ป้าแดง เปิดใจหลังนำดอกไม้ทูลเกล้าฯถวาย "พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ" ครั้งหนึ่งในชีวิต เคยเข้าเฝ้าพ่อหลวงร.9

จากกรณีที่โลกออนไลน์แห่แชร์มากที่สุดอีกหนึ่งภาพ เมื่อพบว่าช่วงที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ได้มีหญิงสูงวัยคนหนึ่งนำแจกันใส่ดอกไม้มาเปลี่ยนให้เกือบทุกวัน สร้างความประทับใจแก่ชาวเน็ตและผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

โดยเพจเฟซบุ๊กชื่อ หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ ได้โพสต์ภาพ พร้อมลงรายละเอียดไว้ว่า "ใครที่ได้ติดตามช่วงข่าวในพระราชสำนักที่รายงานพระอาการประชวรของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ที่ประทับอยู่ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จะต้องเห็นภาพสุภาพสตรีสูงวัยท่านหนึ่ง แต่งกายด้วยชุดสุภาพเรียบร้อย นำแจกันใส่ดอกกล้วยไม้มาถวายเกือบทุกวัน และกิริยามารยาทท่านดูงดงามมากเลยค่ะ 

 

 

อ่านข่าว : สุภาพสตรีสูงวัย เดินทางมารพ.ทุกวัน  นำดอกกล้วยไม้จัดถวายพระพร "พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ" เบื้องหลังชีวิตทำโซเชียลตื้นตันหัวใจที่สุด

 

 

ล่าสุด ป้าแดง ได้เปิดใจทั้งน้ำตาด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมทั้งบอกว่า “การนำแจกันใส่ดอกไม้ไปทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายนั้น เป็นสิ่งเล็กน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อพสกนิกรไทย”

 

 

 

นอกจากนี้  ป้าแดง ยังเล่าต่ออีกว่า ในปีพุทธศักราช 2518 เป็นวันที่อยู่ในความทรงจำมาโดยตลอดจวบจนทุกวันนี้ ครั้งนั้นได้มีโอกาสไปเฝ้ารับเสด็จ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ในพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ที่มีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรนั้นกระทำกัน 3 ครั้งในแต่ละปี

 

 

 

 

ในสมัยก่อนพระมหากษัตริย์ทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ในการพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรพระราชทานแก่เจ้านายและขุนนางที่เฝ้าฯ อยู่ภายในพระอุโบสถเท่านั้น แต่ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระมหากรุณาเสด็จฯ มาพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์แก่ประชาชนที่มาคอยเฝ้าฯรับเสด็จรอบๆ พระอุโบสถด้วย โดยพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ในแต่ละปีมีกำหนดเวลา ดังนี้

 

– วันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 เสด็จฯ ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวเป็นฤดูร้อน

– วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เสด็จฯ ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูร้อนเป็นฤดูฝน

– วันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 เสด็จฯ ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนเป็นฤดูหนาว

 

 

เหตุการณ์ในครั้งนั้นจึงทำให้ป้าแดงได้มีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างใกล้ชิด

 

ทั้งนี้ ป้าแดง เล่าด้วยตื้นตันว่า ได้เห็นรอยแย้มพระสรวลของล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ และพระสุรเสียงที่ทรงตรัสขอบใจพสกนิกร ที่เปล่งเสียงทรงพระเจริญ ตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน ที่ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจเสมอมา ไม่เพียงเท่านั้นป้าแดงยังบอกอีกด้วยว่าในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระประชวร ป้าแดงจึงรวบรวมความกล้าเปล่งเสียงต่อหน้าพระพักตร์พระองค์ท่านว่า “อย่าทรงพระประชวรนะเพคะ”

 

 

 

โดยสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงได้ยินจึงตรัสตอบป้าแดงกลับมาว่า “หายแล้ว ไม่ต้องห่วง” พระสุรเสียงของพระองค์ในครั้งนั้นจึงเป็นดังน้ำทิพย์ที่ทรงพระราชทานให้ป้าแดง ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และจะขอจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิต