ระย้า เปิดใจเศร้า เล่าเหตุผลยกเลิกพิธีรดน้ำศพ โน้ต เผยคำพูดสุดท้ายก่อนเสียชีวิต

จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา เกิดเหตุชายหนุ่มขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตบนสะพานข้ามแยกคลองตัน ทราบชื่อคือ นายภัทร์นฤณ พงษ์ธนานิกร หรือ โน้ต ทายาทเจ้าของค่ายเพลงรถไฟดนตรี นายประเสริฐ พงษ์ธนานิกร หรือ ดีเจระย้า ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

- หนุ่มบิ๊กไบค์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกลางสะพานข้ามแยกคลองตัน(คลิป)

- ลูกชายผู้บริหารค่ายเพลงดังซิ่งบิ๊กไบค์ เสียหลักล้มสะพานข้ามแยกคลองตัน

- ข้อความสุดท้าย หนุ่มบิ๊กไบค์ ลูกชายอดีตดีเจ-เจ้าของค่ายเพลงดัง

- พยานเล่าสาเหตุทำหนุ่มบิ๊กไบค์เฉี่ยวชน

- เช็ควงจรปิด คลี่คลายปม หนุ่มบิ๊กไบค์ ชนสะพานดับ

- เพื่อนหนุ่มบิ๊กไบค์โพสต์อาลัย พร้อมย้อนข้อความเป็นผู้ให้กำลังใจ จนไม่คิดสั้น

- เปิดคลิปกล้องวงจรปิด​นาที บิ๊กไบค์ ก่อนชนสะพานดับ(คลิป)

 

โดยในช่วงเย็นวันที่ 29 กรกฎาคม 2562 ณ ศาลา 4 วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศล และสวดอภิธรรมศพ นายภัทร์นฤณ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก มีศิลปินคนบันเทิงเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัย โดยมี นายประเสริฐ บิดา, ตุ๋ย อารมย์ มารดา แอปเปิ้ล หน่อย-วรัษฐา พี่สาว ต้อนรับแขกที่มาร่วมแสดงความอาลัย

 

 

ทั้งนี้ นายประเสิรฐ หรือ ดีเจระย้า เปิดใจว่า "วันนี้การเตรียมงานของเราอาจจะยังไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ เพราะว่ามีเพื่อน ๆ มาร่วมแสดงความเสียใจกันเยอะ ทั้งเพื่อนแม่ เพื่อนพ่อ และก็เพื่อนเขา ทางเราไม่ได้มีพิธีรดน้ำนะครับ เพราะสภาพจิตใจของคุณแม่ค่อนข้างแย่มาก เราเองก็กลัวว่าถ้ามีพิธีรดจะแย่ขึ้นไปอีก ก็เลยยกเลิกดีกว่า สำหรับสภาพจิตใจของเราหัวใจมันสลาย เพราะเขาก็กำลังจะตั้งหลักได้ดี งานการทุกอย่างก็กำลังดี อีกทั้งเมื่อเวลาประมาณ 1 ทุ่ม 14 นาที ในคืนวันศุกร์เขายังโทรมาหาพ่อ บอกกับพ่อว่าจะขอนำโรงจอดรถในบริษัทไปทำเป็นอู่ซ่อมบิ๊กไบค์ ซึ่งพ่อก็ยินดี ยังบอกเขาเลยว่าให้ทำเลย เขาก็ตอบกลับพ่อมาว่า ขอบคุณมากครับพ่อ นั่นแหละครับคำพูดสุดท้ายของเขา"

 

 

"ก่อนเกิดเหตุไม่มีลางสังหรณ์ไม่มีเลย เพราะปกติแล้วตัวโน้ตจะเป็นคนที่มีนิสัยสุภาพเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไรกับใคร ไม่วุ่นวายอะไรกับใครเลย หรือแม้แต่เรื่องไหนที่ไม่ดีเขาก็จะไม่เข้าไปยุ่ง อย่างเวลาที่เขาอยู่ในบริษัทเขาก็ไม่เคยวางอำนาจกับลูกน้อง เวลาเจอใครเขาก็ยกมือไหว้สวัสดี ขนาดตอนที่เขาทำงานกับเพื่อนเขา เขายังมาบอกกับพ่อเลยว่าตกลงกันที่ 50 ต่อ 50 คนเราต้องทำงานด้วยกันมันก็ควรที่จะแฟร์กันทุกคนจะได้มีความสุข"

 

 

"สิ่งที่เขาตั้งใจจะทำมีเยอะมีหลาย ๆ อย่าง อย่างบริษัทที่เขาทำอยู่เขาเคยทำงานเกี่ยวกับพวกเวชภัณฑ์ พวกสำลี ผ้าก๊อซ ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งเขาเองก็ล้มลุกคลุกคลานมาอยู่ประมาณ 5-6 ปี แต่เขาเพิ่งจะพูดกับพ่อเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เขาบอกว่าตอนนี้หลาย ๆ อย่างเริ่มเข้าที่แล้วนะพ่อ เริ่มมีกำไรให้เห็นแล้ว และเขาก็ยังทำพวกผ้าเบรกมอเตอร์ไซค์ด้วย ก็ขายดีเหมือนกัน กำไรดี แถมล่าสุดยังคิดทำอู่อีก เขาวางโครงการอีกเยอะ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำ"