ปุ๋ยหมัก สูตรพระราชทานจาก กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

เป็นที่ทราบกันดีว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  พระราชบิดามาโดยตลอด ทรงเสด็จตามในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปทรงงานตามที่ต่างๆ ซึ่งเป็นภาพที่คุ้นตาชาวไทย พระองค์ทรงเป็นห่วงชาวไร่ ชาวนา ช่วยแก้ปัญหาต่างๆให้ ด้วยพระปรีชาสามารถของพระองค์มาโดยตลอด พร้อมทั้งพระราชทานสูตรปุ๋ย ให้แก่พี่น้องเกษตรกร

เป็นที่ทราบกันดีว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  พระราชบิดามาโดยตลอด ทรงเสด็จตามในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปทรงงานตามที่ต่างๆ ซึ่งเป็นภาพที่คุ้นตาชาวไทย พระองค์ทรงเป็นห่วงชาวไร่ ชาวนา ช่วยแก้ปัญหาต่างๆให้ ด้วยพระปรีชาสามารถของพระองค์มาโดยตลอด พร้อมทั้งพระราชทานสูตรปุ๋ย ให้แก่พี่น้องเกษตรกร

 

ปุ๋ยหมัก สูตรพระราชทานจาก กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้พระราชทานวิธี การทำปุ๋ยหมัก เป็นองค์ความรู้ให้กับปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรชาวไทย ทั้งประเทศ ดังพระราชดำริ

ต้นไม้ทุกชนิดต้องการอาหาร เพื่อการเจริญเติบโต พูดง่าย ๆ เราต้องใส่ปุ๋ย ไร่นา สวน ของเรา พืชผล จึงจะงามดี เดี๋ยวนี้ปุ๋ย ที่ซื้อตามท้องตลาดแพงเหลือเกิน เรามาทำปุ๋ยหมักใช้เองดีกว่า

 

ปุ๋ยหมัก สูตรพระราชทานจาก กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

วิธีทำ ของที่ต้องเตรียม

1.ซากพืช ได้แก่ ใบไม้ ผักตบชวา หญ้าแห้ง ลำต้นถั่ว ลำต้นข้าวโพด ใบ และต้นมันสำปะหลัง กระดูกป่น ตามที่มี สับเป็นท่อน ๆ สั้น ๆ ให้เปื่อยเร็ว

2.ปุ๋ย

ก.ปุ๋ยคอก คือ มูลสัตว์ ขี้วัว ขี้ควาย ขี้เป็ด ขี้ไก่ ขี้ค้างคาว อะไรก็ได้
ข.ปัสสาวะคน หรือสัตว์
ค.กากเมล็ดนุ่น , กากถั่ว , ซากต้นถั่วชนิดต่าง ๆ (พืชตระกูลถั่ว)

3.ดินร่วน พอสมควร ถ้าเป็นหน้าดินยิ่งดี

 

ปุ๋ยหมัก สูตรพระราชทานจาก กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

 

การกองปุ๋ย

1.กองในหลุม ต้องขุดหลุมขนาดกว้างราว 1 เมตร ยาว 1 เมตร ลึก 1 เมตร ระวังดินพังทลายลงในหลุม ถ้ามีการระบายน้ำได้ยิ่งดี    

2.กองในคอก ปรับดินบริเวณที่จะกองปุ๋ยหมักให้แน่น ใช้ไม้ไผ่หรือไม้อื่นที่ทำได้ กั้นเป็นคอกกว้าง 2 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 1 เมตร แบ่งคอกเป็น 2 ส่วน ครึ่งหนึ่งไว้ใส่ปุ๋ยหมัก อีกครึ่งหนึ่งไว้กลับกองปุ๋ย ทำหลังคาใบจากหรือใบมะพร้าวคลุมหลังคา ถ้ามีถุงพลาสติกคลุมกันฝนชะปุ๋ยก็ดี

3.เอาซากพืชที่เตรียมไว้กองเกลี่ยในคอก (หรือในหลุม) ให้เป็นชั้น เหยียบตามขอบให้แน่นขนาดคนเหยียบแล้วไม่ยุบอีก ชั้นหนึ่ง ๆ สูงราว 1 คืบ (30 ซม.) รดน้ำให้ชุ่ม แล้วเอาปุ๋ยคอกโรยทับให้ทั่วกัน สูง 2 องคุลี (5 ซม.) ถ้ามีปุ๋ยเคมี (สูตร 16-20-0 หรือ 14-14-14 , แอมโมเนียมซัลเฟต หรือยูเรีย) ก็โรยบาง ๆ ให้ทั่ว แล้วทับด้วยดินละเอียดหนาประมาณ 1 องคุลี สลับด้วยซากพืชแล้วรดน้ำทำเป็นชั้น ๆ อย่างนี้จนปุ๋ยเต็มคอก (น้ำที่รดจะผสมด้วยปัสสาวะด้วยก็ได้)

 

ปุ๋ยหมัก สูตรพระราชทานจาก กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

 

ข้อควรระวัง

1.อย่าให้มีน้ำขัง การรดน้ำมากไปจะทำให้ระบายอากาศไม่ดี

2.ปุ๋ยกองใหญ่ไปจะเกิดความร้อนสูง ปุ๋ยจะเสีย ถ้าในกองปุ๋ยมีความร้อนสูงไปให้เติมน้ำลงไปบ้าง

3.ปุ๋ยกองเล็กไป จะสลายตัวช้า

4.อย่าใช้ปุ๋ยเคมีพร้อมกับใส่ปูนขาว จะทำให้ธาตุไนโตรเจนสลายตัว

 

ปุ๋ยหมัก สูตรพระราชทานจาก กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

การกลับปุ๋ย

ทุก 30 วัน ควรกลับกองปุ๋ย โดยเอาชั้นบนสุดของกองนำไปเกลี่ยในอีกส่วนของคอกเป็นชั้นล่างสุด แล้วเอาชั้นสองเกลี่ยทับแล้วรดน้ำ ควรกลับปุ๋ย (ทุก 30 วัน) จนกว่าซากพืชจะเปื่อยผุหมดทั้งกอง กินเวลา 3-4 เดือน เมื่อปุ๋ยใช้ได้ สังเกตุจากความร้อนในกองจะใกล้เคียงกับความร้อนของอากาศ ปุ๋ยหมักจะเป็นสีน้ำตาลแก่ เอาตะแกรงร่อนปุ๋ยหมักเก็บไว้

การใช้ประโยชน์

ประหยัดการใช้ปุ๋ยเคมีได้ครึ่งหนึ่ง ทำให้ดินร่วน อุดมสมบูรณ์ เพิ่มธาตุไนโตรเจน ไม่เป็นอันตราย รักษาความชุ่มชื้นของดิน
 
หมายเหตุ ถ้าที่เป็นดินทรายใช้อิฐกรุในหลุม จะทำให้ได้ผลดีขึ้น

 

ปุ๋ยหมัก สูตรพระราชทานจาก กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