- 17 ต.ค. 2563
ต้องบอกเลยว่าทุกวันนี้การออมเงินเป็นเรื่องจำเป็น เพราะไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก “สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7” ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการออมเพื่อรับเงินบำนาญที่รัฐบาลได้มีโครงการออกมาให้ประชาชนคนไทยทุกคน โดยระบุข้อความไว้ดังนี้
ต้องบอกเลยว่าทุกวันนี้การออมเงินเป็นเรื่องจำเป็น เพราะไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก “สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7” ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการออมเพื่อรับเงินบำนาญที่รัฐบาลได้มีโครงการออกมาให้ประชาชนคนไทยทุกคน โดยระบุข้อความไว้ดังนี้
ไม่ต้องเป็นข้าราชการ..ก็มีบำนาญได้ โครงการออมเงินเพื่อเป็นหลักประกันบำนาญให้กับประชาชนที่ไม่อยู่ในระบบสวัสดิการแรงงาน ซึ่งดำเนินการโดยกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)
วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ จัดทำขึ้นเพื่อสนับสนุนให้พี่น้องประชาชน ได้มีโอกาสออมเงินเก็บไว้ใช้หลังอายุ 60 ปี เรียกว่าเป็นเงินบำนาญหลังเกษียณเหมือนกับราชการ ซึ่งจะช่วยให้การใช้ชีวิตในวัยสูงอายุมีความสุขขึ้น
สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ คือ กลุ่มประชาชนที่ไม่มีสวัสดิการแรงงาน อาทิ กลุ่มของพ่อค้าแม่ค้า เกษตรกร แม่บ้าน และกลุ่มอาชีพรับจ้างทั่วไป แรงงานนอกระบบ และผู้ที่ไม่ยังไม่รับความคุ้มครอง เช่น นักเรียน นักศึกษา เป็นต้น โดยกลุ่มคนเหล่านี้สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้โดยสมัครใจ และเริ่มต้นออมได้ตั้งแต่ 50 – 13,200 ต่อปี และไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะต้องจ่ายเงินออมในทุกเดือน
โดยหากเดือนไหนมีน้อย ก็จ่ายน้อย เดือนไหนมีมากสามารถจ่ายมากได้ โดยรัฐจะจ่ายสมทบให้อีกส่วนหนึ่งในทุกวันที่ 15 ของเดือนถัดไป โดยแบ่งช่วงอายุดังนี้
-ช่วงอายุ 15-30 ปี รัฐจะจ่ายสมทบให้ 50% ของเงินออมแต่ละครั้งโดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 600 บาท
-ช่วงอายุ 30-50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออมแต่ละครั้ง โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 960 บาท
-ช่วงอายุ 50-60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออมแต่ละครั้ง โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 1,200 บาท
ซึ่งเมื่อออมเงินจนถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ ก็จะได้เงินกลับคืนมาเป็นเงินบำนาญ สูงสุดถึง 7,200 บาท/เดือน
โดยพี่น้องประชาชนที่สนใจสามารถสมัครสมาชิกและส่งเงินออมสะสม โดยใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชน ผ่านทางหน่วยรับสมัครของ กอช. อาทิ ที่ว่าการอำเภอ 878 แห่งทั่วประเทศ สำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ ธนาคารรัฐทั้ง 4 แห่งคือ ธ.ก.ส. ,ธอส. ,ธ.ออมสิน และ ธ.กรุงไทย ทุกสาขา หรือผ่านสถาบันการเงินชุมชน และเครือข่าย กอช.ทั่วประเทศ
นอกจากนี้เมื่อเป็นสมาชิกของ กอช. และเริ่มออมเงินแล้ว พี่น้องประชาชนสามารถดูยอดสะสมเงินออม ได้ผ่านแอพพลิเคชั่น “กอช.” โดยกรอกข้อมูลชื่อบัญชีผู้ใช้ และรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ
นี่คืออีกหนึ่งโครงการของรัฐบาล โดยหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงการคลัง ซึ่งต้องการดูแลสร้างสวัสดิการที่ดีให้กับคนไทยทุกคน เพื่อให้คุณภาพชีวิตที่ดี และก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างมีคุณภาพ อ่านข้อมูลและคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์เพิ่มเติมที่ กองทุนการออมแห่งชาติ – กอช.