- 29 ก.ค. 2564
สรยุทธ สุทัศนะจินดา ฟาดเดือด ที่ปรึกษา ศบค. หลังตั้งคำถามเหมือนพยายามจะจับคำพูด ถามกลับเป็นธรรมหรือเปล่าครับ
สืบเนื่องจากกรณีที่คุณตาวัย 93 ปีถูกทิ้งไว้กลางทางพร้อมครอบครัว ทั้งๆ ที่เป็นผู้ป่วยโควิด 19 ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นพบว่า กลุ่มบุคคลที่นำครอบครัวคุณตามาปล่อยไว้แบบนี้คือทหาร ก่อนที่ กองทัพไทย จะออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้ทอดทิ้งผู้ป่วยแต่อ้างว่า ทั้ง 3 คนขอลงรถเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คุณตาวัย 93 พร้อมครอบครัว ติดโควิดถูกทหารปล่อยทิ้งกลางทาง
ต่อมา สรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมทั้งรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปว่าหดหู่ ทำให้ ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษา ศบค. นำไปโพสต์ต่อ
พร้อมทั้งระบุข้อความว่า "โดยบอกกับคุณตาว่า ส่งแค่นี้แล้วก็ไป" ... ไม่ทราบคุณสรยุทธเอาข้อมูลนี้มาจากไหนอ่ะครับ ผมดูคลิปของไทยรัฐและในโพสต์ของกลุ่มเส้นด้ายแล้วก็ไม่เห็นมีนะครับ"
ต่อมา สรยุทธ ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง แบบสวนอย่างเผ็ดร้อน พร้อมแท็กชื่อเฟซบุ๊กของ ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต ด้วยการทวนคำถามข้างต้น พร้อมกับถามที่ปรึกษา ศบค.รายนี้ว่า โพสต์ตั้งคำถามนี้ เพื่ออะไรครับ …
สรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้อธิบายต่อว่า โพสต์นี้ที่อ้างเอามาตั้งคำถาม ตนลงตอนเที่ยงคืน 9 นาทีของคืนก่อน หลังได้รับทราบข่าวนี้ และทีมข่าวได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ปรากฎตาม “คลิปภาพและเสียง” ของลูกชายวัย 42 ปีของคุณพ่ออายุ 63 ปี และคุณปู่ วัย 93 ปี ในค่ำคืนวันนั้น
รวมทั้งนักข่าวได้ตรวจสอบเบื้องต้น โดยสัมภาษณ์ญาติ (ลูกสาวอีกคน) ของครอบครัวนี้ ที่ได้รับแจ้งว่าคุณลุงทั้ง 3 คนไปนั่งรออยู่ริมถนนกลางดึก ได้อย่างไร ปรากฎตามคลิป ประโยคที่ถามผมว่า “โดยบอกกับคุณตาว่า ส่งแค่นี้แล้วก็ไป" เอามาจากไหนก็จับใจความมาจากทั้ง 2 คลิปนี้ครับ
เข้าใจความหมายมั้ยครับ “ส่งแค่นี้ … แล้ว (เจ้าหน้าที่) ก็ไป” รู้จักการสื่อสารแบบจับใจความมั้ยครับ สื่อถึงขนาดต้องจับคำพูด “ตรงเป๊ะ” มานำเสนอเท่านั้นหรือครับ การตั้งคำถามนี้ คงเพราะ หนึ่งไม่ได้ดูรายการในเช้าวันต่อมา ซึ่งได้นำเสนอข้อเท็จจริงนี้อย่างครบถ้วน ปรากฎในคลิปรายการที่ดูยัอนหลังได้
สอง ผลจากการตั้งคำถามนี้ ย่อมทำให้คนที่อาจไม่ได้ติดตามข่าวนี้จากรายการ มองผมในแง่ร้าย และย่อมทำให้เกิดความเสียหาย โดยประการที่จะทำให้ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ไม่อยากจะคิดว่า จะจับผิดการทำงานสื่อใช่มั้ยครับ ทำเพื่ออะไรครับ
และทำในนามส่วนตัว หรือในนามที่ปรึกษาด้านสื่อของ ศบค.ครับ การเอาโพสต์ของผมที่โพสต์ไว้ตั้งแต่หลังเกิดเหตุทันที แล้วเอามาตั้งคำถามในภายหลัง แบบพยายามจะจับคำพูดแบบนี้ เป็นธรรมหรือเปล่าครับ
คืนวันนั้น มีเสียงลูกชายที่อยู่ในที่เกิดเหตุบอกในคลิปด้วยว่า “ทหาร” มาส่ง แต่เมื่อไม่สามารถยืนยันได้ว่าจริงหรือไม่ หรืออาจจะเป็นความเข้าใจผิด เมื่อยังไม่สามารถตรวจสอบได้ ผมก็ให้ดูดเสียงคำนี้ออก และไม่ได้พูดในรายการเลยว่าหน่วยงานไหน เพื่อให้ความเป็นธรรมในเบื้องต้นด้วย
หลังเจ้าหน้าที่ออกมาชี้แจง มีคลิปเสียงชายคนเดิม ขอโทษเจ้าหน้าที่ สรุปว่า รถวิ่งเลยไป เลยขอลงเอง ข้อนี้ บอกตรงๆ นะครับ ปกติ จะต้องขยายให้ข้อเท็จจริงปรากฎ 2 ด้านว่า ลูกสาว กับเจ้าตัวเองในคืนนั้นพูดว่าอย่างไร แต่ผมเห็นว่าในยามวิกฤติ ควรจะให้กรณีนี้เป็นบทเรียน เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีกเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องขยายให้เรื่องลุกลามกลายเป็นความขัดแย้ง เมื่อต้องร่วมกันแก้ปัญหา
ที่สำคัญ ด้วยความเคารพนะครับ ตามหลักการควบคุมโรคระบาด ต่อให้ ผู้ป่วยโควิด ทั้ง 3 ราย “ขอลงเอง” ก็ยอมให้ทำแบบนั้นไม่ได้ครับ เพราะเป็นผู้ติดเชื้อโรคระบาด ยิ่งเป็นผู้สูงวัย ขนาด 93 , 63 ปี ในยามค่ำคืนแบบนั้น ย้ำนะครับ สื่อมีหน้าที่สะท้อนปัญหาตามความเป็นจริงในสังคมครับ ในวิกฤติโรคระบาด ร่วมแรงร่วมใจกันทำความเข้าใจกับประชาชน ช่วยเหลือประชาชนดีกว่ามั้ยครับ"
จนล่าสุด ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต ที่ปรึกษา ศบค. ก็ได้โพสต์ถึงสรยุทธอีกครั้งว่า "วันนี้เจอไปสองดอกเลยแค่ถามก็ไม่ได้นะครับยังไม่ทันจะว่าอะไรเลยสงสัยต้องงดโพสต์สักอาทิตย์หนึ่ง"
ข้อมูลจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว และ Warat Karuchit