- 01 มิ.ย. 2563
ถึงแม้จะมีความชัดเจนในระดับสำคัญ จากการให้ข้อมูลว่าคดีความของนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบคบกันฟอกเงิน สิ้นสุดลงตามคำสั่งของ โดยนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด คนที่ 1 ซึ่งอาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่รักษาราชการเเทนนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ระหว่างเดินทางไปราชการในพื้นที่สำนักงานอัยการภาค 7 เป็นผู้ลงนามคำสั่งชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดี แต่โดยข้อเท็จจริงประเด็นข้อกล่าวหาที่ถือเป็นมูลฐานความผิดร้ายแรงดังกล่าว ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ถึงแม้จะมีความชัดเจนในระดับสำคัญ จากการให้ข้อมูลว่าคดีความของนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบคบกันฟอกเงิน สิ้นสุดลงตามคำสั่งของ โดยนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด คนที่ 1 ซึ่งอาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่รักษาราชการเเทนนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ระหว่างเดินทางไปราชการในพื้นที่สำนักงานอัยการภาค 7 เป็นผู้ลงนามคำสั่งชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดี แต่โดยข้อเท็จจริงประเด็นข้อกล่าวหาที่ถือเป็นมูลฐานความผิดร้ายแรงดังกล่าว ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : รองโฆษกอัยการ แจงคดีโอ๊คฟอกเงินจบแล้ว มีผู้ทำหน้าที่แทนอสส.เซ็นคำสั่ง )
ล่าสุด นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่ ได้เดินทางเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ไต่สวนฉุกเฉินระงับคำสั่งของอัยการสูงสุด ที่อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในการที่มีประชาชนเคลือบแคลงสงสัย การทำหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด กรณี ที่ศาลสั่งไม่อุทธรณ์ "คดีการฟอกเงินของ นายพานทองแท้ ชินวัตร" สิ่งที่ประชาชนยังสงสัยในคดีนี้ ทั้ง ๆ ที่เส้นทางกระบวนการยุติธรรมนั้นยังสามารถเดินต่อไปได้ เนื่องจากศาลตัดสินยกฟ้องโดยมีผู้พิพากษา 2 ท่าน เป็นผู้พิจารณา 1 ท่านเห็นควรว่าไม่มีความผิด อีก 1 ท่านเห็นสมควรว่า "นายโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร นั้นมีความผิด" ฉะนั้นสิ่งที่สำนักงานอัยการสูงสุดนั้นต้องกระทำคือ ดำเนินการอุทธรณ์ตามความเห็นของ DSI เจ้าของคดี
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : ดีเอสไอ ยื่นเห็นแย้งมติอัยการไม่อุทธรณ์ คดีโอ๊ค ฟอกเงินกรุงไทย )
ทั้งนี้คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคพลังธรรมใหม่ มองว่า สุดท้ายแล้วสิ่งที่อัยการสูงสุด มีความเห็นในลักษณะดังกล่าว ถือว่าเป็นพฤติการณ์ไปในทางที่สังคมเกิดความสงสัยเกิดความเคลือบแคลง ถึงการใช้ดุลพินิจในการทำหน้าที่อยู่บนรากฐานที่สมเหตุสมผลหรือไม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้สำนักงานอัยการ ฯ ก็ได้มีการยืดระยะเวลาออกไปเป็นครั้งที่ 6 และศาลก็ได้อนุญาตให้มีการยืดระยะเวลาอุทธรณ์ออกไป จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2563 ยังพอมีเวลาอีกหลายวัน
"อัยการสูงสุดควรมีคำสั่งให้อุทธรณ์คดี แต่กลับมีความเห็นไม่อุทธรณ์ จึงเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล ประกอบกับก่อนหน้านี้ทางศาลก็ได้อนุญาตให้ขยายระยะเวลาการอุทธรณ์ออกไป ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ซึ่งยังมีเวลาแต่เหตุใดอัยการสูงสุดจึงรีบมีคำสั่งไม่อุทธรณ์ และเป็นการพิจารณาในตอนที่อัยการสูงสุดติดภารกิจต่างจังหวัด"
ฉะนั้นแล้ววันนี้สิ่งที่พรรคพลังธรรมใหม่ ได้มายื่นเรื่องต่อศาลปกครองฯ คือให้ศาลปกครอง พิจารณาเพิกถอนคำสั่งที่ไม่อุทธรณ์ในครั้งนี้ ว่าทางสำนักงานอัยการสูงสุดนั้น อาจจะพิจารณาได้อย่างที่ไม่สมเหตุสมผล และไม่ได้อยู่บนรากฐานของขบวนการกฎหมาย
"อยากให้อัยการสูงสุดบทบวนคำสั่งไม่อุทธรณ์ใหม่ โดยสามารถที่จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณา เช่นเดียวกับในอดีตที่นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุดในขณะนั้น มีคำสั่งตั้งคณะทำงานทบทวนกรณีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยการสูงสุด มีความเห็นไม่ฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ในคดีก่อการร้าย เพราะคดีของนายพานทองแท้ หลักฐานค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะความเห็นของดีเอสไอ และความเห็นของผู้พิพากษาเสียงข้างน้อย อย่างไรก็ตาม ทางพรรคพลังธรรมใหม่ กำลังพิจารณาว่าจะมีช่องทางใดที่จะดำเนินการได้อีก ซึ่งอาจจะมีการไปยื่น ป.ป.ช.เพื่อขอให้ตรวจสอบในประเด็นนี้ รวมทั้งการลงนามในคำสั่งไม่อุทธรณ์ของรองอัยการสูงสุดด้วยเหตุว่าอัยการสูงสุดไม่อยู่ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และสามารถทำได้หรือไม่"