- 27 มิ.ย. 2562
กลายเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีเฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาเผยแพร่เรื่องราวที่มีเด็กคนหนึ่งต้องเดินเท้าไปโรงเรียน ซึ่งเมื่อคุณครูมาได้เห็นบอกเลยว่าลำบากมากจริงๆ ต้องต้องข้ามห้วย แล้วมาใส่รองเท้านักเรียนที่บ้านป้านงและใช้เวลาในการเดินทางนานเป็นชั่วโมงกว่าๆถึงจะถึงโรงเรียน
กลายเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีเฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาเผยแพร่เรื่องราวที่มีเด็กคนหนึ่งต้องเดินเท้าไปโรงเรียน ซึ่งเมื่อคุณครูมาได้เห็นบอกเลยว่าลำบากมากจริงๆ ต้องต้องข้ามห้วย แล้วมาใส่รองเท้านักเรียนที่บ้านป้านงและใช้เวลาในการเดินทางนานเป็นชั่วโมงกว่าๆถึงจะถึงโรงเรียน
โดยเฟซบุ๊ก ชื่อ Nathamon Chomjan ได้ออกมาโพสต์บอกเล่าเรื่องราวดังกล่าว ระบุข้อความว่า "บอกได้คำเดียวว่าครูนับถือหัวใจนายมาก #ทนงศักดิ์#อยากให้ทุกคนอ่านให้จบอย่างน้อยเพื่อเป็นแรงใจในการสู้ชีวิต ในขณะที่คนอื่นมีเรื่องราวสารพัดที่จะไม่มาโรงเรียน แต่ขณะเดียวกันทนงศักดิ์ที่บ้านอยู่ไกลมากและเดินทางลำบากมากกลับไม่เคยขาดเรียนและไม่เคยมาโรงเรียนสาย นงต้องเดินเท้าออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาขึ้นรถที่ปากทาง"
"ไม่ได้เดินทางตามถนนปกติแต่ในช่วงฤดูฝนต้องข้ามห้วยแล้วมาใส่รองเท้าถุงเท้าที่บ้านป้า และนงไม่เคยใส่รองเท้าแตะไปโรงเรียนเลย นงต้องใช้เวลาในการเดินทางบนรถรับส่งอีกชั่วโมงกว่าจะถึงโรงเรียน นงทำให้ครูรู้สึกว่าอุปสรรคที่ครูเคยเจอมาทั้งหมดมันเล็กน้อยไปเลย ครูขอบันทึกและแชร์เรื่องราวของนงไว้เป็นกำลังใจให้ตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่ครูเหนื่อยหรือท้อครูจะกลับมาเปิดดูโพสต์นี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวครูเอง#นับถือหัวใจ"
อ่านข่าว : หนูน้อยออกเดินเท้ามา รร. ตั้งแต่ตี 5 ในเส้นทางลำบาก
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กชื่อ โจโฉ ได้ออกมาเผยแพร่คลิปที่คุณครูของหนูน้อยได้ออกมา เล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้ทำการโพสต์ลงในโลกโซเชียลว่า "เนื่องจากทางโรงเรียนไทรโยคน้อยวิทยา ต้องเดินทางไปเยี่ยมนักเรียนที่ห่างไกล ตามโครงการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เบื้องต้นพอที่จะทราบว่าเส้นทางเดินทางไปบ้านของ นายทนงศักดิ์ ค่อนข้างลำบาก แต่ไม่คิดว่าจะยากลำบากถึงขนาดนี้ เมื่อเจอตอนแรกถึงกับจุกพูดไม่ออก แต่สิ่งหนึ่งของ นายทนงศักดิ์ วัย 16 ปี คือเขาไม่เคยย่อท้อกับอุปสรรคใดๆ ไม่เคยคิดท้อแท้ในโชคชะตาของตัวเอง มาโรงเรียนก็มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มตลอด แม้จะต้องเดินทางในระยะทางที่ไกลกว่า 30 กิโลเมตร"
"การเดินทางบางช่วงเป็นลูกรัง เป็นหลุมเป็นบ่อและบางช่วงเป็นภูเขาสูง บางช่วงเดินผ่านไร่ อีกทั้งยังต้องเดินข้ามลำห้วย ประกอบกับในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนจึงทำให้ระดับน้ำสูงและไหลเชี่ยว และขึ้นโดยสารมากับรถรับส่งนักเรียน ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง เป็นความยากลำบากในการเดินทางเป็นอย่างมาก และไม่ได้คิดว่าเรื่องราวที่โพสต์จะเป็นกระแสขนาดนี้ หวังเพียงแค่เป็นการเตือนใจให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนหรือใกล้เคียง ที่ตนเคยสอน ให้ดู นายทนงศักดิ์ เป็นตัวอย่างเท่านั้น ว่าเพื่อนต้องเดินทางไกลและลำบากขนาดไหน แต่ก็ไปเรียนตลอด ไม่เคยขาดเรียน เพื่อให้คนที่บ้านอยู่ใกล้หรือเดินทางสะดวกกว่าได้เก็บไปคิด โดยเอา นายทนงศักดิ์ เป็นตัวอย่าง ในความมีมานะ อดทน และใฝ่ดี"
"โดยบ้านของ นายทนงศักดิ์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลกระแจะ อำเภอไทรโยค ปลูกในลักษณะกระต๊อบ ไม่มีไฟฟ้าใช้และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ช่วงหน้าฝนก็ไม่สามารถกันฝนสาดได้ โดยเบื้องต้นในวันเสาร์ที่ 29 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ทางโรงเรียนและผู้นำชุมชนรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นัดรวมตัวกับชาวบ้าน เพื่อจะสร้างสะพานข้ามลำห้วยให้สามารถได้เดินข้ามไป-มาได้สะดวกยิ่งขึ้น"
ส่วนทางด้าน นายทนงศักดิ์ ได้กล่าวว่า "ต้องตื่นแต่ตั้งแต่ตี 5 เพื่อเตรียมตัว แล้วเดินข้ามลำห้วยไปยังบ้านของป้า เพื่อไปขึ้นรถ ทางที่เดินประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ ส่วนน้องสาวไปเรียนที่โรงเรียน ตชด.บ้านต้นมะม่วง ซึ่งปีหน้าก็จะไปเรียนที่เดียวกัน ทั้งนี้บ้านที่ตนอาศัยอยู่ๆ รวมกัน 4 คน คือ แม่ พ่อ น้อง และตนเอง ซึ่งบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องจุดเทียนอ่านหนังสือ ลำบากมาก แต่ก็ไม่เคยย่อท้อในโชคชะตา ทั้งนี้โตขึ้น ใฝ่ฝันอยากเป็นทหารเพื่อมารับใช้ชาติและฝากขอให้เพื่อนๆ ที่มีโอกาสดีกว่าได้ไปโรงเรียนอย่าขาดเรียน ตนเองแม้จะยากลำบากแต่ไม่เคยย่อท้อกับอุปสรรคใดๆ มาเรียนตลอด ขาดเรียนบ้างในเวลาจำเป็นจริงๆ ไม่จำเป็น จะไม่ขาดเรียน"
นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ นางสาวณฐมน ชมจันทร์ (ครูสาว) พร้อมทีมงานจะพานายทนงศักดิ์ ไปเปิดบัญชีธนาคาร เนื่องจากมีประชาชนผู้มีจิตศรัทธาต้องการที่จะบริจาคเงินให้ช่วยเหลือน้องเป็นจำนวนมาก
ขอบคุณ โจโฉ