อ.อัษฏางค์ ซัดตรง ช่อ พรรณิการ์ บิดเบือน สวมรอยเชียร์เลิก ม.112

ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม   ได้กล่าวถึงประเด็นข้อกังวลว่าด้วยพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคล ที่ยังคงกระทำการก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการหยิบยกกรณีการหายตัวไปของ   นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์  แอดมินเพจ  “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” มาปลุกระดมให้เกิดความเข้าใจผิด  ทั้ง ๆ ที่กรณีของนายวันเฉลิม ไม่ได้เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญามาตรา 112 แต่อย่างใด  

""สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกคนต้องสำนึกอยู่ในวันนี้ เรื่องการบิดเบือนสถาบัน มีกฎหมายมาตรา 112 ใช่หรือไม่ และไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ใช่มั้ย สิ่งที่อยากจะบอกคนไทยทุกคน วันนี้จะเห็นได้ว่ามาตรา 112 ไม่ได้ใช้เลย เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัว พระองค์ทรงพระเมตตาไม่ให้ใช้  นี่คือสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้แล้ว  แล้วคุณก็ละเมิดไปกันเรื่อยเปื่อยอย่างนี้ หมายความว่าอย่างไร คุณต้องการอะไรกัน เข้าใจมั้ย วันนี้ผมจำเป็นต้องพูด เพียงเพราะผมต้องการให้บ้านเมืองสงบ เข้าใจมั้ย" 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ :  นายกฯเหลืออด ฝ่ายต้านเหิมไม่หยุด ก้าวล่วงสถาบันฯ เผยครั้งแรก ในหลวง ทรงพระเมตตา รับสั่งไม่ให้ใช้ ม.112 ) 

อย่างไรก็ตามแม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์  จะเน้นย้ำว่ากรณีที่ไม่มีการนำข้อกฎหมายความผิดตามมาตรา 112  มาดำเนินคดีผู้กระทำการล่วงละเมิดสถาบันเบื้องสูง    ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัว  ทรงพระเมตตาไม่ให้ใช้  แต่ปรากฎว่า เป็นทางด้าน  "ช่อ -พรรณิการ์ วานิช"  แกนนำคณะก้าวหน้า  และ อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่  เลือกเคลื่อนไหวโดยการโพสต์ทวิตเตอร์  ข้อความว่า "เมื่อนายกฯบอกเองว่า  ทุกวันนี้ไม่ใช้ม. 112 แล้ว   และก็เป็นที่รู้กันมานานว่ากม.นี้มีปัญหา   ถูกใช้ละเมิดเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชน   จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะคงกม.นี้ไว้   รวมถึงควรมีการพิจารณากม.อื่นที่ถูกใช้ปิดปากผู้เห็นต่าง เช่นพ.ร.บ.คอมฯ ม.117 ข้อหายุยงปลุกปั่น #ยกเลิก112"

ก่อนที่จะมีโพสต์เพิ่มเติมว่า ขออภัยพิมพ์ผิด แก้ไขนะคะ ม.116 ค่ะ ข้อหายุยงปลุกปั่น เนื้อหากฎหมายเขียนไว้ตีความได้กว้างขวาง จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือปิดปากผู้ที่รัฐต้องการให้เงียบเสมอ"

จากกรณีดังกล่าว  นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการด้าน ประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "“พวกคุณเรียกร้องสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น  หรือสิทธิ์ในการหมิ่นประมาทผู้อื่น โดยเฉพาะการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กันแน่ เอาให้แน่ อย่าหมกเม็ด”  แสดงใจความสำคัญดังนี้

"ช่อ พรรณิการ์ สร้างวาทะ พูดขึ้นมาเอง  แต่อ้างว่านายกเป็นคนพูด   ความจริง สิ่งที่นายกพูดคือ...ม.112 ไม่ได้บังคับใช้มาหลายปีแล้ว เพราะในหลวงมีเมตตา   แต่ช่อ พรรณิการ์ เอาความจริงไปบิดเบือน โดยแอบอ้างว่า นายกพูดว่า...“ทุกวันนี้ไม่ใช้ ม.112 แล้ว เพราะเป็นที่รู้กันว่า กม. นี้มีปัญหาละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” บิดเบือนคำพูดกันชัดๆ

นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากให้สังคมไทยตระหนักว่าในรอบ 2-3 ปีมานี้ ไม่มีผู้ใดถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเลย

"สิ่งที่อยากจะบอกคนไทยทุกคน มาตรา 112 ไม่ได้ใช้เลย เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงพระเมตตา ไม่ให้ใช้ นี่คือสิ่งที่ท่านทรงทำให้แล้ว แล้วคุณก็ละเมิดกันไปเรื่อยเปื่อยแบบนี้ หมายความว่ายังไง ต้องการอะไรกัน วันนี้ผมจำเป็นต้องพูด เพราะต้องการให้บ้านเมืองสงบ"

ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยอยู่ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 บัญญัติไว้ว่า  "ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี”

ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ คนไทยหรือคนต่างด้าวไม่ว่ากระทำในหรือนอกราชอาณาจักรก็ต้องรับโทษ

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับเรื่อยมามีข้อที่กล่าวว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้"

กฎหมายคุ้มครองประมุขของรัฐนั้นไม่ได้มีเฉพาะเมืองไทย แต่ทุกประเทศ ทั้งที่ปกครองแบบราชอาณาจักรที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือปกครองแบบสาธารณรัฐ ที่มีประธานาธิบดี ก็ล้วนมีกฎหมายคุ้มครองประมุขของรัฐทั้งนั้น   โดยเฉพาะสถาบันพระมหาพระมหากษัตริย์ จะไม่มีการไปดำเนินคดีกับใคร จึงต้องมีกฎหมายที่ไม่ให้ใครล้วงละเมิดสถาบันฯ

แต่สิ่งที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองพยายามจะล้ม ม.112 เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตของคนไทย ถ้าคิดจะเปลี่ยนแปลงการปกครองให้ได้ ต้องล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ได้ด้วย จึงเป็นที่มาของความพยายามที่จะล้มเจ้า เพื่อล้มการปกครอง

มันไม่ได้เกี่ยวข้องสิทธิในการแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด เพราะทุกคนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอยู่แล้ว   แล้วทำไมใช้สิทธิ์ในแสดงความคิดเห็นทางเมืองไปเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแทน  สิทธิในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมันเกี่ยวอะไรกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

คุณกำลังเรียกร้องสิทธิในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งความจริงกฎหมายให้สิทธิ์นั้นอยู่แล้ว   ตกลงคุณเรียกร้องสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น หรือสิทธิ์ในการหมิ่นประมาทผู้อื่น โดยเฉพาะการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กันแน่ ...อย่ามั่ว!!