- 04 ก.ค. 2562
หลายคนคงทราบดีว่า "แมลงสาบ" อยู่คู่กับโลกใบนี้มานานแสนนาน และถือว่าเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่เชื่อว่า จะอยู่คู่โลกใบนี้เป็นสัตว์ชนิดสุดท้ายเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากแมลงสาบถือว่าเป็นสัตว์ที่ปรับตัวได้ไว และเร็ว ทนต่อสภาพอากาศได้เกือบทุกรูปแบบ โลกและสภาพแวดล้อม ไม่สามารถทำอะไรเจ้าสัตว์ชนิดนี้ได้เลย ยิ่งมีงานวิจัยฉบับใหม่หลุดออกมาแล้วว่า แมลงสาบสายพันธุ์หนึ่ง กำลังวิวัฒนาการณ์ ต่อต้านสารเคมีต่างๆได้แล้ว ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า แมลงสาบ จะอยู่แต่ไปตราบนานเท่านานบนโลกใบนี้
หลายคนคงทราบดีว่า "แมลงสาบ" อยู่คู่กับโลกใบนี้มานานแสนนาน และถือว่าเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่เชื่อว่า จะอยู่คู่โลกใบนี้เป็นสัตว์ชนิดสุดท้ายเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากแมลงสาบถือว่าเป็นสัตว์ที่ปรับตัวได้ไว และเร็ว ทนต่อสภาพอากาศได้เกือบทุกรูปแบบ โลกและสภาพแวดล้อม ไม่สามารถทำอะไรเจ้าสัตว์ชนิดนี้ได้เลย ยิ่งมีงานวิจัยฉบับใหม่หลุดออกมาแล้วว่า แมลงสาบสายพันธุ์หนึ่ง กำลังวิวัฒนาการณ์ ต่อต้านสารเคมีต่างๆได้แล้ว ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า แมลงสาบ จะอยู่แต่ไปตราบนานเท่านานบนโลกใบนี้
โดยทางด้านของ นักวิจัยจาก Purdue University ได้ทำการทดลอง เกี่ยวกับความทนทานของแมลงสาบเยอรมัน ที่พบได้มากแถว สหรัฐฯ ยุโรป และออสเตรเลีย โดยใช้เวลาทั้งหมดกว่า 6 เดือนที่ทุ่มเทในการศึกษาเรื่องนี้ ซึ่งแมลงสาบสายพันธุ์นี้ถือว่าน่าสนใจมากในการเอาตัวรอด เพราะ มันทนต่อสารเคมี ยาฆ่าแมลงต่างๆ ที่มันเคยเจอมาแล้ว โดยส่งต่อภูมิต้านทานเหล่านั้น ให้กับลูกหลานได้ เพื่อเกิดการป้องกันสารเคมีที่เคยพบเจอมา ได้อย่างรวดเร็วมาก
โดยนักวิจัยได้แบ่งการทดลองแมลงสาบออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ
1. ให้แมลงสาบหมุนเวียนกันเพื่อรับยาฆ่าแมลง 3 ชนิด โดยใช้ชนิดละ 1 เดือน เป็นเวลา 2 รอบ
2. ให้แมลงสาบรับยาฆ่าแมลงแบบผสม เป็นเวลา 6 เดือน
3. ให้แมลงสาบรับยาฆ่าแมลงชนิดหนึ่งเฉพาะ ตลอดระยะเวลา 6 เดือน
โดย ทีมนักวิจัย ได้มอนิเตอร์ผลที่เกิดขึ้นตลอด โดยมองภาพรวมผ่านประชากรแมลงสาบที่ได้แบ่งเป็นกลุ่มๆ ทำให้ได้เห็นถึงความน่าตกใจ คือ กลุ่มที่ได้รับยาฆ่าแมลงมากกว่า 1 ชนิด จะมีตายไปบ้าง แต่พวกที่เหลือรอดชีวิตอยู่นั้น จะส่งคุณสมบัติการต่อต้านยาฆ่าแมลง ให้กับลูกหลานต่อในอนาคตได้อย่างรวดเร็วแบบรุ่นต่อรุ่น
ทำให้นักวิจัย ตีความได้ว่า แมลงสาบรุ่นใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาจะได้รับคุณสมบัติการต่อต้านยาฆ่าแมลงที่รุ่นก่อนพวกมันเคยเจอมาก่อน และส่งผ่านกันอย่างรวดเร็ว
โดยนักวิจัยหลายคนยังไม่ทราบว่า "สิ่งเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นได้เร็วขนาดนี้ได้อย่างไร"