการสืบสวนสอบในการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเสียก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการมาโดยตลอด ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยว เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือนร้อนแก่พี่น้องประชาชน"

 

"โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความสุจริต เป็นธรรม ให้บริการประชาชนด้วยใจ เสมือนเป็นคนในครอบครัว นึกถึงความเดือดร้อน หรือปัญหาต่างๆที่ประชาชนมาขอความช่วยเหลือเป็นสำคัญ คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย โดยให้ผู้บังคับบัญชาสอดส่องดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดทั้งในเวลาราชการและนอกราชการ ตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 หากพบตำรวจนายใดมีพฤติกรรม เรียกรับผลประโยชน์ ประพฤติมิชอบ ทุจริตคอรัปชั่น จะดำเนินการตามกฏหมาย และระเบียบอย่างเด็ดขาด ไม่มีละเว้นและไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดีอยู่แล้ว"

ขอบคุณ ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.