- 08 ก.ค. 2562
กรณี เจ้าของร้านอาหารอินเดียในพัทยา จังหวัดชลบุรี เจอลูกค้าหัวหมอ หวังกินฟรี
กรณีเรื่องราวที่เกิดเป็นกระเเสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ทางผู้ใช้เฟซบุ๊ค sahib khurana ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารอินเดียในพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้โพสต์ข้อความเตือนผู้ประกอบการ ให้ระวังมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในรูปแบบของลูกค้า โดยมีการดึงขนของตัวเองลงไปในจาน แล้วทำทีต่อว่าทางร้าน เพื่อจะต่อรองราคาอาหารที่กินไป เเละอาจจะถึงขั้นไม่ต้องจ่ายเงินค่าอาหาร (คลิป)
จากในคลิป นาที ที่1.00 เป็นต้นไป ลูกค้าแอบดึงขนใส่ในอาหาร เพื่อเป็นการต่อรอง ราคา ร้านอาหารอินเดีย ที่ใน พัทยาโซเชียลแชร์สนั่น! เจ้าของร้านอาหารนำภาพวงจรปิดเหตุการณ์ลูกค้านำขนลักษณะคล้ายเส้นผมใส่ภายในอาหาร ทำทีต่อว่าทางร้าน หวังต่อรองราคา
ทาง sahib khurana ได้โพสต์ข้อความเตือนผู้ประกอบการร้านอาหารในกลุ่มเฟซบุ๊คชื่อ Bangkok foodies official ที่มีสมาชิกร้านอาหาร กว่า19,710 คน โดยมีเนื้อหาในข้อความว่า I own small indian restaurant in pattaya Karma Indian Restaurant . Please watch what these crooks are upto. Mixing hair in food and posting on trip advisor. Please fellow owners beware
โดย แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า "ฉันเป็นเจ้าของร้านอาหารอินเดียเล็กๆ ในพัทยา และมีลูกค้าเข้ามากินอาหาร โปรดดูว่าเป็นมิจฉาชีพเหล่านี้หรือป่าว เพราะพวกเขากินอาหารจนเสร็จแล้ว แอบหยิบเส้นขนของตนลักษณะคล้ายเส้นผมลงไปในอาหาร แล้วทำทีต่อว่าทางร้าน เพื่อจะต่อรองราคาอาหารที่กินไป" พร้อมแชร์ภาพจากกล้องวงจรปิดของทางร้านที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ ซึ่งลูกค้ารายดังกล่าวได้เริ่มทำทีเป็นเอามือลงไปดึงขนที่ขา ในนาทีที่ 1.00 เป็นต้นไป
และทันทีที่ข้อความที่ถูกโพสต์ลงไปนั้นทำให้สมาชิกในกลุ่มเข้ามาต่อว่าและแชร์ข้อความออกไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางร้านได้ฝากเตือนผู้ประกอบการและร้านอาหารในเขตเมืองพัทยาให้สังเกตุกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ให้ดี หากพบเห็นบุคคลลักษณะตรงกับในรูปและอ้างว่าอาหารของท่านมีเส้นขนในอาหารให้แจ้งความดำเนินคดีตามกฏหมายได้เลย เพราะอาจทำให้ทางร้านของท่านเสียชื่อเสียง และยังทำให้เสียชื่อเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาอีกด้วย
ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวนั้น ทางนางสาวศิยานิล ทองอินทร์ อายุ 48 ปี ผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นมาบ้าง มองว่าเป็นสถานการณ์ที่ผู้ประกอบการร้านอาหารทุกคนไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งร้านตนก็เคยเจอ แต่ลูกค้าไม่ได้ฟ้องร้องจนเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากตนก็ยอมรับผิดชอบ เปลี่ยนอาหารให้ หรือให้ส่วนลดตามกรณี เพราะตนไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่แปลกปลอมลงมาในอาหารเป็นของใคร เป็นของลูกค้าเอง หรือจากทาง
แต่กรณีที่เกิดขึ้นภายในร้านอาหารอินเดีย ตนมองว่าเขามีสิทธิ์ที่จะไม่ยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้ เพราะมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด
ทั้งนี้ ทางร้านตนมีมาตรการการป้องกัน ให้พนักงานสวมถุงมือ หมวก ขณะทำอาหาร อย่างไรก็ตาม มองว่าการที่ร้านอาหารทุกร้าน หันมาสวมถุงมือ ใส่หมวก ก็จะสามารถช่วยลดสิ่งแปลกปลอมลงไปในอาหารได้ และอยากให้ผู้บริโภคทุกคนเห็นใจผู้ประกอบอย่างบ้าง ยอมรับว่า วันหนึ่งบ้างครั้งก็หลายโต๊ะ ซึ่งทางร้านก็ยอมเปลี่ยนให้ทุกโต๊ะ เพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้
ขอบคุณ
ทุบโต๊ะข่าว AmarinTV34