รองโฆษกตร.เปิดตัวหนุ่มใหญ่อาละวาด ทำลายคอมพ์สนามบินดอนเมือง

สืบเนื่องจากที่มีคลิปที่ชาวเน็ตกำลังให้ความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อเกิดเหตุการณ์ชายหญิงคู่หนึ่งเดินมาถึงเกต (Gate) หรือทางออกที่สนามบินดอนเมืองเพื่อเครื่องบินช้า จนกระทั่งทั้งคู่ตกเครื่อง และมีการโวยวายต่อว่าพนักงานว่า "มาช้าไป 30 วินาที ก็ปิดประตูไม่ให้ขึ้น จนทำให้ตกเครื่อง" ก่อนที่ฝ่ายชายจะหยิบหน้าจอคอมพิวเตอร์ขึ้นมาปาทิ้งจนพังเสียหาย
 

โดยเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ Travel ได้แชร์คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมระบุว่า "ที่เกิดขึ้นช่วงเย็นที่สนามบินดอนเมือง เมื่อมีชายหญิงคู่หนึ่งเดินทางมาสนามบินช้า ทำให้ตกเครื่อง ก่อนมีภาพโวยวายพนักงาน เคยเป็นคนในเครื่องแบบสีกากี ยศระดับนายพัน มาช้า ตกเครื่อง โมโหทำลายคอมของสายการบิน ณ.สนามบินดอนเมือง วันนี้ เวลาประมาณ18.00 ฝาก ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบด้วย วุฒิภาวะแบบนี้สมควรไหม กับคำว่าข้าราชการไทย"

นอกจากนี้ โพสต์ดังกล่าวมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยต่างแสดงความไม่เห็นด้วยกันการกระทำดังกล่าว พร้อมแนะนำให้มาก่อนเวลาขึ้นเครื่อง 2 ชั่วโมง และมานั่งรอที่หน้าเกต เพราะการขึ้นเครื่องบินไม่เหมือนรถทัวร์หรือรถไฟที่สามารถมาขึ้นรถใกล้เวลาเดินทางได้

ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อนำเสนอข่าว ดราม่าเดือด! ตร.ยศนายพัน มาช้า-ตกเครื่อง โวยลั่นสนามบิน พังคอมพ์ พนง. นั้น ได้รับรายงานจาก บช.ภ.4 จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าชายที่ปรากฏในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ เคยดำรงตำแหน่ง ในสังกัด สภ.นามน ภ.จว.กาฬสินธุ์ ซึ่งต่อมาได้ขอลาออกจากราชการไปเมื่อปี พ.ศ.2557 เพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัว

ทั้งนี้รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ผู้ก่อเหตุรายดังกล่าวนั้นเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ ในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการกระทำส่วนตัวของผู้ก่อเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด ในส่วนของการดำเนินคดีก็คงต้องให้พนักงานสอบสวนว่าไปตามพยานหลักฐานและความผิดตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง

โดยขณะนี้หน่วยงานที่ได้รับความเสียหายได้มาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว

สำหรับกรณีนี้ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่อยากให้เหมารวมทั้งหมดและอยากให้เป็นอุทาหรณ์ในการใช้อารมณ์เหนือเหตุผล แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ของท่าอากาศยาน หรือ ความปลอดภัยของการบิน ประกอบกับ การทำลายสิ่งของ อุปกรณ์ของผู้อื่นทำให้เกิดความเสียหายนั้นก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมายบ้านเมืองอีกส่วนหนึ่งด้วย