ศาลอยุธยาสั่งโทษ ไอ้อั๋น ปลิดชีพพยาบาลดับคาเก๋ง น้องสาวร่ำไห้ขอเพิ่มโทษ (คลิป)

06 ก.ย. 2562

แชร์ |

จากกรณีสะเทือนขวัญ พบศพนางสาว ศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ วัย 48 ปี พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลภาชี จังหวังพระนครศรีอยุธยา จนนำมาซึ่งการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยภายในคลิปเผยให้เห็น คนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ใช้ของมีคมปาดคอความยาวประมาณ 7 เซนติเมตร และแทงที่กลางหน้าอกนอนเสียชีวิตคว่ำหน้าตัวพาดยาวอยู่ระหว่างกลางเบาะรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญฉ 5426 กรุงเทพมหานคร อยู่บริเวณกลางชอยหอพักแห่งหนึ่งในจุดเกิดแห่ง

จากกรณีสะเทือนขวัญ พบศพนางสาว ศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ วัย 48 ปี พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลภาชี จังหวังพระนครศรีอยุธยา จนนำมาซึ่งการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยภายในคลิปเผยให้เห็น คนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ใช้ของมีคมปาดคอความยาวประมาณ 7 เซนติเมตร และแทงที่กลางหน้าอกนอนเสียชีวิตคว่ำหน้าตัวพาดยาวอยู่ระหว่างกลางเบาะรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญฉ 5426 กรุงเทพมหานคร อยู่บริเวณกลางชอยหอพักแห่งหนึ่งในจุดเกิดแห่ง

ทั้งนี้จากหลักฐานคลิปภาพที่นำไปสู่การคลี่คลายคดี พบภาพชายรูปพรรณสัณฐานสูงใหญ่ สวมเสื้อ สีขาว นุ่งกางเกงขายาว สีครีม ทราบชื่อต่อมาคือ นายอั๋น ฟักศิริ วัย 33 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ภาชี สามารถบกุมนายอั๋น ได้ขณะหลบหนีไปพร้อมกับแฟนสาว ที่บริเวณวัดลาดชิด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

นายอั๋น ฟักศิริ วัย 33 ปี

โดยรายงานข่าวระบุว่า นายอั๋นเคยเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ร่วมโรงพยาบาลเดียวกับผู้เสียชีวิต และภายหลังการจับกุมนายอั๋นสารภาพว่า ก่อเหตุโดยใช้มีดคัดเตอร์ปาดคอ และบีบคอจนเสียชีวิตทิ้งศพไว้ในรถเก๋งโตโยต้า รุ่นอัลติสสีขาว หมายเลขทะเบียน ญฉ 5426 กรุงเทพมหานคร

นายอั๋น ฟักศิริ วัย 33 ปี

ล่าสุดศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้พิพากษาจำคุกนายอั๋นตลอดชีวิต แต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 36 ปี 4 เดือน พร้อมมีคำส่งให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทางแพ่ง แก่โจทก์ร่วม ซึ่งเป็นบิดามารดาเป็นเงินทั้งสิ้น 2.9 ล้านบาท พร้อมกับดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 คิดนับตั้งแต่ วันที่ 10 มีนาคม 2562

นายอั๋น ฟักศิริ วัย 33 ปี

ทางด้าน น.ส.สกุลรัตน์ สุวรรณศิลป์ อายุ 42 ปี น้องสาวของน.ส.ศรีสุภางค์ กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาตัดสิน ว่า ทางครอบครัวเคารพในคำตัดสินของศาล แต่เห็นว่าโทษของจำเลยยังน้อยไปกับสิ่งที่กระทำไปกับน้องสาวของตนเอง ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี น้องสาวของตนเองทำงานเป็นพยาบาลดูแลคนป่วย ดูแลพ่อแม่ เป็นคนดีของของสังคม ถ้าพี่สาวยังมีชีวิตอยู่จะสามารถช่วยเหลือดูแลคนเจ็บคนป่วยได้อีกมาก ถือว่าเป็นบุคลากรที่สำคัญ ทางครอบครัว จะปรึกษากับทางทนายความ เพื่อยื่นอุทธรณ์เพื่อเพิ่มโทษกับจำเลย อยากบอกกับพี่สาวว่า ศาลได้ลงโทษจำเลยที่ทำร้ายพี่สาวแล้ว พ่อแม่จะสู้ต่อไปเพื่อให้คนที่ทำร้ายได้รับโทษสูงสุดรับกรรมที่กระทำลงไป

นายอั๋น ฟักศิริ วัย 33 ปี