อนค.แขวะศาลรธน.ยุบพรรค หยันสุดๆแยกร่างไม่มีวันสูญสลาย จับตารุกล้มรัฐ ธนาธร หนุนเต็มสูบ ยุเมินขู่ละเมิดสถาบันฯ

สืบเนื่องจากการที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH ซึ่งแปรสภาพมาจาก "สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย" หรือ สนท. โดยการนำของ เพนกวิน หรือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ , นางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ และนายชนินทร์ วงษ์ศรี เคลื่อนไหวทางการเมือง โดยการจัดการชุมนุมขับไล่รัฐบาลในสถานที่ต่าง ๆ พร้อม ๆ กับสิ่งปรากฎขึ้นจากแนวทางการปลุกระดม เชื่อมโยงไปถึงการนำเสนอชุดความคิดไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง รวมถึงป้ายเขียนล้มล้างระบอบกษัตริย์ และการใช้คำจาบจ้วง ล่วงละเมิด สถาบันเบื้องสูง อย่างไม่ยี่หระต่อข้อกฎหมาย ท่ามกลางกระแสเสียงเตือนให้ผู้กระทำอย่าหลงเป็นเหยื่อ ผู้อยู่เบื้องหลัง

สืบเนื่องจากการที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH ซึ่งแปรสภาพมาจาก  "สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย" หรือ สนท.   โดยการนำของ เพนกวิน  หรือ  นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ,  นางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์  และนายชนินทร์ วงษ์ศรี  เคลื่อนไหวทางการเมือง โดยการจัดการชุมนุมขับไล่รัฐบาลในสถานที่ต่าง ๆ   พร้อม ๆ กับสิ่งปรากฎขึ้นจากแนวทางการปลุกระดม  เชื่อมโยงไปถึงการนำเสนอชุดความคิดไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง  รวมถึงป้ายเขียนล้มล้างระบอบกษัตริย์   และการใช้คำจาบจ้วง  ล่วงละเมิด สถาบันเบื้องสูง อย่างไม่ยี่หระต่อข้อกฎหมาย ท่ามกลางกระแสเสียงเตือนให้ผู้กระทำอย่าหลงเป็นเหยื่อ  ผู้อยู่เบื้องหลัง 

 

อนค.แขวะศาลรธน.ยุบพรรค หยันสุดๆแยกร่างไม่มีวันสูญสลาย จับตารุกล้มรัฐ ธนาธร หนุนเต็มสูบ ยุเมินขู่ละเมิดสถาบันฯ

(คลิกอ่านข่าวประกอบ : บิ๊กตู่ ห่วงม็อบปลดแอก ระวังก้าวล่วงสถาบันฯ เชื่อคนไทยไม่ยอมให้เกิดซ้ำ )

ขณะที่   นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า  และ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่   กล่าวปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมดังกล่าว   ไม่เคยให้เงินเป็นค่าจ้างกลุ่มแกนนำ และเชื่อว่าการออกมาชุมนุมของกลุ่มคนเหล่านั้น ก็ไม่ได้รับอามิสสินจ้างจากใครด้วย แต่เป็นความเคลื่อนไหวเพื่อต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า


ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และการละเมิดสถาบันฯ  นายธนาธร  ระบุว่า ขอเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันปกป้องกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกเรียกร้องประชาธิปไตย   เพราะสิ่งที่เขาทำเพื่ออนาคตของประเทศ  หากไม่ปกป้องก็จะไม่มีใคร  ออกมาต่อสู้แทนประชาชนได้   เพราะถือเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความกล้าหาญ  พร้อมมองว่า การที่ออกมาข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีเป็นกลยุทธ์ของฝ่ายรัฐบาล   เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลัว   ไม่กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน

 

อนค.แขวะศาลรธน.ยุบพรรค หยันสุดๆแยกร่างไม่มีวันสูญสลาย จับตารุกล้มรัฐ ธนาธร หนุนเต็มสูบ ยุเมินขู่ละเมิดสถาบันฯ


(คลิกอ่านข่าวประกอบ : คณะก้าวหน้า โดดป้อง 2 ทีมระยองไล่ลุง ชาญวิทย์ ยกประวัติศาสตร์ พระเจ้าตากฯ เทียบเคียง


ประเด็นข้อพิจารณา และถือเป็นข้อคำถามจากสังคม  ก็คือ  คณะก้าวหน้า  และ พรรคก้าวไกล   ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก   ที่แตกตัวมาจาก สนท.  จริงหรือไม่ ??    


ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก  "พรรคก้าวไกล"     ก็มีการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก      โดยการประกาศเดินหน้าสนับสนุนให้สภาผู้แทนราษฎร   และ  รัฐบาล   รับฟังความคิดเห็นของกลุ่ม   นักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และกลุ่มพลังทางสังคมคนหนุ่มสาวที่อยู่นอกรั้วสถาบันการศึกษา โดยระบุว่าเป็นหน้าที่สภาและรัฐบาลต้องรับฟังและนำไปปฏิบัติต่อไป  พร้อมติดแฮชแท็กเดียวกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก #ให้มันจบที่รุ่นเรา


ขณะที่  "ช่อ พรรณิการ์  วานิช"   แกนนำคณะก้าวหน้า  และ  อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่   เพิ่งมีปัญหากับ  นายสิระ  เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ  ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร   ในประเด็นสืบเนื่องจากการวิสาระใช้ตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ  สื่อข้อมูลต่อสาธารณะจะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ   เข้ามาตอบคำถามกรณีการดำเนินคดีกับ นายภานุพงศ์ จาดนอก และ  นายณัฐชนน พยัฆพันธ์   ที่อ้างตัวเป็นกลุ่มเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย ภาคตะวันออก และเข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุมทางการเมือง  กับกลุ่มเยาวชนปลดแอกมาโดยตลอดต่อเนื่อง 

 

อนค.แขวะศาลรธน.ยุบพรรค หยันสุดๆแยกร่างไม่มีวันสูญสลาย จับตารุกล้มรัฐ ธนาธร หนุนเต็มสูบ ยุเมินขู่ละเมิดสถาบันฯ


(คลิกอ่านข่าวประกอบ :  เปิดเบื้องหลัง สิระ เดือด ตะเพิด ช่อ พรรณิการ์ พ้นที่ปรึกษากมธ.กฎหมาย

อีกด้านหนึ่ง   เพจเฟซบุ๊ก "อนาคตใหม่ - Future Forward" โพสต์ข้อความ มีสาระบางช่วงตอน ยืนยันความเชื่อมโยงทางการเมืองระหว่าง พรรคก้าวไกล กับ พรรคอนาคตใหม่   ว่า   "5 เดือนยุบพรรคอนาคตใหม่ สุดท้าย “ฆ่าไม่ตาย” กลายเป็น “พรรคก้าวไกล” โดดเด่นในสภา - “คณะก้าวหน้า” ลุยเขย่าเลือกตั้งท้องถิ่น    วันนี้เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ 

 

อนค.แขวะศาลรธน.ยุบพรรค หยันสุดๆแยกร่างไม่มีวันสูญสลาย จับตารุกล้มรัฐ ธนาธร หนุนเต็มสูบ ยุเมินขู่ละเมิดสถาบันฯ

 

 

 

 

โดยมีคน 7 คนใส่ชุดครุยแล้วขึ้นไปนั่งอยู่บนบัลลังก์  กระทำการในนามของศาลรัฐธรรมนูญลงมติเสียงข้างมากให้ยุบพรรคอนาคตใหม่    5 เดือนผ่านไป ภายใต้การปกครองของรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจ  แต่อุดมการณ์แบบ “พรรคอนาคตใหม่” ไม่ได้สูญสลายหายไปไหน และตรงกันข้ามคือ ได้แบ่งออกเป็น 2 ขา และทำงานอย่างหนักแน่นเช่นเดิม

 

 

ขาที่หนึ่ง พรรคก้าวไกล โดย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 54 คน ทำงานในสภาฯ อย่างแข็งขัน ประเดิมการอภิปรายครั้งแรกด้วย  พ.ร.ก. 3 ฉบับ ที่ออกมาเพื่อฟื้นฟูและช่วยเหลือเยียวยาประชาชน จากกรณีการระบาดของโควิด -19  ต่อด้วยเวทีที่ได้รับเสียงชื่นชมจากสังคม คือ กรณีการอภิปราย  ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554

 


 
ขาที่สอง คณะก้าวหน้า ถึงตอนนี้ประกาศชัดแล้วว่าจะลุยเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่น ชูสโลแกน  “เปลี่ยนประเทศไทย เริ่มต้นได้ที่บ้านเรา” ตั้งเป้าส่งผู้สมัครนายกองค์การบริหารการปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)  ไม่ต่ำกว่า 4,000 แห่ง ทุกระดับทั่วประเทศ โดยเปิดรับสมัครผู้เสนอตัวแล้วทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. - 15 ส.ค. นี้ ขณะเดียวกัน แกนนำคณะก้าวหน้าก็เริ่มเดินสายพบปะประชาชนทั่วประเทศ เพื่อรับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะต่างๆ จากพื้นที่มาใช้ออกแบบนโยบาย

 

 

ยุบพรรคอนาคตใหม่ สุดท้าย “ฆ่าไม่ตาย” กลายเป็น พรรคก้าวไกล - Move Forward Party โดดเด่นในสภา  กับ คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ลุยเขย่าเลือกตั้งท้องถิ่น    อุดมการณ์แบบอนาคตใหม่ยังอยู่ ทั้งสองขายังคงก้าวเพื่อสานต่อภารกิจให้สำเร็จลุล่วง

 

อนค.แขวะศาลรธน.ยุบพรรค หยันสุดๆแยกร่างไม่มีวันสูญสลาย จับตารุกล้มรัฐ ธนาธร หนุนเต็มสูบ ยุเมินขู่ละเมิดสถาบันฯ

 

ก่อนหน้านั้น ดร.นิว ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา  โพสต์แสดงความเห็นปฏิกริยาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ว่า  #เยาวชนปลดแอกไม่ใช่ม็อบมุ้งมิ้ง

 

 

พลังนักศึกษาเป็นพลังที่บริสุทธิ์ แต่สำหรับ #เยาวชนปลดแอก กลับถูกนักการเมืองทำให้แปดเปื้อน เพราะขนาดแค่ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลยังสามารถดูออกได้อย่างง่ายดายเลยว่าไม่ใช่ข้อเรียกร้องของประชาชน หากแต่เป็นข้อเรียกร้องของนักการเมืองที่สูญเสียอำนาจและอยากกลับมามีอำนาจอีกครั้ง

 


ข้อเรียกร้องหยุดคุกคามประชาชนก็เป็นเรื่องการเมืองที่ไม่ควรถูกนำมาเหมารวมแล้วยัดเยียดให้เป็นปัญหาของประชาชนส่วนใหญ่ เพราะไม่เห็นว่ารัฐบาลจะไปคุกคามใครหรือประชาชนทั่วไป แต่เป็นการบังคับใช้กฎหมายกับนักเคลื่อนไหวที่เป็นลิ่วล้อนักการเมืองจำนวนหนึ่งที่ได้ใช้สิทธิเสรีภาพจนเกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนดจนกลายเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมาย ในส่วนข้อเรียกร้องให้ยุบสภากับแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากการลงประชามติ นี่ยิ่งชัดเจนเลยว่านักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังและมุ่งหวังต่ออำนาจทางการเมืองจะได้รับประโยชน์เต็มๆในแทบจะทันที ประโยชน์ส่วนใหญ่ของข้อเรียกร้องเหล่านี้จึงเป็นของนักการเมืองที่เป็นนักเลือกตั้ง ไม่ใช่ประโยชน์ของประชาชน

 


ในแง่ของปรากฏการณ์ก็ปฏิเสธได้ยากว่าไม่มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง มี ส.ส.พรรคก้าวไกลบางคนลงพื้นที่สนับสนุนอย่างชัดเจน มีอดีตคนสำคัญในพรรคอนาคตใหม่หลายคนเกี่ยวข้อง บ้างก็ลงพื้นที่เอง บ้างก็ใช้โซเชียลมีเดียปลุกระดมสนับสนุนในนามของคณะก้าวหน้า รวมทั้ง ส.ส.พรรคฝ่ายค้านเองหลายคนก็ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุน นอกจากนี้เหล่าแกนนำเยาวชนปลดแอกส่วนมากก็เป็นคนหน้าตาเดิมๆที่เคลื่อนไหวอยู่เป็นประจำร่วมกับเครือข่ายของพรรคอนาคตใหม่มาแต่เดิมหรือก่อนหน้านั้น และที่แย่ที่สุดคือมีเครือข่ายล้มล้างการปกครองแฝงตัวอยู่ด้วย ทั้งขบวนการคอมมิวนิสต์หลงยุคที่สามารถเห็นได้จากคำว่า “ปลดแอก” ซึ่งเป็นคำโบราณของขบวนการคอมมิวนิสต์ในอดีตที่ส่อไปในทางที่รุนแรง และขบวนการสาธารณรัฐที่เข้ามาผสมโรงถือป้ายหมิ่นสถาบันอยู่ในม็อบกันอย่างโจ๋งครึ่ม

 


สิ่งเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าม็อบเยาวชนปลดแอกเป็นการยืมมือนักศึกษาที่เป็นพลังบริสุทธิ์มารับใช้นักการเมืองและขบวนการล้มล้างการปกครองหัวรุนแรง มันจึงเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ขบวนการทำแนวร่วมที่มีนักปลุกปั่น (Demagogue) และนักใช้กฎหมู่ (Ochlocrat) พยามใช้นักศึกษาเป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยอาศัยการปั่นกระแสในโลกโซเชียล เพราะถ้าถูกดำเนินคดีหรือเกิดความรุนแรงตามที่ผู้อยู่เบื้องหลังต้องการ ผู้ที่เสียหายก็คงหนีไม่พ้นนักศึกษาที่ถูกทำแนวร่วม และความบริสุทธิ์ของนักศึกษาก็มักตกเป็นเหยื่อของขบวนการเหล่านี้เสมอมาตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่ผู้ที่หลอกใช้อยู่เบื้องหลังไม่เคยต้องเป็นอะไร หรือรับผลของการกระทำใดๆ

 

 

การชักใยอยู่เบื้องหลังในแนวทางที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแอบแฝงการล้มล้างการปกครองที่รุนแรง มีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นและกฎหมาย จึงไม่ใช่การเคลื่อนไหวตามแนวทางประชาธิปไตยที่สันติ หากแต่เป็นขบวนการหลอกใช้เยาวชนและนักศึกษาเป็นเครื่องมือแย่งชิงอำนาจทางการเมืองในรูปแบบของเผด็จการโดยใช้กฎหมู่ (Ochlocracy) ที่เป็นการบีบบังคับคนส่วนใหญ่ด้วยการก่อม็อบ (Mob Rule) นำไปสู่ความรุนแรงอย่างที่ผู้อยู่เบื้องหลังต้องการ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่และการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประโยชน์โดยตรงต่อนักการเมืองที่เป็นนักเลือกตั้ง อีกทั้งยังแฝงเร้นไปด้วยขบวนการสาธารณรัฐที่หวังใช้ความรุนแรงทำให้สถานการณ์บานปลายไปสู่การล้มล้างการปกครองอีกด้วย

