กองทัพภาคที่ 3 ปลดทหารนายสิบยิงฆ่าแมวดาวพ้นราชการ จับขังรอลงโทษ ครอบครัวรับเคราะห์ด้วย

จากกรณีเพจwatchdog thailand แจ้งขอให้หน่วยพญาเสือเข้าตรวจสอบภาพถ่ายการล่าแมวดาว บริเวณค่ายทหาร กองพลทหารราบที่7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 

1.สถานที่เกิดเหตุ โรงเลี้ยงไก่ บริเวณศูนย์เรียนรู้ฯ ค่ายกองพลทหารราบที่7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีพื้นที่ติดต่อกับป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
2.จากการตรวจสอบบุคคลในภาพถ่ายตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียล คือ ส.อ.เจริญศักดิ์ ผ่องศรีสุข ทหารสังกัดค่ายกองพลทหารราบที่7 
3.ส.อ.เจริญศักดิ์ ผ่องศรีสุข ผู้ต้องหา ให้การว่าตนเองเลี้ยงไก่ชนจำนวนหนึ่งไว้ที่ศูนย์เรียนรู้ในค่ายทหารเพื่อเป็นการหาอาชีพเสริมโดยก่อนหน้านี้ไก่ชนของตนได้หายไปจำนวนหลายตัว เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2562 ตนเองได้มาซุ่มยิงสัตว์ที่มากัดไก่ชนของตนเอง และเมื่อเวลา 20:00 น.ตนเองได้ใช้ไฟฉายสองพบเห็นตาสัตว์ โดยไม่ทราบว่าเป็นสัตว์ชนิดใด จึงได้ใช้ปืนไทยประดิษฐ์ยิงในระยะ 20 กว่าเมตร และได้เข้าตรวจสอบภายหลังพบว่าซากสัตว์ถูกยิ่งห่างจากจุดที่ส่องไฟฉายพบ ประมาณ16 เมตร เมื่อยิงเสร็จ ไม่กล้าเข้าไปคนเดียวจึงได้ขับมอเตอร์ไซค์ ไปรับพลทหารมาหนึ่งคน เพื่อมาเป็นเพื่อนเข้าไปดู เมื่อค้นหาพบสัตวป่าที่ตนเองยิ่งตาย แต่ตนเองเข้าใจว่าเป็นเสือปลา ไม่ทราบว่าเป็น สัตว์ป่าคุ้มครองจึงได้ถ่ายรูปส่งให้กับเพื่อนในกลุ่มไก่ชน เพื่อให้ทราบว่าเจอต้นตอของสาเหตุที่ไก่ชนของตนหายไปแล้ว และเห็นว่าหนังมีความสวยงาม เช้าวันที่7 กรกฎาคม 2562 เวลา8.00น จึงได้ชำแหละซากเพื่อเก็บหนังไว้ 
ส่วนเนื้อ ได้โยนทิ้งไปทั้งหมด มิได้นำมากินแต่อย่างใด (นี่คือคำให้การของผู้ต้องหา) 
ส่วนหนังภายหลังทราบว่าเป็นหนังแมวดาว จึงเกิดความกลัว นำไปทำลายทิ้งแยกชิ้นส่วน แล้วฝังกลบ ใกล้ๆ บริเวณที่เกิดเหตุ 
ส่วนปืนไทยประดิษฐ์ ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นของตน ซึ่งตนได้รับมาจากรุ่นพี่ทหารรุ่นก่อน
ซึ่งออกไปจากกองพลทหารราบที่ 7 นี่แล้ว แต่ไม่ได้นำไปยิงสัตว์ป่า ตามในโซเชียล เขียนแต่อย่างใด 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หนุ่มที่โพสต์ภาพ แมวดาว คือทหารยศสิบเอก

 

 ต่อมาได้มีการสอบสวนจากนายทหารพระธรรมนูญจึงได้นำซากหนังแมวดาว(ทราบภายหลัง)และอาวุธปืนนำส่งให้กับนายทหารรัฐธรรมนูญ นำส่งให้กับเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบ
4.เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้กับ ส.อ.เจริญศักดิ์ ผ่องศรีสุข ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535  
- มาตรา 16 ฐานล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่รับอนุญาต
- มาตรา 19 ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
- มีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธปืนโดยโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ยิงอาวุธปืนในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ส่วน การดำเนินการของ. คณะกรรมการสอบสวนของหน่วยกองพลทหารราบที่ 7 ซึ่งมีนายทหารพระธรรมนูญ อยู่ในคณะกรรมการด้วย  ได้สรุปว่า ผู้ต้องหาได้ทำผิดจริง ส่วนในการพิจารณาของคณะกรรมการ ว่าโทษ

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทหารยศสิบเอก รับสารภาพ หลังโพสต์ภาพแมวดาว

ล่าสุด ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมืองพิษณุโลก พ.อ.รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่แต่งตั้งโดย กองพลทหารราบที่ 7 ในฐานะหน่วยบังคับบัญชา ได้รายงานให้ พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ทราบว่า นายทหารชั้นประทวนคนดังกล่าวที่ล่าแล้วถลกหนังแมวดาวสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้การยอมรับว่าเป็นผู้กระทำการดังกล่าวจริง
 

 

 

จึงมีความผิดร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ. 2476 มาตรา 7 และคำสั่งกองทัพบกที่ 176/2508 ลง 10 มิถุนายน 2508 ข้อ 1.4 ฐานขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย และการขัดคำสั่งนั้นเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ประกอบพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ. 2521 มาตรา 15 จึงให้ควบคุมตัวนายทหารประทวนที่กระทำความผิดวินัยทหารนั้น ไว้ที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 33 จ.เชียงใหม่ และผู้บังคับการกองพลทหารราบที่ 7 ในฐานะหน่วยบังคับบัญชาได้มีคำสั่งให้ปลดออกจากราชการแล้ววันนี้ รวมทั้งให้ครอบครัวย้ายออกจากบ้านพักของทางราชการภายใน 7 วัน"

 

 

สำหรับการดำเนินคดีตามกฎหมาย ยังคงเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่องทุกประการ โดยเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่), เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่), เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตำรวจภูธรภาค 5 รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะได้ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงอาวุธปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารบก ที่สั่งการให้กำลังพลทุกนายต้องปฏิบัติตนตามกรอบของกฎหมายบ้านเมืองและประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม