น้ำโคลนไหลทะลักเข้าหอพัก ร.ร.ชายแดนท่าสองยาง-ถ้ำแม่อุสุ ถูกท่วมมิดแล้ว

วันนี้ (25 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดน้ำป่าและดินโคลนไหลถล่มอาคารหอพักนักเรียนโรงเรียนบ้านแม่ระเมิง หมู่ที่ 8 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง ช่วงเย็นวานนี้ (24 ก.ค.) ทำให้อาคารหอพักพุทธรักษา ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว กว้าง 6 เมตร ยาว 24 เมตร ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และยังทำให้ทรัพย์สินของเด็กนักเรียนได้รับความเสียหายทั้งหมด ประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาทเศษ และมีนักเรียนได้รับผลกระทบไร้ที่พักอาศัยจำนวน 41 คน ครูเวรต้องอพยพพานักเรียนทั้ง 41 คนไปพักอาศัยที่หอพักใกล้เคียงที่เป็นจุดที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว

ส่วนการเข้าซ่อมแซมและสำรวจความแข็งแรงของตัวอาคารที่เกิดเหตุ ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการได้ เนื่องจากพบว่ายังมีฝนตกหนักจนถึงเช้านี้ และยังมีดินโคลนไหลลงมาจากภูเขาอย่างต่อเนื่อง โรงเรียนฯ จึงต้องติดป้ายประกาศห้ามนักเรียนทุกคนเข้าไปในจุดเกิดเหตุอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันอันตราย

สำหรับโรงเรียนบ้านแม่ระเมิง เป็นโรงเรียนในพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารและตั้งอยู่บนเชิงภูเขาพื้นที่เสี่ยงภัยทางธรรมชาติและประสบภัยทางธรรมชาติทุกปี มีนักเรียนรวมกว่าหนึ่งพันคน ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน

และมีครูทุกระดับชั้นจำนวน 82 คน ล่าสุดเช้านี้ยังคงมีฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สร้างความวิตกแก่ครูและนักเรียนอย่างมาก และหลังจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ด้านจังหวัดตาก ติดต่อกันหลายวันจนถึงเช้าวันนี้ ยังส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าจากภูเขาสูงไหลเข้าไปในถ้ำแม่อุสุ เขตอุทยานแห่งชาติแม่เมย หมู่ 4 บ้านทีโนโค๊ะ ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ประจำถ้ำแม่อุสุได้รีบเข้าไปตรวจสอบพบว่าน้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมจนเกือบมิดปากถ้ำ ขณะที่ระดับน้ำภายในถ้ำก็สูงเกือบติดเพดานถ้ำ จึงได้ติดป้ายห้ามนักท่องเที่ยวตลอดจนชาวบ้านทุกคนเข้าไปในถ้ำอย่างเด็ดขาด พร้อมสั่งปิดถ้ำแม่อุสุอย่างไม่มีกำหนด

ทั้งนี้ “ถ้ำแม่อุสุ” เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยว มีลักษณะคล้ายกับถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ประจำถ้ำแม่อุสุได้จัดเวรยามเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง