- 03 ส.ค. 2562
สาวเจอ หนุ่มแต่งตัวดีเดินขายน้ำส้มในซอยโชคชัย 4 สู้ชีวิต ไม่อายทำกิน ไม่ขายความสงสาร
เพจเฟซบุ๊ก ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก ของคุณอุ่นที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1.5 แสนคน เล่าเรื่องราวของคุณ ธนัช คนขายน้ำส้มสู้ชีวิต หลังจากที่เคยพบเห็นเขาอยู่หลายปี จึงตัดสินใจเข้าไปพูดคุยจนได้รับข้อคิดและแรงบันดาลใจที่ดีในการใช้ชีวิต
คุณอุ่นโพสต์เล่าเรื่องราวคนขายน้ำส้มสู้ชีวิต ว่า
ขอเล่าเรื่องราวดีๆให้ฟัง ให้เป็นแรงใจของใครที่กำลังมองหาลู่ทางใหม่ๆในชีวิต
อุ่นต้องเกริ่นก่อนว่าอุ่นเป็นคนที่ชอบคุยกับคนมาก คนไม่รู้จักก็คุยได้หมด ถ้าฟังแล้วรู้สึกเป็นประโยชน์ คนนี้มีอะไรที่เป็นวิทยาทานไปบอกต่อคนอื่นได้ ฟังแล้วรู้ว่าคนนี้จะสร้างแรงบันดาลใจอะไรซักอย่างกับเราในชีวิต
ไม่ว่าคนๆนั้นเป็นใคร นั่งอยู่บนฟ้า นั่งอยู่บนเก้าอี้ หรือนั่งขายของแบกะดินก็ได้ ทุกคนเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจกับชีวิตเราได้หมด
ขอให้ทุกคนทำความรู้จักกับ “ธนัช คนขายน้ำส้ม” ค่ะ
อุ่นเห็นธนัชมาหลายปีในเส้นโชคชัย 4 ชายหนุ่มผู้ใส่ชุดทำงานเดินขึ้นล่องในซอยตอนกลางคืนเพื่อขายน้ำส้มให้นักกินแถบนั้นในราคา 3 ขวด 100 อุ่นก็ได้ซื้ออยู่บ่อยๆ แล้วก็คิดว่าเออ เค้าก็สู้ชีวิตดี แล้วค้าขายไม่เคยขายความสงสาร แบบเออชั้นมาขาย ไม่เอาก็ขอบคุณ บาย ไม่ฮาร์ดเซลล์ มารยาทดี
วันนี้ได้โอกาสยืนคุยเลยรู้ว่าธนัชเลือกที่จะไม่ขายน้ำส้มเป็นงานพาร์ทไทม์แล้ว นี่คือรายได้หลักของเค้า ออกจากงานมาขายน้ำส้มแล้วเต็มตัว
ชั้นซักทันทีว่าทำไม
ธนัชตอบทันใดว่าผมเคยมีแฟน แล้วรู้ว่าการจะสร้างครอบครัวมันไม่ใช่พาไปกินข้าวแล้วจบไปวันๆ มันคือการสร้างบ้าน ซื้อเฟอร์นิเจอร์ เงินเก็บทุกสิ่งอย่าง ซึ่งการทำงานประจำไม่พอ เลยเริ่มทำงานนี้เป็นงานเสริมงานขาย ซักพักคำนวณแล้วว่าทำงานนี้ 6 ชม. ในขณะที่งานประจำ 8 ชม. แต่คิดแล้วได้เงินมากกว่า เลยเลือกที่จะออกมาทำงานนี้แล้วเก็บเงินก่อน โดยเลือกของให้ดี ไปดูโรงงานผลิตด้วยตัวเอง ดูคุณภาพให้คงที่ตลอด พยายามหาช่องทางที่เสี่ยงให้น้อยที่สุด ใช้มารยาทการขายแบบนอบน้อมเหมือนตอนที่เคยทำงานที่ร้านญี่ปุ่น ไม่บังคับ ไม่ขายดราม่า ขายคุณภาพดีกว่า
ที่สำคัญเมื่อได้รับแล้ว ต้องรู้จักให้คืนสังคมด้วย
โห
อุ่นถามทันทีว่าเดือนนึงขายได้เท่าไหร่ ขายได้กี่ขวด ธนัชบอกว่าขายตอนเช้าได้พอเงินค่าข้าว ขายตอนเย็นพวกคนช่างกินในซอยโชคชัย 4 ระหว่างเวลา 19:00-01:00 ก็ตกวันละ 150 ขวด รายได้อย่างต่ำตกวันละพัน ขายมากที่โรงงานมีค่าคอมมิชชั่นให้ด้วย
ทำทุกวัน หยุดวันที่อยากหยุด
โอ้ ไม่แปลกใจที่ทำไมเค้าลาออกมา
อุ่นถามทันทีว่าแล้วอีที่แบกใส่บ่ามาเนี่ยคืออะไร น้องบอกเทคนิคการขาย การเดิน การทำให้ดูน่าขายน่าทานคือความคิดเค้าเอง เค้าลงทุนสั่งเป้หลัง กล่องเก็บความเย็น แม้ว่าจะแพงแต่ว่ามันชื่นใจขายคนได้มากกว่า เดินขายไม่ต้องกังวลเทศกิจ ไม่ต้องรอให้ลูกค้าเดินเข้ามาหา เราเดินเข้าไปเสนอเอง
ไม่พอ ขายน้ำส้มยังสามารถจ่ายแบบแสกน QR code แล้วโอนเงินได้ มีแบรนด์ชื่อทาสแมว (Neko Delivery) ให้คนจำได้ เหมาะกับสังคม Cashless society ที่แท้ทรู
ยังไม่พออีก เงินจากการขายขวดละบาท เค้าจะเก็บเงินเอาไว้ส่งประกันสุขภาพและชีวิตเสมอ แบคอัพไว้วันนึงที่ตัวเองเกิดไม่สบาย
ก่อนแยกกันธนัชย้ำอีกครั้ง “ผมเชื่อว่าไม่ได้แค่รับอย่างเดียว รับมาแล้วเราต้องให้คืนกับสังคมด้วยครับ”
ธนัชเป็นคนขายน้ำส้มที่ยิ่งใหญ่สำหรับอุ่นค่ะ
ฟังเค้าเล่าแล้วได้รับแรงบันดาลที่ดีว่าถ้าเรามีความทะเยอทะยาน มีความสู้ชีวิตและไม่ท้อ ชีวิตไม่มีคำว่าก็ไม่รู้จะไปต่อยังไง/หาทางไปต่อไม่เจอ/เกิดมาแค่นี้จะให้บินสูงกว่านี้ได้ยังไง/เมื่อไหร่จะรวยซักที แน่นอนค่ะ
ขอให้ตัวเองหาเส้นทางชีวิตให้เจอและอย่าท้อถอยนะคะทุกคน
สวัสดี
ป.ล ขออนุญาตในการนำมาลงแล้ว ธนัชยินดีค่ะ
ป.ล อุ่นถามว่าทำไมต้องแต่งตัวดี สร้างความน่าเชื่อถือใช่มั้ยแบบเหมือนนักเรียนใส่ชุดมาขายของแล้วดูสู้ชีวิตงี้ เค้าบอกไม่ครับอย่าคิดงั้น แค่ให้เกียรติคนซื้อ โห
ป.ล อีกครั้ง ฮีเป็นทาสแมว
ป.ล ใครจะสั่งขอเชิญ นี่ว่าเค้าไม่ได้ลำบากเดือดร้อนต้องวิ่งไปช่วยเหลือ เค้าขายของและของที่เค้าขาย สามี ลูก เพื่อนชั้นลงความเห็นแล้วว่าดี (เค้าใช้ส้มแมนดารินผสมกับส้มเขียวหวาน) หวานกำลังดี ไม่จกตา สำหรับชั้นถ้ามันดี แล้วคนขายสุภาพ ต่อให้เค้ารวยพันล้านก็จะอุดหนุน แม้เงินเดือนเราจะห้าพันก็ตาม
ขอบคุณ ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก