- 25 ก.ย. 2563
ลุกลามไปกันใหญ่จริงๆ กับการเมืองในประเทศไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลุ่ม ธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยใช้ชื่อการชุมนุมว่า “19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร” ที่ผ่านพ้นไปนั้น เกิดผลเสียตามมามากมาย เนื่องจากการชุมนุมดังกล่าวได้ทำการ ปักหมุดคณะราษฎร ลงในพื้นที่ท้องสนามหลวง จนทำให้มีปัญหาต่างๆ ตามมากมาย แต่ทว่า เหล่าแกนนำก็ยังไม่สทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้น ยังคงเดินหน้าตามเจตนารมณ์ของตนเองต่อเนื่อง
ลุกลามไปกันใหญ่จริงๆ กับการเมืองในประเทศไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลุ่ม ธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยใช้ชื่อการชุมนุมว่า “19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร” ที่ผ่านพ้นไปนั้น เกิดผลเสียตามมามากมาย เนื่องจากการชุมนุมดังกล่าวได้ทำการ ปักหมุดคณะราษฎร ลงในพื้นที่ท้องสนามหลวง จนทำให้มีปัญหาต่างๆ ตามมากมาย แต่ทว่า เหล่าแกนนำก็ยังไม่สทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้น ยังคงเดินหน้าตามเจตนารมณ์ของตนเองต่อเนื่อง
แต่ล่าสุดกลับมีเรื่องทำให้ รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงกับต้องออกมาปรามอย่างเร่งด้วย ซึ่งรศ.หริรักษ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "กำลังรู้สึกหายเหนื่อย ที่ต้องใช้เวลา เรียบเรียงความคิด เพื่อเขียนโพสต์เมื่อวานให้เข้าใจง่าย เพราะมีคนกด like กว่า 2 พันคน และมีคนกด share กว่า 1 พันคน แต่แล้วก็ต้องรู้สึกอึ้ง และหดหู่ เมื่อเห็นโพสต์ของคุณรุ้ง ปนัสยา เช้านี้ โพสต์ของคุณรุ้งเป็นโพสต์ถึงคุณชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และสว.ทั้งหมด เกี่ยวกับผลการลงมติของรัฐสภา เรื่องญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า
“ถึงชวน หลีกภัยและสว.ทุกคนนะคะ .......... ค่ะ”
คำที่เว้นว่างไว้เพราะ เป็นคำหยาบ ไม่สามารถลงได้นะครับ ถ้ายังไม่เห็นแล้วอยากเห็น ก็ไปหาดูจากที่อื่นแล้วกัน โพสต์ของคุณรุ้ง มีคนกด like ถึงกว่า 5 พัน มีคนแชร์กว่า 1 พัน คุณชวน หลีกภัย เป็นนักการเมือง และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีประวัติการทำงานที่ใสสะอาด ปราศจากความด่างพร้อยทั้งปวง ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป และเป็นศิษย์เก่าอาวุโส ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภาของคุณชวน ได้รับการยอมรับว่า ทำได้อย่างดีเยี่ยม ทันเกม แม่นกฎ แม่นระเบียบ ควบคุมการประชุมได้อย่างแทบไม่มีที่ติ อีกทั้งยังมีมุข ที่เฉียบคม ทำให้ที่ประชุมที่กำลังตึงเครียด ผ่อนคลายลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ที่สำคัญคือ คุณชวนมีความเป็นกลางสูงมาก
เช้านี้ น่าเศร้า ที่มีนักศึกษาธรรมศาสตร์รุ่นหลานคนหนึ่ง โพสต์ข้อความถึงคุณชวนด้วยคำหยาบคายเช่นนี้ เพียงเพราะมติที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของสภา ออกมาไม่ถูกใจพวกเขา หวังว่า ผู้ที่กด like กด share จำนวนมาก จะไม่ใช่คนจริงทั้งหมด เพราะหากคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เห็นดีเห็นงามกับพฤติกรรมของคุณรุ้งครั้งนี้ เราจะฝากบ้านเมืองให้อยู่ในมือพวกเขาในอนาคตได้หรือ
อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า ยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ ไม่ได้ติดตาม ยิ่งไม่ได้ศึกษา เรื่องการขอแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ จึงอาจไม่เข้าใจเรื่องนี้อย่างถ่องแท้