 

 

น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่เยาวชนปลดแอกซึ่งเป็นพลังบริสุทธิ์ของนักศึกษาที่หวังดีต่อบ้านเมืองและรักในประชาธิปไตยกลับถูกนักการเมืองและแกนนำที่เป็นลิ่วล้อนักการเมืองทำให้แปดเปื้อนจนกลายเป็นเผด็จการกฎหมู่ที่เสียสติมากพอที่คนจำนวนเพียงไม่กี่พันออกมาโวกเวกโวยวาย มีการใช้คำหยาบคาย ลุแก่ความคึกคะนองและความหลงผิดในสิทธิเสรีภาพของตนจนลืมตระหนักถึงสิทธิเสรีภาพของคนส่วนใหญ่ เอาความต้องการของตนมาบีบบังคับตัดสินชะตาของคนทั้งประเทศ แอบอ้างเสียงของคนกว่า 60 ล้านคนเพื่อทำอะไรตามอำเภอใจ

 

มาจนป่านนี้ก็ยังไม่เคยเห็นกลุ่มคนที่แอบอ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจะเคยรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 50,000 คน มายื่นเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 ซึ่งเป็นวิธีการทางประชาธิปไตยที่ถูกต้องและชอบธรรมที่สุดภายใต้กฎหมายและเป็นสันติวิธีเลยแม้แต่ครั้งเดียว สุดท้ายคนพวกนี้ก็แค่นักปลุกปั่นทางการเมือง เป็นลัทธิประชาธิปไตยแต่ปาก แต่การกระทำไร้สาระยิ่งกว่าเด็กอมมือที่เอาแต่คอยระดมปลุกปั่นโดยใช้โลกโซเชียลหวังหลอกใช้มวลชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง

 

 

พอกันทีสำหรับวิธีการแบบโบราณๆที่ออกมากล่าวหาผู้อื่นว่าเขาเป็นเผด็จการ แต่แล้วตัวเองกลับใช้วิธีการเผด็จการโดยใช้กฎหมู่ในการต่อต้านเผด็จการ เพราะความเป็นกฎหมู่แบบนี้มันยังไม่มีความชอบธรรมมากพอที่จะมาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากลงประชามติ นี่น่ะหรือคือประชาธิปไตย? เรื่องง่ายๆแค่นี้ยังไม่เข้าใจแล้วแบบนี้จะสามารถสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงได้อย่างไร?

 

 

เรามาใช้วิธีการทางประชาธิปไตยของผู้ที่เจริญแล้วอย่างสันติ ไม่เสี่ยงต่อความรุนแรงใดๆ และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ด้วยมาตรา 256 กันดีกว่า แค่ 50,000 รายชื่อเองนะ จะกลัวอะไร? หรือพวกคุณมีกันไม่ถึง 50,000 คน?

 

อนค.แขวะศาลรธน.ยุบพรรค หยันสุดๆแยกร่างไม่มีวันสูญสลาย จับตารุกล้มรัฐ ธนาธร หนุนเต็มสูบ ยุเมินขู่ละเมิดสถาบันฯ

 

 

อนค.แขวะศาลรธน.ยุบพรรค หยันสุดๆแยกร่างไม่มีวันสูญสลาย จับตารุกล้มรัฐ ธนาธร หนุนเต็มสูบ ยุเมินขู่ละเมิดสถาบันฯ

 

อนค.แขวะศาลรธน.ยุบพรรค หยันสุดๆแยกร่างไม่มีวันสูญสลาย จับตารุกล้มรัฐ ธนาธร หนุนเต็มสูบ ยุเมินขู่ละเมิดสถาบันฯ

 

 

อนค.แขวะศาลรธน.ยุบพรรค หยันสุดๆแยกร่างไม่มีวันสูญสลาย จับตารุกล้มรัฐ ธนาธร หนุนเต็มสูบ ยุเมินขู่ละเมิดสถาบันฯ