- 24 มิ.ย. 2562
เนื่องในวันที่ ๒๔ มิถุนายน เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลดาวัลย์ กรมหมื่นภูมินทรภักดีและเจ้าจอมมารดาจีน ทรงเข้ารับราชการฝ่ายในเป็นพระอรรคชายาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมกับพระเชษฐภคินีร่วมพระบิดามารดาคือ พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค กรมขุนอรรควรราชกัลยา และพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์
เนื่องในวันที่ ๒๔ มิถุนายน เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลดาวัลย์ กรมหมื่นภูมินทรภักดีและเจ้าจอมมารดาจีน ทรงเข้ารับราชการฝ่ายในเป็นพระอรรคชายาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมกับพระเชษฐภคินีร่วมพระบิดามารดาคือ พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค กรมขุนอรรควรราชกัลยา และพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์
พระนางทรงรับราชการฝ่ายใน เป็นพระภรรยาเจ้า ทรงอิสริยยศเป็นพระมเหสี ตำแหน่งพระอรรคชายาเธอ มีหน้าที่ควบคุมดูแลห้องพระเครื่องต้น ของเสวยคาวหวาน พระกระยาหารที่ทรงทำถวาย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น พระนางทรงทำสนองพระยุคลบาทด้วยความจงรักภักดี เช่นเดียวกับที่ทรงทำถวายพระโอรสและพระธิดา สำหรับพระองค์เองแล้วอย่างไรก็ทนได้ เสวยได้ เล่ากันว่า เมื่อคราวหนึ่งทรงซื้อเงาะ ๑๐๐ ผล ราคา ๑๐๐ บาท เพื่อที่จะคว้านเงาะตั้งเครื่องเสวยให้สมเด็จพระธิดาทุกพระองค์ ส่วนเครื่องเสวยของพระองค์เองไม่โปรดให้มีเงาะผลละ ๑ บาท เพราะแพงเกินไป ทรงรับสั่งว่า "ขอให้ลูกให้ผัวสุขสบายก็เป็นที่พอใจแล้ว "
พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา มีพระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าสาย ลดาวัลย์ ประสูติเมื่อวันที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๐๕ เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลดาวัลย์ กรมหมื่นภูมินทรภักดี ประสูติแต่หม่อมจีน ลดาวัลย์ ณ อยุธยา (ต่อมาหม่อมจีนได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น เจ้าจอมมารดาจีน) มีพระนามที่เรียกกันในครอบครัวว่า "เป๋า"
หม่อมเจ้าสาย ลดาวัลย์ เมื่อประสูติทรงประทับอยู่ที่วังของพระบิดา โดยมีสมเด็จกรมพระยาสุดารัตนราชประยูร ทรงเป็นผู้อภิบาล มีพระเชษฐภคินีที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจีนสองพระองค์ และได้รับราชการฝ่ายในเป็นพระอรรคชายาเธอใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมกันทั้งสามพระองค์ คือ
หม่อมเจ้าบัว ลดาวัลย์ เมื่อเป็นพระมเหสี มีพระอิสริยยศเป็น พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค ต่อมาได้ทรงกรมเป็น กรมขุนอรรควรราชกัลยา หม่อมเจ้าปิ๋ว ลดาวัลย์ เมื่อเป็นพระมเหสี มีพระอิสริยยศเป็น พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๐
พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ทรงรับราชการฝ่ายในเป็นพระภรรยาเจ้าทรงอิสริยยศเป็นพระมเหสี ตำแหน่ง พระอรรคชายาเธอ มีหน้าที่ควบคุมดูแลห้องพระเครื่องต้น ของเสวยคาวหวาน อีกทั้งทรงเป็นผู้ที่ตั้งโรงเลี้ยงเด็กขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย บริเวณตำบลสวนมะลิ ถนนบำรุงเมือง อุทิศพระกุศลประทานพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ที่สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทรงรับเด็กกำพร้าและเด็กยากจนมาเลี้ยงดู สอนให้เล่าเรียน และฝึกวิชาชีพทั้งหญิงและชาย ทรงเป็นองค์อุปนายิกาสภาอุณาโลมแดง (สภากาชาดไทย) ในสมัยหนึ่งอีกด้วย
ในบั้นปลายแห่งพระชนม์ชีพของพระนาง ในปี พ.ศ. ๒๔๖๘ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงตระหนักในพระราชหฤทัยว่า พระนางทรงมีความจงรักภักดีต่อเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระชนกนาถรัชกาลที่ ๕ เป็นที่สุด จึงทรงพระราชทานสถาปนาพระอิสริยยศให้สูงขึ้นเป็น "กรมพระ " และถวายสร้อยพระนามว่า " ปิยมหาราชปดิวรัดา " อันมีความหมายว่า พระภรรยาเจ้าที่ซื่อสัตย์ต่อพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราชยิ่งนัก จึงมีพระนามเติมว่า " พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมขุนสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา "
พระนางทรงประชวรด้วยพระโรคเนื้อร้ายในช่องพระโอษฐ์ สิ้นพระชนม์ ณ ตำหนักในสวนสุนันทา พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๒ โดยได้รับพระราชทานโกศกุดั่นน้อยทรงพระศพและได้รับพระราชทานพระโกศทองใหญ่ในวันออกพระเมรุพระราชทานเพลิงพระศพ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเลื่อนพระเกียรติยศพระศพเป็นกรณีพิเศษให้สมฐานะที่ทรงเป็น...
"ปิยมหาราชปดิวรัดา"
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/.../พระวิมาดาเธอ_พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์_กรมพระสุทธาสินีนาฏ_ปิยมหาราชปดิวรัดา