โพสต์ของผมครั้งต่อไป จึงจะเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพื่อให้ท่านที่ติดตาม ได้เข้าใจได้ชัดเจนขึ้น
คอยติดตามนะครับ"
สำหรับ นายชวน หลีกภัย เป็นถึงนักการเมืองรุ่นลายครามแห่งพรรคประชาธิปัตย์สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการการเมืองไทย เมื่อเป็นนักการเมืองคนแรกของประเทศไทยที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารและประมุขฝ่ายนิติบัญญัติถึงตำแหน่งละ 2 สมัย ดังนี้
- นายกฯ สมัยแรก 23 ก.ย. 35 – 12 ก.ค. 38
- นายกฯ สมัยสอง 9 พ.ย. 40 – 9 ก.พ. 44
- ประธานสภาฯ สมัยแรก 4 ส.ค. 29 – 29 เม.ย. 31
- ประธานสภาฯ สมัยสอง
อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 20 ของเมืองไทย เป็นนักการเมืองที่ได้รับการยอมรับนับถือให้เป็นบุคคลต้นแบบในแง่ความซื่อสัตย์สุจริตและการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย โดยในวัย 80 ปี จะครบ 81 ปีในวันที่ 28 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ชวน หลีกภัย เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มาแล้ว 16 สมัย อยู่ในสภาอันทรงเกียรติมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ปี นอกจากจะเคยนั่งบัลลังก์เป็นประธานสภาฯ มาแล้วครั้งหนึ่ง ยังเคยเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ มาแล้ว 3 สมัย
ในฝ่ายบริหาร นอกจากจะเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมา 2 สมัย ยังเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งว่าการและช่วยว่าการรวมแล้ว 7 กระทรวง ได้แก่ ยุติธรรม พาณิชย์ เกษตรและสหกรณ์ ศึกษาธิการ สาธารณสุข สำนักนายกรัฐมนตรี และกลาโหม พ่วงท้ายด้วยการเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 5 แต่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดถึง 12 ปี
จะเห็นได้ว่าแค่ไล่เรียงประวัติอย่างย่อๆ ยังยาวเป็นหางว่าวขนาดนี้ คงไม่ต้องสงสัยเรื่องความเชื่อมั่นศรัทธาที่บุคคลในแวดวงการเมืองจะมอบให้ ชนิดที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าที่พรรคพลังประชารัฐยอมยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้เป็นของคนจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลคนนั้นต้องชื่อ ชวน หลีกภัย ขณะที่มีกระแสข่าวเพิ่มเติมด้วยว่าในวุฒิสภาก็ยอมรับและยินดีที่จะได้เห็นนายหัวชวนนั่งในตำแหน่งประธานรัฐสภา
คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของนักการเมืองผู้คร่ำหวอดในวงการเมืองจากเมืองตรังคือ ฝีปากการอภิปรายอันคมกริบ หรือที่สื่อมวลชนเคยให้คำนิยามว่า ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง คือภายใต้การพูดจาที่สุภาพนิ่มนวล แต่ในบางครั้งกลับมีถ้อยคำที่เชือดเฉือนคนฟังชนิดกระอักเลือดได้เลย
วาทะของนายชวนที่เรียกเสียงลือลั่นสนั่นไปทั่วปฐพี หากจะให้ยกมา ณ ที่นี้คงจะยาวเกิน แต่ Sanook! News ขอหยิบมาหนึ่งวลีที่ยังคงอยู่ในหัวเมื่อนึกถึงนายชวนนั่นคือ เมื่อครั้งที่นายทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แล้วเดินหน้าทำตามนโยบายต่างๆ อย่างชนิดไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ไม่ฟังฟังเสียงคำท้วงติงไม่ว่าจะจากใครก็ตาม ครั้นสบโอกาสที่นักข่าวถามถึงประเด็นดังกล่าว นายชวนกล่าวเพียงสั้นๆ แต่ลึกซึ่งในความหมายว่า "เป็นห่วงว่าหากท่านทำอย่างนี้... ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่"