- 09 ก.ค. 2562
"จ่านิว" ของขึ้น โต้เดือด "บิ๊กป้อม" หลังลั่นเงื่อนไขคุ้มครองพยาน
เมื่อกลางดึกของวันที่ 8 ก.ค. นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักกิจกรรมทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยข้อความแรกมีเนื้อหาว่า... "วันนี้ขอแถลงเบื้องต้องใน twitter เบื้องต้น เดี๋ยวช่วงก่อนดึกจะแถลงเต็มๆ อีกทีครับ" ซึ่งเป็นข้อความกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงตนในเรื่องของการคุ้มครองพยาน โดยให้ข่าวตรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เงื่อนไขของการคุ้มครองพยาน คือการห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : บิ๊กป้อมเผยคดีจ่านิว ตำรวจตัดประเด็นชู้สาวออก
ถัดมาอีก 2 ชั่วโมงก็มีข้อความเขียนถึงรายละเอียดเพิ่มเติมตามมา โดยข้อความมีเนื้อหาว่า... "ขออธิบายให้ชัด สืบเนื่องจากกรณีที่ ประวิตร วงษ์สุวรรณ (หรือป้อม) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้พูดถึงกรณีของผม ในเรื่องการคุ้มครองพยาน โดยให้ข่าวตรงกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เงื่อนไขการคุ้มครองพยานของผมนั้น คือการต้องห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก
ทีแรก ผมชักไม่แน่ใจเงื่อนไขนี้สักเท่าไหร่นัก ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาบอก เพราะคิดว่าตัวเองเนี่ยหูแว่วไปเอง เลยคิดในแง่ดีก่อนว่าอาจจะฟังแล้วไม่ได้ศัพท์ แต่พอป้อม “ยืนยัน” ออกมาแบบนั้น ผมก็คงจะต้องสื่อสารอะไรสักหน่อยบ้าง มันแน่นอนอยู่แล้วครับ ที่ช่วงนี้ ผมคงต้องพักการเคลื่อนไหวทางการเมืองไปสักพักเป็นปริยายอยู่แล้ว เนื่องจากปัญหาสุขภาพ ที่โดนพวกร่างมนุษย์ แต่จิตใจอำมหิตที่ไหนก็ไม่รู้ มาดักรุมทำร้ายร่างกายถึงสองครั้งสองครา ซึ่งตอนนี้ก็ยังจับตัวมาดำเนินคดีไม่ได้เสียที และเดิมทีที่ตั้งใจ คือการเตรียมตัวไปเรียนต่อที่ต่างประเทศของผมนั่นเอง จึงทำให้ผมต้อง “เว้นวรรค” สักพักใหญ่
แต่หากการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของผมนั้น มันคือสิทธิเสรีภาพพื้นฐาน ที่มีอยู่ในตัวของทุกๆ คนในประเทศนี้ ที่ไม่ว่าใคร จะมาพรากจากไปไม่ได้ มันเป็นสิทธิ์ ที่ไม่ควรให้ใครมาหยิบไปเป็นเงื่อนไขที่เอามาเที่ยวใช้ “แลก” เพื่อเป็น “ค่าคุ้มครอง” ในการรักษาความปลอดภัยใดๆลำพังแค่ผมบาดเจ็บทางร่างกายอย่างหนัก จากการถูกทำร้ายร่างกาย เพียงเพราะเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างสันติมาโดยตลอดหลายปี นอนโรงพยาบเป็นสิบวัน เสียการดำเนินชีวิตปกติ ที่จะไปไหนแบบอิสระ ไร้ความระแวง มันก็มากเกินพอที่ผมจะต้องจำใจเสียแล้ว
และทำไมผมต้องยอม “เสียจิตวิญญาณเสรี” และค่าไถ่เพื่อให้ตัวเองอยู่อย่างปลอดภัย ด้วยการ “เลิกเห็นต่าง” จากผู้มีอำนาจอีกเหรอ?
สืบเนื่องจากกรณีเช่นเดียวกัน ที่วันนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งใน-นอกเครื่องแบบ ทั้งทหารและตำรวจ ไปหานักกิจกรรม อาจารย์มหาวิทยาลัย นักศึกษา และอดีตนักกิจกรรมที่เลิกเคลื่อนไหว หลายสิบคน ถึงประตูบ้าน โดยอ้างว่าจะไปเพื่อดูแลความปลอดภัย แต่จริงๆ คือไปถามเขาว่าจะทำกิจกรรมเกี่ยวกับผม หรือการเมือง หรือเปล่า? บางคนถึงขนาดถูกขอให้หยุด ซึ่งมันเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุที่กระทำต่อประชาชน ขอส่งกำลังใจทุกท่านและยืนหยัดอย่างหนักแน่นไปด้วยกันครับ
ผมอยากสื่อสารว่า นี่ไม่ใช่การดูแลรักษาความปลอดภัย อย่าเอามาอ้าง นี่มันคือการ “คุกคามสิทธิเสรีภาพ” ของประชาชน ที่ผ่านมา 5 ปี ของ คสช.ยังไม่พออีกหรือ นี่จะตั้งรัฐบาลใหม่ พยายามจะฟอกขาวว่าตัวเองมาจากการเลือกตั้ง ใสสะอาด แต่พฤติกรรมก็ยังละทิ้ง “นิสัยเผด็จการ” กันยังไม่ได้ นี่เหรอ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ทำไมบรรยากาศมันช่างไม่มีความแตกต่างจากรัฐบาลที่แล้ว ที่ยึดอำนาจ ด้วยการทำรัฐประหาร และปกครองกันด้วยระบอบเผด็จการ ซะเหลือเกิน?"
**เช่นเคย ผมพูดให้คนอื่นพิมพ์ให้ จะได้เลิกถาม ว่าทำไมตาไม่ดี แล้วไอ้จ่านิว ยังพิมพ์ยาวๆ ได้ถึงขนาดนี้**