- 18 มิ.ย. 2562
ล่าสุดศิริพร อำไพพงษ์ นักร้องหมอลำชื่อดัง ได้เล่าถึงเหตุการณ์ ที่ทำให้ตนเอง ตัดใจจากสามี และออกจากบ้าน
หลังจากที่นักร้องลูกทุ่งชื่อดังอย่าง "ศิริพร อำไพพงษ์" ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก บอกว่า พรนิต้าคลินิก #ปิดให้บริการถาวร ห้บแล้วนะคะ อย่าหลงไปทำ ทั้งคนที่อยากทำศัลยกรรม และคุณหมอนะคะ ทุกอย่างมีกฏหมาย หยุดเอาชื่อพี่นางไปแอบอ้างได้แล้วนะคะ #แชร์ช่วยพี่นางด้วยนะคะ
จนต่อมาได้มีเพจดังออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า เป็นเพราะลูกสาวบุญธรรม ที่ศิริพร หรือพี่นาง เคยชุบเลี้ยง ตีท้ายครัวบ้านตนเอง
ขณะที่ศิริพร อำไพพงษ์ เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานแล้ว เป็นปีแล้ว ที่เป็นข่าวเพราะเขามาโพสต์เอง นางไม่รู้ ตอนนี้อยู่บ้านที่อุดรฯ เห็นมานานแล้ว ก็ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่อยากยุ่ง พี่ออกจากบ้านมานานหลายเดือนแล้ว ส่วนกรณีที่เขาบอกว่าพี่ปิดคลินิกนั้น
คลินิกเป็นของพี่ซึ่งพี่ใช้เงินส่วนตัวเปิดเอง 10 ล้านบาท ไม่ได้หุ้นกับใคร เป็นเงินของพี่ล้วนๆ เพราะฉะนั้นถ้าพี่จะปิดก็เป็นสิทธิของพี่ และที่พี่ต้องปิดก็เพราะว่าไม่มีหมอที่มาดูคลินิกแล้ว พี่ตั้งใจขายคลินิกและบ้านเพื่อไปอยู่ที่ต่างประเทศ ช่วงแรกก็คงจะไปเที่ยวรอบโลกก่อน จากนั้นก็ไปอยู่ต่างประเทศราวๆ 5-6 เดือนแล้วก็จะบินมาเมืองไทย เราไม่มีลูก ไม่มีครอบครัว ไม่รู้จะใช้เงินไปทำอะไร
ขณะที่ฝ่ายชาย นายธนชาติ สุมโนมหาอุดม หรือ โก้ อายุ 52 ปี สามีของ “ศิริพร อำไพพงษ์” ได้ออกมาเปิดใจยืนยันว่า ไม่มีความสัมพันธ์เกินเลยกับลูกบุญธรรม เพราะเขาเป็นลูกสาวในบ้านมานับ 10 ปี ถือเป็นลูกสาวตน เขาเคารพตน กราบตน ไม่มีความสัมพันธ์ทางชู้สาวแน่นอน ส่วนเรื่องที่ศิริพรปิดคลินิกความงามนั้น ตนก็ตกใจ เพราะวันที่ศิริพรบอกว่าจะปิดคลินิก ตอนนั้นคลินิกก็ยังเปิดอยู่ คนในคลินิกดูข่าวก็ยังงง ตามมาด้วย น้องอร ลูกสาวบุญธรรม ที่อ้างไปถึงคนสนิทของแม่ ว่าทำให้แม่เปลี่ยนไป และมาใส่ร้ายว่าตนเองเล่นชู้กับพ่อบุญธรรม
อ่านข่าว : ขอพูดบ้าง สามี "ศิริพร" มาแล้ว เปิดปากชัดๆ ปมชู้สาวลูกบุญธรรม แฉผู้หญิงอีกคน ทำบ้านแตก
ก่อนหน้านี้ศิริพร ได้เปิดใจเล่าว่า เพราะเห็นอะไรบางอย่าง เลยทำให้ยอมออกมาจากบ้าน ที่อยู่กับสามี ออกมาแบบโง่ๆ ปล่อยว่างให้เรื่องมันผ่านไป จนตอนนี้จะครบ 1 ปีแล้ว ตนเองเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ถ้าไม่เห็นกับตา อดทนจนถึงที่สุดก่อนตัดสินใจออกจากบ้าน 1 ปี แถมใจดียกบ้าน รถเบนซ์และรถตู้ พร้อมเงินสดรวมกว่า 10 ล้านให้กับสามี เรื่องนี้ก็ไม่คิดโกรธลูกบุญธรรม เชื่อฟ้าลิขิตมาแล้ว แต่อยากย้อนถามว่า ลูกบุญธรรมอกมาโพสต์ด่าทำไม ไหนบอกว่ารักแม่นับถือแม่ นี่เรียกว่าด่าแม่
ล่าสุดศิริพร อำไพพงษ์ นักร้องหมอลำชื่อดัง ได้เล่าถึงเหตุการณ์ ที่ทำให้ตนเอง ตัดใจจากสามี และออกจากบ้าน รวมไปถึงจับได้ว่าสามีตนเอง มีอะไรเกินเลยกับลูกสาวบุญธรรม ระบุว่า "ตนเองและสามี ลูกเลี้ยง มีปัญหากันจริง เรื่องเริ่มจากที่ทะเลาะกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ตอนนั้นตนเองเตือนสามีที่สามีไปลูบหัว เช็ดปากให้ลูกเลี้ยง ว่าอย่าทำต่อหน้าคนอื่นเพราะลูกเลี้ยงโตแล้ว แต่สามีกลับสวนกลับว่า คิดอะไรของมึง กูรักมันเหมือนลูก ทำให้มีเรื่องทะเลาะกัน จนหลังจากนั้นก็มีเรื่องมีการปล่อยภาพที่สามีและลูกเลี้ยงนอนหนุนไหล่กันโดยตรงนั้นไม่มีตนอยู่ ตนก็อยากถามเหมือนกันว่ามันคืออะไร"
หลังจากที่ออกจากบ้านมา สามีก็ไม่เคยโทรตาม แต่กลับบอกว่าตนไม่ดูแลเขา ทำไมไม่บอกเหตุผลจริงๆ ไปว่าทำไมตนถึงต้องออกจากบ้านมา ตนยืนยันว่าตนเองไม่ผิด เพราะก็ยังดูแลเขาทุกอย่าง เพราะถ้าจะบอกว่าตนไม่ดูแลเขาจริงๆ แล้วเงินค่ารักษาตัวมาจากไหน บ้านและรถอีก มาจากไหน
พอมีปัญหากัน สามีอยากได้บ้าน แต่ตอนนั้นยังไม่ได้โอน เขาก็ขู่ว่าห้ามใครยุ่ง ไม่เช่นนั้นจะให้ทนายจัดการ ตอนที่มีปัญหา ตนเองอึดอัดมากที่ต้องคอยซื้อคำพูดของสามี เพราะเวลาทะเลาะกันสามีชอบพูดหยาบคาย ตนต้องใช้เงินซื้อให้หยุดพูดคำละ 500,000 บาท เพราะตนไม่ชอบ บางครั้งทะเลาะก็ถูกบีบคอ และถึงขั้นง้างมือจะตบด้วย ส่วนผู้หญิงที่ชื่อเล็ก ที่อีกฝ่ายอ้างนั้น ตนเองยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง ตนเองอายุ 50 แล้ว คิดเองได้ว่าใครจะมาหลอกหรือไม่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อไม่รักแล้วจะอยู่ทำไม ขอบคุณอีกครั้งที่ทำให้มีวันนี้ ถามว่าโกรธไหม ไม่โกรธ แต่เจ็บนี้อีกนาน
อย่างไรก็ตามทางด้านนายธนชาติ สุมโนมหาอุดม หรือ โก้ อายุ 57 ปี อดีตสามีของศิริพร ได้เปิดเผยกับสื่อว่า ตนเองยืนยันว่าไม่มีอะไรกับลูกเลี้ยง ซึ่งตอนนี้ถ้าตนพูดไปใครจะเชื่อ เพราะตนเป็นแค่คนธรรมดา แต่อีกฝ่ายเป็นนักร้องที่มีคนรักมากมาย หากเชื่อว่าตนมีอะไรกับลูกเลี้ยงขอให้เอาหลักฐานมายืนยัน ซึ่งเขาคิดกับตนแค่พ่อ ตอนตนป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายก็ได้ลูกคอยดูแล เป็นห่วงพี่นาง เพราะเขาเป็นคนซื่อ อยู่ด้วยกันมา 19 ปี ไม่เคยมีปัญหากันจนมีคนชื่อเล็กเข้ามา ศิริพรกลับจะขายทุกอย่างเพื่อไปอยู่ต่างประเทศ
ตนเองอยากให้คนชื่อเล็กออกมาชี้แจง ว่าทำอะไรอยู่ มีการจ้างคนให้กระจายข่าวหรือไม่ ว่าตนเองมีอะไรกับลูก ส่วนเรื่องทรัพย์สินนั้น ตนร่วมสร้างกันมากับศิริพร ตนเองก็ควรจะได้ น้องอรเข้ามา พี่นางเป็นคนรับเข้ามา แล้วเขาก็นอนอยู่กับแม่ ตัวพ่อก็จะแยกห้องนอน จะนอนห้องพระ อรบางวันเขาก็จะนอนกับแม่ บางวันก็นอนกันหลาน เขาสนิทกับแม่มากกว่าพ่อด้วย
นอกจากนี้ยังภาพถ่ายมากมายที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ เป็นภาพที่น้องอร และสามีของศิริพร มีการถ่ายรูปสนิทสนมกันมาก บางรูปก็จับไหล่ลูกสาวตลอด รวมไปถึงภาพขณะที่ฝ่ายชายปลงผมบวช ก็ยังมีการจับมือลูกสาวบุญธรรมด้วย ทำให้ชาวโซเชียลต่างข้องใจว่า แบบนี้จะเรียกว่ารักเหมือนลูกได้จริงๆหรือ