โควิดไทยวันนี้ ไม่ดีขึ้น หมอโอภาสชี้จับตา 2 เดือน ถ้าคุมไม่อยู่ แนะใช้ยาแรง

อย่างที่ทราบกันดีว่า โควิดประเทศไทยเริ่มมควบคุมไม่อยู่ เนื่องจากทั้งยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นอย่าง โควิดล่าสุด มียอดผู้ป่วยมากถึง 11,784 ราย เสียชีวิตมากถึง 81 ราย ขณะที่ยอดสะสมตั้งแต่เริ่มระบาดครั้งแรกคือปี 62 ยอดสะสมล่าสุดอยู่ที่ 415,170 ราย เสียชีวิตสะสมล่าสุดที่ 3,422 หายป่วยเพียงแค่ 289,651 รายเท่านั้น (ข้อมูล 19 ก.ค. 64 เวลา 11.30 น.)

***ไทยอยู่ลำดับที่ 54


 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าวยอมรับว่า ช่วงนี้ทำได้เพียงชะลอไม่ให้ตัวเลขของผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ซึ่งถ้าหากประเทศไทยไม่มีมาตรการที่เข้มข้นและจริงจังขึ้น เชื่อได้ว่า ยอดติดเชื้อรายใหม่ก็จะยังไม่ลดน้อยลง ดังนั้น จึงอยากจะขอให้คนไทยได้ร่วมมือกันดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด

นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อไปว่า คาดการณ์เอาไว้ว่า 2 สัปดาห์ ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อยังคงไม่ลดน้อยลงในเร็ววันนี้ แต่ถ้าหากยังมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะเวลา 2 เดือนนี้ ก็อาจจะใช้มาตรการล็อคดาวน์คล้ายเมืองอู่ฮั่น คือ ล็อคดาวน์เมืองเพื่อคุมการระบาด ประชาชนต้องอยู่บ้าน งดการเดินทาง หรือถึงขั้นต้องส่งข้าวส่งน้ำตามบ้าน

"ในช่วง 1 - 2 เดือนนี้ จึงถือว่าเป็นช่วงที่วิกฤตที่สุด แต่คาดว่า ไตรมาส 4 สถานการณ์จะดีขึ้น"  อธิบดีกรมควบคุมโรคทิ้งท้าย

ขณะเดียวกัน ด้านพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. ได้ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การแก้ไขปัญหาการควบคุมโรค ประกอบด้วยรัฐ เอกชน ประชาชน และสื่อมวลชน นั้นซึ่ง ภาครัฐ ได้กำหนดนโยบาย และมีเอกชนและประชาชนช่วยเหลือและสนับสนุน 

ในขณะที่สื่อมวลชนทำหน้าที่ชี้แจงให้เข้าใจ จึงสามารถก้าวข้ามสถานการณ์นี้ได้ ส่วนมาตรการที่ออกมาล่าสุด จำเป็นต้องปรับให้ทันสถานการณ์ เนื่องจากการระบาดยังคงเพิ่มมากขึ้น และไม่จำเป็นต้องเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพราะได้ออกข้อกำหนดเพิ่มมาตรการไว้แล้ว แต่สาเหตุที่ไม่มีการสั่งห้ามไปเลยในข้อกำหนดว่า การออกประกาศหรือคำสั่ง เมื่อประกาศแล้วต้องทำได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

"หวังว่าประชาชนจะให้ความร่วมมืออย่างน้อย 14 วัน ไม่อยากให้มีการตั้งด่าน ส่วนการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home ก็อยากให้ทำ 100%" ผอ.ศปก.ศบค. กล่าว

 

 

โดยก่อนหน้านี้ มีประกาศคำสั่งการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งเป็นคำสั่งจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในหัวข้อเรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งจะมีข้อบังคับในพื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ดังนี้

1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด
2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด 53 จังหวัด
3. พื้นที่ควบคุม 10 จังหวัด
4. พื้นที่เฝ้าระวังสูง 1 จังหวัด

อย่างไรก็ตาม ประกาศดังกล่าวนี้ จะมีผลประกาศใช้ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง