โชเฟอร์ เจอยกเลิกร่วมสัมปทานรถตู้

สืบเนื่องจากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ดังทั่วโซเชียลเน็ตเวิร์ก เมื่อคนขับรถตู้รายหนึ่ง ถีบหน้าแม่ค้าขายลอตเตอรี่ เนื่องจากโมโหว่า ขายเกินราคา ต่อมาแม่ค้าขายลอตเตอรี่ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในคิวรถตู้ไม่มีใครห้ามปราม ยังยืนคุยกันเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เว้นแต่คนขับรถตู้สูงอายุรายหนึ่งเข้าไปพยุงแม่ค้าลอตเตอรี่ และมีเพื่อนแม่ค้าเข้ามาดู หลังจากนั้นผู้เสียหายก็แจ้งความที่โรงพัก ทั้งนี้ เหตุผลการที่ไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือแม่ค้าตอนนั้น เพราะทุกคนไม่คิดว่าเรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้น อยู่ในช่วงที่ตกตะลึงกันอยู่

ขณะเดียวกัน บริษัทผู้รับสัมปทานเส้นทางได้แจ้งยกเลิกการเข้าร่วมของผู้ก่อเหตุแล้ว และในวันนี้ตำรวจจะเรียกผู้ก่อเหตุเข้าสอบปากคำ

ด้านแม่ค้าเปิดใจว่า ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นข่าวมาก อยากให้เลิกแล้วต่อกัน เพราะยังทำมาหากินอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี หากคนขับรถมาขอโทษตนก็ให้อภัย ส่วนวันนั้นตนพูดว่า "กว่าจะได้เงินนำจับนานจะตาย" ไม่ได้พูดว่า กว่าจะจับตายก่อนแต่อย่างใด อาจจะทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดได้ เพราะอยู่ห่างและสวมหน้ากากอนามัย ทำให้คำพูดไม่ชัดเจน

นอกจากนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้า ว่า มีรายงานจาก สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ผู้เสียหาย หญิง อายุ 59 ปีเดินเร่ขายลอตเตอรี่ อยู่ที่บริเวณบริษัทสุราษฎร์สหพันธ์ จำกัด ถ.ตลาดใหม่ ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีผู้ต้องหา เป็นชายอายุ 40 ปี นั่งอยู่ พูดขึ้นว่า ถ้าขายใบละหนึ่งร้อยบาท จะแจ้งตำรวจจับเอารางวัลนำจับ ผู้เสียหายจึงตอบว่า เงินค่านำจับมันเบิกยากจะตาย ไม่สามารถเบิกได้ง่ายๆ หรอก ทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจ จึงลุกขึ้นใช้เท้าขวาถีบที่บริเวณใบหน้าของผู้เสียาหายอย่างแรง จนกระเด็นหงายท้องล้มลงกับพื้น ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลฟกช้ำที่บริเวณปาก และบริเวณหน้าอก กระทั่งผู้เสียหายได้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ได้รับโทษตามกฎหมาย

พนักงานสอบสวน ได้ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจชันสูตรบาดแผลร่างกาย พร้อมสอบปากคำผู้เสียหายและพยานที่เห็นเหตุการณ์ ในเบื้องต้นทราบตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี ในความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่น โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

รอง โฆษก ตร. กล่าว่า ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ว่าการใช้กำลัง หรืออารมณ์ในการแก้ไขปัญหา อาจนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และนำไปสู่การละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมือง นอกจากจะส่งผลเสียต่อตนเองและผู้อื่นแล้ว อาจถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งทำให้ทั้งเสียเวลา และมีประวัติต้องโทษตามมา ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้

ทั้งนี้ ขอเรียนว่าช่องทางการแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิด สามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่นั้นๆ ได้ทันที โดยเจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งการจำหน่ายสลากกินแบ่งเกินราคากว่าที่กำหนด มีโทษปรับไม่เกินหนึ่ง 10,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ชายคนดังกล่าวทราบชื่อเล่นต่อมาคือ นายแดง เป็นเจ้าของรถตู้ที่เข้ามาขับร่วม ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทผู้รับสัมปทานได้ยกเลิกการเข้าร่วมแล้ว