- 16 ส.ค. 2563
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนโลกโซเชียลเวลานี้ จากกรณีที่ นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ใช้พื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงข้อกล่าวหาที่ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ต้องในคดีอาญามาตรา 112 แล้วหลบหนีคดีไปอาศัยในต่างประเทศ และทางกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ใช้คลิปแสดงบนเวทีชุมนุมก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ออกมาบิดเบือนใส่ร้ายในหลายปมประเด็น รวมถึงการกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชั่น
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนโลกโซเชียลเวลานี้ จากกรณีที่ นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ใช้พื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงข้อกล่าวหาที่ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ต้องในคดีอาญามาตรา 112 แล้วหลบหนีคดีไปอาศัยในต่างประเทศ และทางกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ใช้คลิปแสดงบนเวทีชุมนุมก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ออกมาบิดเบือนใส่ร้ายในหลายปมประเด็น รวมถึงการกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชั่น
โดยระบุข้อความว่า "ขอชี้แจงเรื่องตอนที่ผมเป็นทูตที่อาร์เจนตินา ตามที่ปวินกล่าวหา ผมมีผู้ติดตามไปด้วย 2 คน ชื่อ โต กับ ปาล์ม ซึ่งเป็นสิทธิ์ตามกฏหมายของคนที่ไปเป็นทูตทุกคน โดยทั้ง 2 คนทำหน้าที่ พ่อครัว และ ผู้ช่วยทำงานในทำเนียบทูต
ซึ่งนอกจากต้องทำหน้าที่ทุกอย่างในสถานทูต ตั้งแต่ทำครัว เสริ์ฟ รวมทั้งดูแลด้านระบบ IT ของสถานทูตด้วย ซึ่งทุกคนมี term of reference ว่ามีหน้าที่ทำอะไร และทุกคนต้องทำงานตามหน้าที่ๆได้รับมอบหมาย สมตามเงินเดือนที่เป็นภาษีของประชาชนทุกประการ เรื่องนี้คนที่เคยไปอาร์เจนตินาและพักที่สถานทูตคงทราบและยืนยันได้ว่า ผู้ติดตามผม 2 คนนั้น มิได้ไปอยู่เฉยๆ
มีครั้งนึงที่ผมต้องเปิดบ้านให้คณะทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยที่ไปแข่งที่อาร์เจนตินามานอนที่ทำเนียบทั้งนักกีฬา โค้ช จนท.ประจำทีม ผมก็ได้ โต กับ ปาล์ม ทั้งสองคนเนี่ยแหละที่ต้องทำงานหนัก ดูแลคณะทั้งหมด เพราะลำพังผมคนเดียวคงทำไม่ได้
ถึงขนาดที่พี่ดำรง พุฒตาล ซึ่งไปพักอยู่กับผมในช่วงนั้นที่อาร์เจนตินา ได้เคยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ติดตามของผมลงในหนังสือคู่สร้างคู่สมมาแล้ว โดยพี่ดำรงมองเห็นว่ากรณีของผู้ติดตามผมจะได้เป็นกรณีศึกษาให้กับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการได้เห็นโลกกว้าง หลักฐานมีปรากฏยังหาอ่านกันได้
ในช่วงผมอยู่อาร์เจนตินา ผมจัดงานใหญ่หลายหน เช่น งานวันชาติ งานวันแม่ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิง งานวันพระองค์พีระ งาน ASEAN BAZAAR ที่สถานทูต รวมทั้งต้องจัดงานเลี้ยงคณะทูตานุทูตเป็นประจำในฐานะที่ผมได้รับคัดเลือกเป็นประธานกลุ่ม ASEAN นอกจากนี้ก็ต้องจัดงานกับชุมชนไทย ดูแลนักเรียนไทย AFS ที่มาเรียน เพราะผมต้องดูแลเขาเหมือนลูกหลาน
และเฉกเช่นผู้ติดตามผมทั้ง 2 คน โต กับ ปาล์ม เขายังอายุไม่มาก ตอนแรกมีคนบอกว่าทำไมไม่เอาผู้ใหญ่ แต่ผมเป็นคนให้โอกาสคน จึงเลือกให้โอกาสเขาได้มีประสบการณ์ในโลกกว้าง และที่สำคัญที่สุดที่ผมเลือกเขามา เพราะผมถือว่าเขาเป็นเหมือน “ลูกหลาน” ผม พ่อแม่เขาทั้งสองก็ฝากผมมาให้ช่วยดูแลสั่งสอนด้วย
