สมศักดิ์ เทพสุทิน ลั่นจับตาพปชร.แถลงข่าวใหญ่วันนี้ กก.บห.ลาออก กดดัน อุตตม พ้นหน.พรรค

ภายหลังเกิดกระแสปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะระหว่างขั้วสามมิตรภายใต้การนำเดิมของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์  ,  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน  กับส.ส.จำนวนหนึ่งที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงภายในพรรค  กับเก้าอี้หัวหน้าพรรคของ นายอุตตม สาวนายน  และ  นาย  สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค 

จนกระทั่งมีการจับผิดถึงขั้่นนำภาพการหารือที่อาคารรัฐสภา  ระหว่าง   ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กับกลุ่มส.ส. และ  ภาพการประชุมระหว่าง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานวิปรัฐบาล กับกลุ่มส.ส.ที่ถูกระบุว่าเป็นกลุ่มสามมิตรเดิม  ในลักษณะของการแยกคุยมาเปรียบเทียบย้ำให้เห็นร่องรอย ความแตกร้าวภายในพรรคพลังประชารัฐ   

โดยร.อ.ธรรมนัส ยอมรับว่า  มีการพูดคุยถึงบทบาทของ  นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ที่กำลั
เผชิญคดีทุจริตจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอล จ.นครราชสีมา และอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนของคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการกับ ป.ป.ช. ซึ่งหากมีการสั่งฟ้อง และศาลฎีกาฯรับฟ้อง นายวิรัช รวมถึงนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา ซึ่งเป็นภรรยานายวิรัช และนางทัศนาพร เกษเมธีการุน ส.ส.นครราชสีมา ซึ่งเป็นน้องสาวนางทัศนียา  กรณีถ้าป.ป.ช.ชี้มูลในคดีเดียวกัน จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ และมีผลต่อตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลด้วย 
 

ล่าสุด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม  ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ   ให้สัมภาษณ์กรณีที่แกนนำพปชร.เรียกประชุม ส.ส.ที่อาคารรัฐสภา ก่อนลงมติพ.ร.ก. เงินกู้ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า ตนเข้าประชุมในส่วนของวิปรัฐบาล  เพื่อจะดูว่า ส.ส. จะยกมือตามมติของพรรคอย่างไร รวมถึงปัญหาการลงคะแนน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตนไม่ทราบ ขณะที่มีการประชุมอีกห้อง ตนไม่ทราบ แต่อาจเป็นระยะเวลาที่คาบเกี่ยวกัน  

ส่วนจะเป็นการวัดพลังของแกนนำแต่ละกลุ่มหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในสถานะ ที่จะไรับทราบข้อมูลต่างๆ ที่คนเข้าประชุม ก็เป็นไปตามที่พรรคนัดหมาย เพราะเป็น ส.ส. ด้วย จึงต้องให้ความร่วมมือ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้หารือกับ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค   เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ส่วนที่หลายคนมองว่าศึกภายใน พปชร. ยังไม่จบ  

ประเด็นสำคัญนายสมศักดิ์  ระบุว่า  ตนเข้าใจเรื่องกรรมการบริหารพรรค ที่มีข่าวว่าจะลาออกและให้เลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ 

" เชื่อว่า วันนี้จะมีข่าวใหญ่ ขอให้ติดตามดู ในส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรค ก็คงมีเรื่องของการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหาร และคงได้เห็นในช่วงบ่ายวันนี้ ( 1 มิ.ย.)  ขอให้ติดตามดู "

ส่วนจะเป็นถามย้ำว่าข่าวใหญ่ ที่ว่าจะมอบหมายให้ทีมกฎหมายของพรรค ไปยื่นรายชื่อกรรมการบริหาร ที่ลาออก ต่อ กกต. เพื่อให้มีผล หรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้ติดตามดู เพราะตนไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้ เพียงแต่ได้ยินแว่วๆมา  ซึ่งตนก็เป็น1 ในกรรมการบริหารด้วย ต่อข้อถามย้ำว่า แสดงว่าถ้ากรรมการบริหารลาออกเกินครึ่ง คือ 18 คน จะทำให้หัวหน้าพรรค พ้นสภาพ ไปโดยอัตโนมัติ ใช่หรือไม่ ตนไม่ทราบลึกซึ้งขนาดนั้น แต่ก็เป็นเรื่องทำนองนี้  เพราะตนไม่ทราบรายละเอียดในข้อกฎหมาย มีแต่ข้อเท็จจริง ที่เรียนให้ทราบ ส่วนถือว่าเป็นการตัดหางปล่อยวัดหรือไม่นั้นไม่ใช่อย่างนั้น

ทางด้าน   พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.กห.) จะมีการยื่นลาออก เพื่อต้องการมีเกิดการเปลี่ยนแปลงกกรรมการบริหารพรรคใหม่  พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธสั้นๆ ว่า ไม่รู้สิ 

และเมื่อถูกถามย้ำว่า ถ้าพรรคพลังประชารัฐมีติเลือกพล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ไม่รู้ ไม่ได้เป็นกรรมาการบริหารพรรค ไม่รู้เรื่อง ที่เป็นข่าวว่าจะมีกรรมการบริหารพรรคลาออก

ส่วนในฐานะเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคจะมีการดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การดำเนินการเป็นเรื่องของเขา แต่กลมเกลียวกันอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า ถ้ากก.บห.พ้นสภาพ ส่งผลให้เลือกกก.บห.พรรคชุดใหม่ จะรับหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวปฏิเสธอีกว่า ไม่มี ไม่รู้ 

และผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าถ้ามีการเสนอให้เป็นหัวหน้าพรรคจะไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ โดยพล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบคำถาม เพียงหันมายิ้ม และขึ้นรถออกไปทันที