- 16 ก.ย. 2562
สร้างความทุกขืใจให้กับหนุ่มใหญ่วัย 49 เป็นอย่างมา ถึงกับต้องโร่หามือปราบผี เนื่องจากเจ้าตัวอ้างว่าถูก ผีจดหมาย คุกคามเกือบ 10 ปี จนต้องย้ายบ้านมา 3 หลัง และต้องเจอกระดาษเขียนข้อความเชิงหึงหวงแปะไว้นับร้อยแผ่น จนทำให้คนรอบข้างคิดว่าเป็นบ้า
สร้างความทุกข์ใจให้กับหนุ่มใหญ่วัย 49 เป็นอย่างมา ถึงกับต้องโร่หามือปราบผี เนื่องจากเจ้าตัวอ้างว่าถูก ผีจดหมาย คุกคามเกือบ 10 ปี จนต้องย้ายบ้านมา 3 หลัง และต้องเจอกระดาษเขียนข้อความเชิงหึงหวงแปะไว้นับร้อยแผ่น จนทำให้คนรอบข้างคิดว่าเป็นบ้า
นายเชิดศักดิ์ เปิดเผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับจดหมายหลายร้อยฉบับที่เห็นนั้น ตนก็ยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร แต่เป็นเรื่องที่บั่นทอนจิตใจตนกับภรรยามาก เพราะเกิดขึ้นมานานร่วม 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ปลายปี 2552 แต่ก็ยังหาคนทำไม่ได้ จึงคิดว่าน่าจะเกิดสิ่งผิดปกติกับครอบครัวตัวเอง หรือเป็นฝีมือของสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น ที่วนเวียนตามตนอยู่ทุกหนแห่ง
ก่อนหน้านี้ตนได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก็พบว่าเริ่มมีจดหมายและสิ่งผิดปกติที่ลี้ลับต่างๆ เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยนั้น กระทั่งย้ายมาอยู่ที่บ้านเช่าในปัจจจุบัน สิ่งดังกล่าวก็ยังตามมารังควานไม่หยุดหย่อน โดยบ้านเช่าที่อยู่ มี 3 ห้อง ห้องนอน ห้องเก็บของ และห้องน้ำ
ในทุกๆ วันภรรยาจะออกจากบ้านไปทำงาน และกลับมาในตอนเย็น ส่วนตนก็จะออกไปสอนขับรถ ซึ่งจะล็อกประตูหน้าต่างเรียบร้อย แต่เมื่อกลับเข้าบ้านมาก็จะเห็นจดหมายแปะไว้ตามที่ต่างๆ ภายในบ้าน วางบนโต๊ะบ้าง ข้างกระเป๋าบ้าง หรือเขียนข้อความบนปฏิทินตั้งโต๊ะบ้าง บางวันเสื้อผ้าที่แขวนไว้ในห้องเก็บของก็มากองไว้ที่ประตูทางออก หรือพบเสื้อผ้าพับอย่างดีวางไว้ในบ้าน
นอกจากนี้ ภรรยายังเคยโดนอะไรไม่รู้ถีบตอนจะเข้าห้องน้ำ ตนรู้สึกสงสารภรรยาที่ถูกคุกคามเช่นนี้ ส่วนตนก็ไม่มีความสุข เป็นเรื่องบันทอนจิตใจ เพราะเมื่อออกจากบ้านไป พอจะกลับเข้าบ้านมาก็ต้องเตรียมใจไว้ว่าจะต้องเจอกับเรื่องแปลกประหลาดอะไรอีก ซึ่งนายเชิดศักดิ์เองยอมรับว่าเคยคิดจะฆ่าตัวตายเพราะใกล้จะทนไม่ไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งลี้ลับเข้ามาก่อกวนและปั่นป่วนชีวิตจนไม่มีความสุข ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตนพยายามจะจับให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ หรือมีคนลักลอบเข้ามาในบ้านหรือไม่ แต่ไม่เคยพบสิ่งผิดปกติ
ขณะที่เพื่อนบ้านก็ไม่เคยพบเห็นคนเข้าออกในบ้านตนเลย และทุกคนก็ยังงงงวยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน บางคนคิดว่าตนเป็นคนบ้า ตนเคยไปหาพระและปรึกษา แต่ปรากฏว่าพระก็ยังเดินหนี จึงอยากให้ใครก็ได้ที่มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์เกี่ยวกับกล้องถ่ายภาพทั้งกลางวันและกลางคืน มาช่วยทำการตรวจสอบสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นในครอบครัวให้ด้วย เพราะเป็นทุกข์กับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก
ทั้งนี้ นายเชิดศักดิ์ ยังได้ย้อนเล่ากลับไปถึงจุดเริ่มต้นของสิ่งที่อธิบายไม่ได้ เมื่อช่วงปลายปี 2552 ตอนนั้นตนทำงานเป็นพนักงานขับรถในกรุงเทพฯ และกำลังคบหาอยู่กับแฟนคนแรก แต่ไม่นานก็เลิกกัน หลังจากแฟนพาไปดูการถ่ายละครอิงประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่ง และหลังจากนั้นแฟนสาวก็เปลี่ยนไป และเลิกรากันไปหลังจากนั้นตนก็เดินทางกลับมาอยู่ที่บ้าน และมาคบกับแฟนคนปัจจุบัน โดยเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน บ้านเช่าหลังแรกที่เคยเช่าอยู่ก็เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน มีจดหมายเขียนแปะเอาไว้คุกคามตลอด และหนักที่สุดถึงขั้นสะเดาะกุญแจห้องพัก
กระทั่งในที่สุดก็ถูกเจ้าของบ้านเช่าเชิญให้ย้ายออก ทั้งที่ไม่เคยพบเจอคนก่อเหตุหรือคนสะเดาะกุญแจเลย แต่ทุกคนเชื่อว่าเป็นสิ่งลี้ลับที่ติดตามตัวตนมา จึงอยากให้ออกจากบ้านเช่า และเมื่อย้ายมาเช่าอยู่ที่บ้านเช่าที่ปัจจุบันก็ยังคงเกิดเหตุการณ์ซ้ำๆ เช่นเดิม บางครั้งก็เรียกเพื่อนบ้านมาดู และสอบถามบ้านข้างเคียงก็ไม่มีใครเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านเช่าแต่อย่างใด ทุกวันนี้เล่าให้ใครฟังก็ถูกมองเป็นคนบ้า จึงอยากพิสูจน์ความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-คู่รักไทยหลอนกลางดึก โพสต์ขอความช่วยเหลือถูกผีหลอกที่ญี่ปุ่น
-หนุ่มนอนห้องเช่าราคาถูก โดนผีหลอกทุกคืน
--สาวสวยเล่าประสบการณ์ เช่าบ้านหรูที่ญี่ปุ่น เห็นแก่ราคาถูก จัดไป 4 คืน จนกลายเป็นทริปเหมือนถูกผีหลอก
-นึกว่าโดน ผีหลอก คุณตาตื่นมาพบอุปกรณ์บนโต๊ะทำงานถูกย้าย ที่ไหนได้ หนู มาช่วยเก็บ(คลิป)