ผมไม่ได้คิดว่าเขาเป็นแค่ลูกจ้าง แต่ผมมองเขาแบบที่ผู้ใหญ่คนนึงมองลูกหลาน ซึ่งทั้งหมดนี้ โต กับ ปาล์ม คงยืนยันได้ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ทั้งสองคนก็ได้ไปใช้ชีวิตไปเรียนและทำงานที่ออสเตรเลีย ผมก็ยังถือว่าเขาทั้งสองได้ไปถึงฝั่งตามที่เขาต้องการและผมก็ดีใจที่เป็นส่วนนึงที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในฐานะลูกหลานของผมเช่นกัน
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆที่ใครอาจจะมองแล้วสรุปโดยใช้แง่มุมของตัวเองเป็นบรรทัดฐานตัดสินคนอื่น แต่ทั้งหมดที่ผมทำมีหลักฐานยืนยันได้ทุกบาททุกสตางค์ ไม่มีการเอาเปรียบแผ่นดินแต่อย่างใด
ส่วนหลักฐานมูลค่าทางการค้าระหว่างไทยและอาร์เจนตินาช่วงที่ผมเป็นทูต ถึงแม้ว่าอาจไม่มากเท่าประเทศอื่น แต่ที่แน่ๆคือ ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ได้ดุลย์การค้ากับอาร์เจนตินาตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ที่นั่น และมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ผมไม่อาจที่จะเปลี่ยนแปลงการนินทา หรือ การใส่ร้ายของใครได้ แต่สิ่งที่ผมทำผมรู้อยู่ในใจว่าผมทำอะไร และไม่เคยเอาเปรียบแผ่นดินแน่นอน"
ประเด็นสำคัญปรากฎพบว่าในโพสต์ของนายปวิน ปรากฎข้อความเม้นต์ของ นายสุทธิพงศ์ หรือ ฮาร์ท ทัดพิทักษ์กุล อดีตนักร้องดูโอ้ "เบิร์ดกะฮาร์ท" ได้มาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะบิดเบือน กล่าวหาเพิ่มเติม ส่งผลให้ ทูตนริศโรจน์ ตัดสินใจจะดำเนินการตามข้อกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในการหมิ่นประมาทให้เกิดการดูถูกเกลียดชัง โดยการโพสต์ถึงกรณีดังกล่าวว่า "คุณฮาร์ทและเพื่อนๆคอยรับหมายนะครับ"
ก่อนจะเพิ่มเติมข้อมูลว่า "ขอแจ้งให้เพื่อนๆทราบว่าทางทนายของผมขยันมาก ได้เตรียมคำฟ้องมิใช่แค่นักร้องเท่านั้น แต่ได้เผื่อแผ่ไปยังคนอื่นๆที่เม้นท์อีกหลายคนด้วย รวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 8 ชีวิต !!!ศึกนี้ห้ามกระพริบตาครับ#สู้โว้ย !!!#ศึกวันทรงชัย#ไดโนเสาร์กระทืบเหี้ย"
"สำหรับเพื่อนที่สงสัยถามว่าคนที่เข้าไปเม้นท์หมิ่นประมาทผมในเพจของปวินนั้น ถ้าเขาลบไปแล้วจะทำอย่างไร ขอเรียนให้ทราบว่า ทนายของผมได้แค๊ปลิงค์ พร้อมถ่ายวีดิโอที่ติด URL ของคนที่โพสต์ทุกคนซึ่งเป็นหลักฐานที่จำเป็นสำหรับศาลใช้พิจารณา เตรียมไว้เรียบร้อยสมบูรณ์แล้วครับ ไม่ต้องห่วงผม ....ห่วงพวกนั้นแทนเถอะ"
"พรุ่งนี้ บ่าย 4 สน.....ใครอยากมาช่วยเป็นพยาน หรือแวะมาให้กำลังใจ เชิญหลังไมค์ครับ สำนวนคำฟ้อง พร้อมลิงค์ (ถึงจะลบก็แค๊ปไว้ก่อนแล้ว ) พร้อมสมบูรณ์เตรียมส่งมอบ จนท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี งานนี้พร้อมมากทั้งพยานเอกสาร และพยานบุคคลที่เคยไปอาร์เจนตินาซึ่งได้เห็นการทำงานของผู้ติดตามของผมทั้ง 2 คนว่าเขาทำงานกันอย่างไร รวมทั้งพยานใน FB ที่ได้อ่านเห็นการหมิ่นประมาท และคอยแค๊ป/ส่งลิงค์มาให้ งานนี้ไม่ได้มาเล่นๆ ไม่มียอมความโดยเด็ดขาด"
นอกจากนี้ ทูตนริศโรจน์ยังระบุด้วยว่า "ผมดีใจอย่างหนึ่งที่ผมมีกัลยาณมิตรที่ดี ส่งกำลังใจมาให้เพียบ มีหลายคนบอกจะขอไปเป็นพยานในการฟ้องร้องให้ แต่ที่ดีใจที่สุดคือ มี นศ.มธ.ที่เคยไปฝึกงานที่สถานทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา และนักเรียน AFS บางคนที่ผมเคยดูแล ก็บอกพร้อมจะมาช่วยผม เพราะเด็กๆเหล่านี้เคยมาพัก เคยมาทานข้าวที่บ้านผม และเขารู้จักผู้ติดตามผม โต และ ปาล์ม เขาเห็นด้วยตาของเขาเองว่า ผู้ติดตามผมไม่ได้มากินเงินหลวงอยู่ฟรีตามที่ปวินกล่าวหา เขาทำงานตามหน้าที่โดยมิได้ขาดตกบกพร่องแค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว"